“ประเทศไทย” เป็นประเทศที่เป็นแหล่งผลิตห่วงโซ่อาหารในระดับต้นน้ำที่สำคัญ ซึ่งปัจจุบันงานของนักวิจัยไทย มีการต่อยอดให้การผลิตห่วงโซ่อาหารในไทยมีผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และ ปลายน้ำ เพราะฉะนั้น งานวิจัยของนักวิจัยไทยจึงเน้นการต่อยอดวัตถุดิบอาหารสู่การแปรรูปอาหาร ที่สามารถเพิ่มรายได้มวลรวมประชาชาติ หรือ จีดีพี (GDP) ของประเทศให้สูงขึ้นทั้งรายได้ในประเทศ และ ด้านการส่งออกไปยังต่างประเทศ
ดังนั้น ภายในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ” ปี 2566 (Thailand Research Expo 2023) ครั้งที่ 18 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 11 สิงหาคม 2566 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร ทางสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จึงคัดเลือกงานวิจัยโดนใจมาเปิดตัว และ ให้ความรู้ก่อนถึงงานจริง เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้ทำการบ้าน และ มีฐานข้อมูลงานวิจัยอย่างเต็มอิ่ม เราไปดูกันว่ามีงานวิจัยอะไรบ้างที่โดนใจ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมอาหารของไทย
@ ขนมขบเคี้ยวกรุบกรอบสูตรใหม่ของ “มรภ.พระนคร” หนึ่งในงานวิจัยโดนใจ
ในผลงานกว่า 1,000 ผลงาน จากเครือข่ายในระบบวิจัยมากกว่า 170 หน่วยงาน ที่สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้คัดเลือกนำมาแสดงในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ” ปี 2566 ครั้งที่ 18 ซึ่งโดนใจแวดวงนักวิจัย หนึ่งในนั้นได้แก่ ผลงานวิจัย “ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวปลาแผ่นกรอบ” และ “ผลิตภัณฑ์กุ้งกรอบเม็ดมะม่วงหิมพานต์รสต้มยำ” ของ ผศ.ดร.สุชาดา ไม้สนธิ์ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร
ผศ.ดร.สุชาดา ไม้สนธิ์ เล่าว่า ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวปลาแผ่นกรอบ ผลิตจากเนื้อปลาทะเล 95% โดยใช้เทคโนโลยีการทอดกรอบแบบสุญญากาศ มีรสชาติอร่อย มีโปรตีนจากเนื้อปลา ไม่มีวัตถุกันเสีย และผงชูรส โดยได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก วช. ในโครงการ “การพัฒนาผลิตภัณฑ์ปลานิลทอดกรอบและการยืดอายุการเก็บรักษา” เพื่อศึกษาสูตรและการเตรียมปลาก่อนการทอดกรอบ รวมถึงเปรียบเทียบคุณภาพการทอดกรอบปลาด้วยวิธีทอดแบบน้ำมันท่วมและแบบสุญญากาศ และศึกษาอุณหภูมิและระยะเวลาในการฆ่าเชื้อปลาทอดกรอบที่บรรจุในรีทอร์ทเพาช์ นอกจากนี้ยังได้ศึกษาอายุการเก็บรักษาปลาทอดกรอบโดยวิธีเร่งสภาวะ
“ผลิตภัณฑ์กุ้งกรอบเม็ดมะม่วงหิมพานต์รสต้มยำ ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก วช. ในโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารว่างสำเร็จรูปพร้อมบริโภคจากกุ้ง เพื่อศึกษาพฤติกรรม ทัศนคติและความต้องการของผู้บริโภคเกี่ยวกับปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อการเลือกซื้อ อาหารว่างสำเร็จรูปพร้อมบริโภคจากกุ้ง เพื่อหาสูตรและพัฒนาอาหารว่างสำเร็จรูปพร้อมบริโภคจากกุ้ง รวมถึงเพื่อพัฒนาสูตรและกรรมวิธีการผลิตอาหารว่างสำเร็จรูปพร้อมบริโภคจากกุ้ง และเพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงคุณภาพ ทางด้านเคมี กายภาพ จุลินทรีย์ และทางประสาทสัมผัสของ อาหารว่างสำเร็จรูปพร้อมบริโภคจากกุ้งในระหว่างการเก็บรักษา” ผศ.ดร.สุชาดา เล่าให้ฟัง
สำหรับจุดเด่นของ “ผลิตภัณฑ์กุ้งกรอบเม็ดมะม่วงหิมพานต์รสต้มยำ” เป็นการนำกุ้งขนาดพอดีคำมาทอดทั้งเปลือกด้วยระบบสุญญากาศ เพื่อให้ได้กุ้งที่กรอบ เบา เพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมด้วยเครื่องสมุนไพรไทยพร้อม ถั่วทอด และเครื่องต้มยำ มีไขมันต่ำ โปรตีนและแคลเซียมสูง เป็นอาหารว่าง และใช้ปรุงประกอบร่วมกับอาหารชนิดอื่นได้ เช่น ยำ สลัด และข้าวผัด เป็นต้น อร่อย ทานง่าย พกพาสะดวก เก็บได้นาน โดยถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับบริษัท ภูผาฟาร์ม จำกัด เพื่อนำไปทดลองผลิตขายจริงในเชิงพาณิชย์ แล้ว
@ซุปกึ่งสำเร็จรูปสำหรับผู้สูงอายุ อีกหนึ่งความภูมิใจของนักวิจัยไทย
สำหรับผลงานวิจัยที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมอาหาร หนึ่งในนั้นคือ “ซุปกึ่งสำเร็จรูปสำหรับผู้สูงอายุ” ของผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วราภรณ์ วิทยาภารณ์ ที่ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคุณค่าทางโภชนาการของผู้สูงอายุ โดยใช้ส่วนผสมของสมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์เชิงหน้าที่ และสารเสริมจากไฟเบอร์ธรรมชาติดูดซับวิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก แคลเซียม และอิมัลชั่นผงที่ห่อหุ้มวิตามินบี 1 บี 2 บี 12 และโฟเลต ในรูปแบบของซุปกึ่งสำเร็จรูปรสไทยสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นอาหารฟังก์ชันที่มีคุณค่าทางโภชนาการเหมาะสมกับช่วงวัย สามารถรับประทานและกลืนได้ง่าย และมีรสชาติเป็นที่ยอมรับ เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งในการแก้ปัญหาโภชนาการในกลุ่มผู้สูงอายุ
สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคุณค่าทางโภชนาการของผู้สูงอายุ ที่ได้คิดค้นขึ้น มี 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 1. ซุปแกงเลียงกึ่งสำเร็จรูปเสริมวิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก และแคลเซียม ที่พัฒนาสูตรโดยการคัดเลือกวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมจากสมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์เชิงหน้าที่ และพืชผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ได้แก่ ฟักทอง เห็ดชิเมจิขาว เห็ดฟาง ใบแมงลัก กระชาย ฯลฯ นำมาผ่านกระบวนการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง เพื่อรักษาคุณค่าทางโภชนาการของซุปที่ผลิตได้ และการใช้สารเสริมจากไฟเบอร์ธรรมชาติดูดซับวิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก และแคลเซียม โดยใช้เทคโนโลยีการดูดซับวิตามินและแร่ธาตุสำคัญไว้ภายในกากรำข้าว
2. ซุปต้มข่าไก่กึ่งสำเร็จรูปเสริมวิตามินบี 1 บี 2 บี 12 และโฟเลต พัฒนาสูตรโดยการเลือกใช้ส่วนผสมของพืชและสมุนไพรที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ เห็ดนางรมหลวง เห็ดเข็มทอง และเห็ดฟาง นำมาผ่านกระบวนการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ซุปกึ่งสำเร็จรูปที่ยังคงคุณค่าทางโภชนาการไว้ได้สูงสุด นอกจากนี้ยังมีการเติมส่วนผสมของอิมัลชั่นผงที่ห่อหุ้มวิตามินบี 1 บี 2 บี 12 และโฟเลต โดยใช้เทคโนโลยีการเอนแคปซูเลชันห่อหุ้มวิตามิน และแร่ธาตุในการผลิตไกลโคสฟิงโกลิพิดไมโครอิมัลชันจากรำข้าว
โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคุณค่าทางโภชนาการของผู้สูงอายุได้จดสิทธิบัตร สูตรและกรรมวิธี เป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
@ต่อยอดงานวิจัยข้าวสู่ขนมและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
อีกหนึ่งผลงานที่ วช.ภูมิใจนำเสนอในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ” ครั้งที่ 18 คือ การนำผลงานวิจัยเรื่อง “การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มสุขภาพจากข้าวไทย” ของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฐิตินาถ สุคนเขตร์ และคณะ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฐิตินาถ สุคนเขตร์ เล่าถึงจุดเริ่มต้นศึกษาว่า มองว่า “ข้าวไทย” มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ จึงมีแนวความคิดที่จะมีการบูรณาการศาสตร์ตลอดห่วงโซ่การผลิตอาหาร ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มและขยายตลาดข้าวไทย โดยนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มสุขภาพจากข้าวไทยจำนวน 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำส้มสายชูหมักจากปลายข้าว และ ผลิตภัณฑ์พุดดิ้งกล้วยหอมรสช็อกโกแลตจากแป้งข้าวนึ่ง เพื่อขยายตลาดสู่กลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฐิตินาถ สุคนเขตร์ เล่าต่อว่า ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำส้มสายชูหมักจากปลายข้าว มีส่วนผสมของสารคอมเพล็กซ์ฟลาโวนจากกระชายดำกับพอลิแซคคาไรด์จากแป้งข้าว เป็นการนำกระชายดำมาสกัดให้ได้สารฟลาโวน และเตรียมเป็นสารคอมเพล็กซ์กับพอลิแซคคาไรด์จากแป้งข้าวด้วยคาร์บอนไดออกไซด์เหลวเหนือจุดวิกฤติ ทำให้ช่วยเพิ่มความสามารถในการละลายน้ำของสารสำคัญจากสมุนไพรกระชายดำ พร้อมทั้งรักษาความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระได้ นำมาพัฒนาเป็นเครื่องดื่มฟังก์ชันน้ำส้มสายชูหมักจากปลายข้าว ที่มีส่วนผสมสารคอมเพล็กซ์ฟลาโวนจากกระชายดำ ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง และมีความคงทนของสารสกัด มีความสามารถในการละลายน้ำได้มากกว่าผงกระชายดำปกติ ผลงานภายใต้คณะวิจัยเดียวกันเรื่องเครื่องดื่มฟังก์ชันน้ำส้มสายชูหมักที่มีส่วนผสมขมิ้นชันคอมเพล็กซ์กับพอลิแซคคาไรด์จากแป้งข้าว ได้รับรางวัลจากประกวดนวัตกรรมระดับนานาชาติ ในงาน “The 48th International Exhibition of Inventions Geneva” 2023 ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ส่วน ผลิตภัณฑ์พุดดิ้งกล้วยหอมรสช็อกโกแลตจากแป้งข้าวนึ่ง สืบเนื่องจากข้าวนึ่งเป็นอาหารสุขภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่มีกลิ่นและรสที่ไม่เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ผู้วิจัยจึงมีความสนใจในการศึกษาคุณสมบัติของแป้งข้าวนึ่งเพื่อใช้ทดแทนการใช้แป้งสาลีในผลิตภัณฑ์พุดดิ้ง โดยทำการคัดเลือกสูตรพื้นฐานผลิตภัณฑ์ พุดดิ้งกล้วยหอมรสช็อกโกแลต แล้วพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์พุดดิ้งกล้วยหอมรสช็อกโกแลตจากแป้งข้าวนึ่ง เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างทางเลือกแก่ผู้ประกอบการในการนำไปต่อยอดขยายผลในเชิงพาณิชย์ต่อไป เพื่อสร้างมูลค่าที่เพิ่มขึ้น และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรที่ปลูกข้าวให้มั่นคงมากยิ่งขึ้น ทำให้เกษตรกรสามารถขายข้าวเพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์จากข้าวได้ตลอดทั้งปี และยังตอบโจทย์ในเรื่องการแก้ไขปัญหาราคาข้าวที่ตกต่ำในช่วงปัจจุบัน ด้วยการพัฒนาการผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มสุขภาพจากข้าวไทย ที่มีผลสำเร็จและได้จดสิทธิบัตร สูตรและกรรมวิธี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ” ปี 2566 ครั้งนี้ เรียกว่า วช.ขนทัพผลงานวิจัยมาให้ชมอย่างเต็มอิ่ม และ ที่พิเศษกว่าทุกๆปี คือ “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ เพื่อเป็นประธานเปิดงาน ในวันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2566 เวลา 09.00 น. ณ ห้องเวิล์ด บอลรูม ชั้น 23 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และ บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิล์ด กรุงเทพฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี