นายชาญพิทยา ฉิมพาลี อดีตอธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า ในยุค 20-30 ปีผ่านมา ที่เสียงเพลงลูกทุ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่คนไทย คงไม่มีใครไม่รู้จักนักร้องชื่อดังคนหนึ่ง เจ้าของฉายา “แหบมหาเสน่ห์” ที่ชื่อว่าสายัณห์ สัญญา แม้ว่าทุกวันนี้ สายัณห์จะด่วนลาจากพวกเราไปแล้วแต่มิตรรักนักเพลงแฟนประจำยังคงตราตรึงในเสียงร้องและผลงานการแสดงของเขาอย่างไม่เสื่อมคลาย แฟนๆ หลายคนอาจทราบมาบ้างแล้วว่าประวัติของสายัณห์เป็นมาอย่างไร แต่กระนั้นบางแง่มุมของเขา อาจจะยังไม่กระจ่างชัดนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถิ่นกำเนิดบ้านเกิดของเขา ว่าอยู่ ณ ที่ใดกันแน่
ฉะนั้น หลังสงกรานต์ ปี 2566 ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุพุ่งทะลุ 40 องศา ผมได้มีโอกาสเดินทางไปตำบลป่าสะแก อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อสืบเสาะหาข้อมูลเกี่ยวกับบ้านเกิดของสายัณห์ โดยมีอาจารย์นพรัตน์ พิมจุฬา อาจารย์สริ ดวงแก้ว และกำนันประจบพร ระโหฐาน คอยต้อนรับพร้อมทั้งร่วมเดินทางไปยังสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับสายัณห์ ได้แก่ จุดที่เกิด โรงเรียน และสถานที่ใช้ชีวิตช่วงเยาว์วัยก่อนที่สายัณห์จะผันตัวเองไปเป็นนักร้องและได้รับความนิยมจนกลายเป็นดาวประดับฟ้า
ก่อนที่จะเล่าสิ่งที่ผมได้พบเห็นต่อไป ผมคิดว่า แฟนๆ สายัณห์ ส่วนหนึ่งคงทราบข้อมูลของเขามาบ้างแล้วจากสื่อมวลชนที่นำเสนอเรื่องของเขาว่าสายัณห์มีชีวิตเริ่มต้นที่ค่อนข้างอัตคัดขัดสน ในวัยเด็กต้องดิ้นรนต่อสู้ รับจ้างแม้กระทั่งเลี้ยงควาย แต่ในส่วนที่แทบจะไม่มีใครเหมือน เขาได้เคยให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนเขาเกิด พ่อและแม่ของเขา ซึ่งมีชื่อว่านายอ่องและนางบุญช่วยต่างก็มีภรรยาและสามีมาก่อนทั้งคู่โดยภรรยาเดิมของพ่ออ่องมีชื่อว่านางไมส่วนสามีเดิมของแม่บุญช่วยชื่อนายเที่ยงต่อมานางไมและนายเที่ยงได้เสียชีวิตไป พ่อหม้ายอ่องกับแม่หม้ายบุญช่วยก็ได้แต่งงานกัน หลังจากนั้นจึงให้กำเนิดสายัณห์ พร้อมกับคู่ฝาแฝดที่ชื่อ สายน ทั้งนี้ ก่อนที่จะอยู่กินกับแม่บุญช่วยและเกิดสายัณห์นั้น พ่ออ่องและนางไมมีลูกด้วยกัน 7 คน ส่วนแม่บุญช่วยกับนายเที่ยง ก็มีลูกด้วยกัน 7 คนเท่ากัน
สถานที่ที่พวกเราเดินทางไปคือ หมู่ 5 ตำบลป่าสะแก ปัจจุบัน กรมทางหลวงชนบท ตั้งป้ายชื่อบ้านว่า บ้านใหม่ป่าสะแก ซึ่งคณะผู้ต้อนรับตระเตรียมไว้รวม 2 จุด จุดแรก บ้านป้าสด และป้าอางค์ ซึ่งเป็น 2 พี่สาวสายัณห์ ที่ยังคงมีชีวีตอยู่ ส่วนอีกจุดคือ บ้านคุณสายชล ซึ่งเป็นหลานชายสายัณห์
