โดย ดร. ธารากร วุฒิสถิรกูล นายกสมาคมการค้าการลงทุนเส้นทางสายไหมไทยจีน
ถึงแม้สงครามตอนนี้ยังไม่เกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แต่ภูมิภาคนี้ถือเป็นเกมอำนาจ ที่มีเดิมพันอย่างสูง กรณีทะเลจีนใต้ ประเทศไทยมียุทธศาสตร์ตั้งรับแบบไหน? ผู้ที่สนใจด้านโยบายการต่างประเทศควรทำการศึกษาอย่างลึกซึ่ง!
นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ได้เขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ก็มุ่งเดินนโยบายการต่างประเทศเชิงรุก นำพาสหรัฐฯเร่งเดินหน้าอย่างแข็งขัน ในเรื่องการปรับนโยบายหันหัวเรือ กำหนดทิศทางใหม่เพื่อเข้ามามีบทบาทในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งถึงแม้เวลานี้ หลายๆประเทศต้องคิดการ หาทางรับมือกับวิกฤต สงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่ในด้านอินโด-แปซิฟิก ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียนเป็น “สิ่งสำคัญ” ที่สหรัฐฯ ให้ความสนใจ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้กล่าวว่าสหรัฐฯ จะกลับมาสร้างบทบาทภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตั้งแต่เข้าดำรงตำแหน่ง โดยสหรัฐฯ อ้างว่า ถูกรัฐบาลจีนบีบให้ปิดสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเฉิงตู อีกทั้งยังมาก่อสร้างสถานกงสุลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นได้ชัดว่า มียุทธศาสตร์ให้ความสำคัญและปักหมุดควบคุมภูมิภาคล้านช้าง-แม่น้ำโขง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน รวมถึงภูมิภาคนี้
ช่วงนี้ สงครามยูเครน-รัสเซีย ดูเหมือนว่ายูเครนสู้เผชิญหน้ากับรัสเซียแท้จริงแล้วอาจไม่ใช่แค่สองประเทศ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า ชนวนเหตุแห่งสงคราม เป็นเรื่องระหว่างองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ นำโดยสหรัฐ ฯ เพื่อปะทะกับรัสเซีย ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันดีว่า สหรัฐฯยอมรับว่าได้ร่วมมือกับยูเครนเพื่อสร้างห้องปฏิบัติการทางการแพทย์-ชีววิทยาจำนวนมาก ซึ่งได้รับการยืนยันเช่นเดียวกันว่า สหรัฐฯ มีห้องปฏิบัติการทางการแพทย์-ชีววิทยาในโลกกว่า 100 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ผ่านหน่วยงานที่ชื่อว่า กองอำนวยการหน่วยแพทย์ทหารบกสหรัฐฯ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (USAMD-AFRIMS) ซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์การแพทย์กองทัพบกไทยในกรุงเทพฯ ด้วยเช่นกัน แม้ว่าหน่วยงานนี้จะมีภารกิจด้านการแพทย์ โรคติดเชื้อ โรคระบาด วัคซีน ฯลฯ ซึ่งก็เป็นการยากที่จะประเมินว่าห้องปฏิบัติการเหล่านี้จะมีความปลอดภัยต่อพื้นที่ตั้งแค่ไหน อีกทั้งยังมีกรณีมากมายที่เจอผู้ป่วยต้องสงสัยในพื้นที่ใกล้ห้องปฏิบัติการทางชีววิทยาของสหรัฐฯ ในประเทศยูเครน ซึ่งประเทศไทยและกลุ่มประเทศภูมิภาคนี้ก็มีความกังวลและไม่อยากให้มีห้องแล็บแบบนี้ในบ้านตนเอง
สำหรับประเทศไทย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเอง หลักการของเราก็คือไม่ควรเลือกข้าง ประเทศไทยต้องตระหนักให้ดีว่าสงครามครั้งนี้มีผลกระทบต่อทุกคนในโลก สงครามทำให้เศรษฐกิจการค้าโลกปั่นป่วน ทำให้พลังงานและวัตถุดิบอาหารแพงขึ้น ทางออกสำหรับเรื่องนี้ ประเทศไทยจึงควรกำหนดนโยบายในทุกกระทรวง กรม กอง ให้สอดคล้องกัน มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างสันติเป็นหลักการที่ และอย่าลืมอดีต ที่ประเทศไทยเคยถูกใช้เป็นฐานทัพทหารสหรัฐฯ ในสงครามเย็น ประเทศไทยควรพิจารณาอย่างจริงจังว่าด้วย การกำหนดทิศทางร่วมกันกับกลุ่มประเทศอาเซียน กำหนดให้กลุ่มประเทศอาเซียนเป็นดินแดนที่ปราศจากสงคราม เปลี่ยนการทหารให้เป็นการค้าการลงทุน เพื่อให้มั่นใจว่าอาเซียนสามารถรักษามิตรภาพกับทุกฝ่าย มากกว่าที่จะเป็นเครื่องมือของประเทศใดประเทศหนึ่ง
ประเทศไทยควรหลีกเลี่ยงการล้มเกมของมหาอำนาจในเอเชีย-แปซิฟิก เราควรพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่องและหยุดการถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือของมหาอำนาจ รัฐบาลไทยควรคิดให้มากขึ้นว่า เราควรฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างไรในยุดหลังโรค Covid19 และ ช่วยกันแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
รัฐบาลไทยคารตั้งรับและฟื้นเศรษฐกิจ ให้ประชาชนกินดีอยู่ดีและมีชีวิตที่ดี มุ่งเปิดประเทศให้เร็วที่สุดเพื่อให้นักลงทุนกลับเข้ามาเพื่อรองรับการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต มุ่งสร้างผู้ประกอบการ เกษตรสมัยใหม่ เศรษฐกิจชีวภาพ ท่องเที่ยวคุณภาพ กระตุ้นอุปสงค์ และการท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคบริการ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจึงต้องหันกลับมาการสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศให้ได้ก่อนเป็นจุดตั้งต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี