ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีประดับเครื่องหมายยศและ แสดงความยินดี แก่ผู้ที่ได้รับพระราชทานยศนายพลเรือ และพิธีรายงานตนเองของนายทหารชั้นนายพลเรือ ในวาระเมษายน 2565

วันนี้ (1 เม.ย.65) เมื่อเวลา 13.30 น. พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีประดับยศแสดงความยินดีให้แก่ผู้ที่ได้รับพระราชทานยศทหารชั้นนายพลเรือและพิธีรายงานตนเองของนายทหารชั้นนายพลเรือ ในวาระ เมษายน 2565 ณ ท้องพระโรง พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ

โดยในเวลา 13.30 น. ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เป็นประธานในพิธีประดับยศและแสดงความยินดีกับนายทหารชั้นยศนายพลเรือที่ได้รับพระราชทานยศสูงขึ้น โดยมีนายทหารชั้นยศนายพลเรือ ที่ได้รับพระราชทานยศสูงขึ้น จำนวน 17 นาย แยกเป็น พลเรือเอก 4 นาย พลเรือโท 5 นาย พลเรือตรี 8 นาย อาทิ พลเรือเอก เคารพ แหลมคม ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ พลเรือเอก ภิญโญ โตเลี้ยง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ พลเรือเอก อุดม ประตาทะยัง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ พลเรือเอก วินัย สุขต่าย ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ พลเรือโท ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ เจ้ากรมข่าวทหารเรือ

จากนั้นในเวลา 14.00 น. ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เป็นประธานในพิธีรายงานตนเองของนายทหารชั้นนายพลเรือที่เข้ารับตำแหน่งใหม่ ในจำนวนนี้มีนายทหารชั้นยศนายพลเรือ ในตำแหน่งสำคัญ เข้าร่วมพิธี อาทิ พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ พลเรือโท อำนวย ทองรอดรองเสนาธิการทหารเรือ พลเรือโท ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ พลเรือโท จรัญวี ญาดีผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรกองทัพเรือ พลเรือโท เกรียง ชุณหชาติ เจ้ากรมสรรพาวุธทหารเรือ และ พลเรือโท ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ เจ้ากรมข่าวทหารเรือ

โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ให้โอวาทแก่ผู้ร่วมพิธี ความว่า “ในการปรับย้ายตำแหน่งหน้าที่ราชการ นั้น นอกจากความรู้ความสามารถ กำลังกาย กำลังใจ และกำลังสติปัญญา ที่ท่านได้ทุ่มเท จนบังเกิดผลดีต่อกองทัพเรือและประเทศชาติแล้วนั้น ยังเป็นการปรับย้ายเพื่อความเหมาะสม ซึ่งเป็นการหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันตามเวลา ไม่ว่าท่านดำรงตำแหน่งใดทุกตำแหน่งล้วนมีความสำคัญต่อกองทัพเรือทั้งสิ้น จึงขอให้ทุกท่านตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มกำลังความสามารถด้วยความจงรักภักดีด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด สุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าสิ่งอื่นและขอให้มีความรัก ความสามัคคี เพื่อร่วมกันเสริมสร้างและพัฒนากองทัพเรือ อันเป็นที่รักยิ่งของเราให้มีความเจริญก้าวหน้าและมั่นคงสืบไป”