ที่จุดแรก เป็นบ้านที่พ่ออ่องได้เคยอาศัยอยู่ พวกเรานั่งคุยที่ใต้ถุนบ้าน ได้พบปะพูดคุยกับพี่สาวสายัณห์คือ ป้าสดกับป้าอางค์ ป้าสดอายุ 90 ปี แต่ไม่น่าเชื่อว่ายังแข็งแรงกระฉับกระเฉง ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยมาก ความคิดความจำ การพูดจาเหมือนคนอายุเพียง 70 ต้นๆ ส่วนป้าอางค์อายุ 80 กว่าๆ ก็เช่นเดียวกันที่ยังแข็งแรง พูดจาฉะฉาน ทั้งคู่ให้ข้อมูลว่าพ่ออ่อง เป็นคนจีนเดินทางอพยบมาจากภูมิลำเนาเดิม คือ บางกอกน้อย ฝั่งธนบุรี มาอาศัยทำมาหากินอยู่ที่ตลาดป่าสะแก (ในสมัยนั้นมีคนจีนอพยบมาอยู่ที่ป่าสะแกเป็นจำนวนมาก) เมื่อถามถึงประเด็นที่สำคัญ คือ เรื่องสถานที่เกิดของสายัณห์ ทั้งป้าสดและป้าอางค์ยืนยันพร้อมทั้งชี้มือไปยังที่ว่างติดถนนหน้าบ้านที่พวกเรานั่งคุยกันว่า จุดที่แม่บุญช่วยคลอดให้กำเนิดสายัณห์ ก็คือบ้านใต้ต้นมะขามใหญ่ติดถนนเชื่อมบ้านดอนมะเกลือกับวัดขวางเวฬุวัน ซึ่งอยู่ในเขตหมู่ 5 ตำบลป่าสะแกที่ปัจจุบันถูกรื้อไปแล้ว
ประเด็นสถานที่เกิดของสายัณห์ สัญญา นี้ มีบางฝ่ายโต้แย้งว่าอยู่ที่บ้านใหม่ไร่อ้อย ตำบลหนองโพธิ์ อำเภอสามชุก (ปัจจุบันแยกเป็นอำเภอหนองหญ้าไซ)เพราะมีหลักฐานเป็นทะเบียนบ้านระบุชื่อสายัณห์อยู่นั้นป้าทั้งสองนั่งยันนอนยันสอดคล้องกับคุณสายชลว่า ไม่ถูกต้อง ข้อเท็จจริงคือชุมชนบ้านใหม่ป่าสะแกตั้งอยู่ติดกับชุมชนบ้านใหม่ไร่อ้อยเพียงกั้นด้วยคลองกระเสียวจนเกือบจะถือได้ว่าเป็นชุมชนเดียวกัน แต่เนื่องจากมีโรงเรียนประถมศึกษาตั้งอยู่ที่บ้านใหม่ไร่อ้อย ขณะที่บ้านใหม่ป่าสะแกมีโรงเรียนอยู่ที่วัดขวางเวฬุวัน (ใช้ศาลาวัดเป็นสถานที่เรียน)ซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไปมาก เมื่อสายัณห์ถึงวัยเข้าโรงเรียน ผู้ปกครองจึงเลือกที่จะเดินทางใกล้ๆ คือเพียงข้ามไปเรียนอีกฟากคลองหนึ่ง และโดยเหตุที่พี่ๆ สายัณห์มีบางคนอาศัยอยู่ในชุมชนบ้านใหม่ไร่อ้อย สายัณห์จึงจำเป็นต้องแจ้งเข้าทะเบียนบ้านที่บ้านใหม่ไร่อ้อยตามหลักฐานที่ปรากฏ แต่กระนั้นก็ตาม ป้าสดและป้าอางค์ย้ำว่าเกือบทั้งหมดในช่วงเวลาวัยเด็กก่อนที่จะไปเป็นนักร้องดัง สายัณห์อาศัยและใช้ชีวิตอยู่ที่ป่าสะแก บ่อกรุ หนองกระทุ่มรวมทั้งที่อื่นๆ ในเขตอำเภอเดิมบางนางบวชทั้งสิ้น
ความผูกพันของสายัณห์ต่อบ้านเกิด ที่แสดงออกผ่านเสียงเพลงที่เขาร้อง จากการวิเคราะห์ของพวกเราและญาติของสายัณห์ ก็เป็นอีกหลักฐานหนึ่งที่น่าจะยืนยันถึงความเป็นคนป่าสะแก อำเภอเดิมบางนางบวชของเขาเมื่อสายัณห์ได้เคยร้องเพลงที่เอ่ยถึงอำเภอเดิมบางนางบวช คือเพลงเสียงขลุ่ยเรียกนาง และอีกเพลงได้เอ่ยถึงป่าสะแกโดยตรงโดยเนื้อเพลงดังกล่าวสายัณห์ได้ร้องว่า “ป่าสะแก เดิมบาง จังหวัดสุพรรณ เป็นถิ่นกำเนิดผมนั้น สายัณห์นักเพลงคนเศร้า..” แต่ในทางตรงข้าม ไม่เคยปรากฎว่าในเพลงของเขามีคำว่า สามชุก หนองหญ้าไซ โพธิ์ทอง หรือแม้แต่คำว่าบ้านใหม่ไร่อ้อยแต่อย่างใดเลยอีกทั้งขณะที่เป็นนักร้องดังแล้ว สายัณห์ยังได้ให้ความช่วยเหลือญาติพี่น้องหมู่ 5 ตำบลป่าสะแก พาไปทำงานร่วมอยู่ในคณะวงดนตรีด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณสายชล ผู้เป็นหลาน ซึ่งวันนั้นได้โชว์อัลบั้มภาพถ่ายเขากับสายัณห์ 2 เล่มใหญ่ และเล่าว่าตนเองได้ถูกชักชวนไปอยู่กับวงดนตรีสายัณห์ เป็นเวลานานมาก จนได้รับความไว้วางใจจากน้าสายัณห์ มอบให้เป็นผู้ควบคุมการเก็บตั๋วเวลาเปิดการแสดงวงดนตรีเลยทีเดียว นอกจากนี้คุณสายชลยังเล่าเสริมว่า สายัณห์เมื่อครั้งเป็นนักร้องดัง เคยเดินทางมาทอดกฐินผ้าป่าที่วัดดอนมะเกลือ และวัดป่าสะแกอยู่หลายครั้งปัจจุบันคุณสายชลได้ก่อสร้างกระท่อมขนาดย่อมไว้หน้าบ้านเพื่อรำลึกถึงสายัณห์มีรูปถ่ายสายัณห์และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เก็บรักษาไว้เป็นอนุสรณ์ แสดงถึงความรักและเคารพสายัณห์ผู้เป็นน้าอย่างไม่เสื่อมคลายโดยใช้ชื่อว่า “กระท่อมสายัณห์”
หลักฐานสำคัญหนักแน่นอีกประการ ปรากฎขึ้นในสื่อยูทูป ชื่อ ไฟพระราชทาน “เศร้าสิ้นตำนาน” นักร้องนักเพลงขวัญใจคนเดิม ฉายภาพยนต์เหตุการณ์วันพระราชทานเพลิงสายัณห์ เมื่อ วันที่ 19 ธันวาคม 2556 ณ วัดป่าเลไลยก์ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี นายแสนรัก เมืองโคราช ได้อ่านประวัติอย่างเป็นทางการของสายัณห์ ผู้วายชนม์ ต่อหน้าสาธารณชนที่มาร่วมงานนับหมื่นคน ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเขาเกิดที่ตำบลป่าสะแก อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี
ต่อกรณีที่มีการสร้างพิพิธภัณฑ์สายัณห์ ไว้ที่โรงเรียนบ้านใหม่ไร่อ้อย โดยกำนันชูชาติ กาฬกาญจน์อดีตกำนันตำบลหนองโพธิ์นั้น ทั้งป้าสด ป้าอางค์ และคุณสายชล ให้ความเห็นว่าถือเป็นสิ่งที่ดีงามและน่าชมเชยที่ชาวบ้านใหม่ไร่อ้อยให้ความนิยมยกย่องและเชิดชูสายัณห์ ในฐานะบุคคลสำคัญของชุมชน และฝากขอบคุณชาวบ้านใหม่ไร่อ้อยมา ณ ที่นี้ด้วย
สำหรับตัวผมเองผู้รวบรวมข้อมูลนี้ ขอเรียกร้องว่าอยากให้ทั้ง 2 หมู่บ้าน ทั้งบ้านใหม่ไร่อ้อย และ บ้านใหม่ป่าสะแก จงถือว่าเป็นถิ่นเกิดถิ่นเรียนของสายัณห์ สัญญา ร่วมกัน เพราะเป็นชุมชนอยู่ติดกันหรืออาจเรียกว่าเป็นชุมชนเดียวกันก็ว่าได้ เวลามีนักท่องเที่ยวหรือมิตรรักนักเพลง แฟนๆ สายัณห์เข้ามาเยี่ยมชม ก็อธิบายข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎ น่าจะเกิดประโยชน์ร่วมกันมากกว่านะครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี