สำนักงานนวัตกรรมฯเปิดสนง.ภาคเหนือ ดันเชียงใหม่สู่ศูนย์กลางการพัฒนาในภูมิภาค
รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ประธานกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า หนึ่งในภารกิจของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. คือ ต้องการมุ่งเน้นการขับเคลื่อนประเทศให้เปลี่ยนแปลงไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยการผลักดันให้เกิดการพัฒนาศักยภาพของคน และการนำเอาองค์ความรู้แบบบูรณาการศาสตร์ ผนวกกับงานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ในระดับภูมิภาค ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือของหน่วยงานเครือข่ายในหลากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคการศึกษาและภาคเอกชน ที่พร้อมจะช่วยกันพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในพื้นที่ภูมิภาคให้พร้อมเติบโตและสามารถสร้างนวัตกรรมที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของประเทศ ส่งผลให้เกิดการพัฒนาทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกพื้นที่ของประเทศ
โดยมี สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมและพัฒนาความสามารถด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมในประเทศ ซึ่งส่งเสริมและสนับสนุนงานด้านนวัตกรรมของประเทศผ่านโครงการหรือกิจกรรมต่างๆ โดยใช้เครื่องมือและกลไกสนับสนุนรูปแบบต่างๆ มาใช้ประโยชน์ในการยกระดับขีดความสามารถด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีของประเทศในทุกระดับ ทาง NIA เล็งเห็นความสำคัญของการยกระดับนวัตกรรมและกระจายโอกาสการเข้าถึงการพัฒนานวัตกรรมในส่วนภูมิภาคที่นำเอาการประยุกต์ใช้นวัตกรรมไปต่อยอดธุรกิจ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายในแผนปฏิบัติการของงานนวัตกรรมภูมิภาคที่ส่งเสริมให้เกิด “ระบบนิเวศนวัตกรรม”
ดังนั้นการจัดตั้งสำนักงานภาคเหนือของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ จะเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาระบบนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชนไทยในภาคเหนือ โดยการดำเนินงานของสำนักงานภาคเหนือ จะเป็นสำนักงานส่วนหน้าที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานหรือกลไกการสนับสนุนทางด้านนวัตกรรมในพื้นที่ รวมถึงเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนระหว่างภาคีเครือข่ายนวัตกรรมในพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้หรือกิจกรรมทางด้านนวัตกรรมในพื้นที่ สำนักงานภาคเหนือจะดำเนินงานร่วมกับเครือข่ายหน่วยปฏิบัติการส่วนหน้า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว. ส่วนหน้า) เพื่อร่วมเป็นข้อต่อสำคัญเชื่อมโยงองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของ อว. ให้กับพื้นที่ต่อไป
ด้านดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า การพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมหรือการยกระดับความสามารถด้านนวัตกรรมในส่วนภูมิภาคของประเทศไทย มีประเด็นท้าทายอยู่ 6 ด้านสำคัญได้แก่
1.จำนวนวิสาหกิจฐานนวัตกรรมไม่เพียงพอ (Lack of IBE) : ภาคเอกชนขาดความรู้ ความเข้าใจ และความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรม สนช. จึงมีแนวทางหรือเครื่องมือในการสร้างและพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการผ่านแผนการดำเนินงานใน 3 ระยะ ได้แก่
ระยะเริ่มต้น เครื่องมือในการสร้างและเพิ่มจำนวนนวัตกรรุ่นใหม่ในพื้นที่ เช่น โครงการ Pioneering Innovatior Network (PIN)
ระยะเติบโต เครื่องมือส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรม เช่น กลไกการสนับสนุนด้านการเงินผ่าน โครงการ Open Innovation หรือ Social Innovation
ระยะขยายการเติบโต เครื่องมือการทำให้ธุรกิจนวัตกรรมเกิดการขยายตัวหรือเติบโตขึ้น เช่น กลไกการสนับสนุนด้านการเงินผ่าน โครงการนวัตกรรมดี…ไม่มีดอกเบี้ย หรือเชื่อมโยงการลงทุนผ่าน Investor นอกจากนี้ยังมีกลไกการสนับสนุนที่ไม่ใช้ด้านการเงินเช่น โครงการ “ม้านิลมังกร” เป็นต้น
2.ขาด “นวัตกร” ในระบบนวัตกรรมภูมิภาค : การขาดแคลนบุคคลากรหรือองค์กรที่ส่งเสริมด้านการพัฒนานวัตกรรม ทั้งที่เป็นหน่วยงานภาครัฐและภาคการศึกษา สนช. จึงมีแผนการดำเนินงานใน 3 ระยะ ได้แก่
ระยะเริ่มต้น เครื่องมือในการสร้างและเพิ่มจำนวนบุคคลากรและองค์กรในฝั่งภาครัฐและภาคการศึกษา เช่น โครงการ Public and Private Chief Innovation Leadership (PPCIL) หรือ โครงการ Chief City Innovation Officer (CCIO) รวมทั้ง โครงการ Pioneering Innovatior Network (PIN)
ระยะเติบโต เครื่องมือในการบริหารจัดการองค์กรนวัตกรรม เช่น โครงการประเมินศักภาพองค์กรนวัตกรรม
ระยะขยายผล การเชื่อมโยงระหว่างฝั่งผู้รับบริการและผู้ให้บริการงานนวัตกรรม สนช. จึงพยายามทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการประสานงาน และให้บริการการสนับสนุนการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านนวัตกรรม เช่น Web Application ด้านข้อมูลเชิงพื้นที่และการบริการในด้านต่างๆ
3.กฎระเบียบไม่ตอบสนอง หรือเอื้อต่อการสร้างและใช้นวัตกรรม : ปัญหาที่เกิดจากกฎระเบียบและปัญหาของกฎหมายที่มีความล้าหลัง สนช. จึงมีแผนในการดำเนินงานคือ การจัดทำภาพการอนาคตเชิงพื้นที่ (foresight) และแนวทางการแก้ไขปัญหา และจัดทำเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อแก้กฎระเบียบหรือข้อกฎหมายที่มีปัญหา และยังรวมถึงโครงการจัดทำพื้นที่ทดลองต้นแบบ (City Lab)
4.การพัฒนานวัตกรรมที่รวมศูนย์ : ปัญหาการกระจุกตัวของการทำนวัตกรรมอยู่นะเฉพาะเมืองใหญ่ สนช. จึงเพิ่มช่องทางและการพื้นที่ในการส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมเชิงพื้นที่ผ่าน การจัดทำระเบียง เมือง และย่านนวัตกรรมในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งการจัดตั้ง สนช. สำนักงานภูมิภาค
5.การเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านนวัตกรรม : การขาดการใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานด้านการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ สนช. จึงพยายามทำความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ในการจัดกิจกรรมหรือโครงการต่างๆ ร่วมกันเพื่อให้เกิดการต่อยอดการใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานให้ได้มากที่สุด เช่น โครงการม้านิลมังกร หรือการจัดตั้ง หน่วยบ่มเพาะธุรกิจนวัตกรรมทั้งด้านเศรษฐกิจ (Certified Incubator) และสังคม (Social Innovation Driving Unit : SID)
6.การสร้างเมืองนวัตกรรมระดับโลก : ซึ่งต้องมีการเชื่อมโยงกับเครือข่ายต่างประเทศ สนช. จึงพยายามทำความร่วมมือทางด้านการเชื่อมโยงเครือข่ายต่างประเทศ ผ่านหน่วยการทูตนวัตกรรม (Innovation Diplomacy) รวมถึงการจัดตั้ง Startup Global Hub ที่ให้บริการด้าน Smart VISA ให้กับชาวต่างชาติ ที่ทำงานด้านนวัตกรรมในประเทศ
การจัดตั้ง NIA Northern Regional Connect ซึ่งเป็นสำนักงานภูมิภาคแห่งแรก ตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเมืองอันดับสองของประเทศรองจากกรุงเทพฯ ที่มีความพร้อมสู่การเป็นเมืองนวัตกรรม ทั้งยังตรงกับยุทธศาสตร์การยกระดับความสามารถด้านนวัตกรรมและสร้างโอกาสเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านนวัตกรรมในส่วนภูมิภาคของประเทศไทย รวมถึงการสร้างแบรนด์พื้นที่ของย่านเมือง หรือระเบียงนวัตกรรมที่มีอัตลักษณ์และมีความโดดเด่นให้เกิดกิจกรรมและการลงทุนทางด้านนวัตกรรม โดยสำนักงานภาคเหนือจะทำหน้าที่เป็น System Integrator ในการเชื่อมโยงส่วนราชการท้องถิ่น มหาวิทยาลัย ภาคเอกชน และชุมชน โดยจะร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่เช่น เทศบาล มหาวิทยาลัย หรือ อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคในการดำเนินงานร่วมกันเพื่อเป็นศูนย์กลางการพัฒนาขับเคลื่อนนวัตกรรมระดับภูมิภาค
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี