กยท. มั่นใจการมอบทุนการศึกษาระดับปริญญาตรี จะช่วยพัฒนาอาชีพการทำสวนยางให้มั่นคง เกิดการคิด ค้น สร้างนวัตกรรมด้านยางพาราให้เพิ่มมากขึ้นในอนาคต และจะทำให้วงการยางพาราไทยให้ก้าวสู่ระดับโลก เผย 4 ปีมอบแล้ว 40 ทุน รวมเป็นเงิน 16 ล้านบาท พร้อมเดินหน้ามอบทุนต่อเนื่อง
20 กันยายน 2566 นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รองผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ การยางแห่งประเทศไทย(กยท.) เปิดเผยว่า จากการที่ กยท.ได้มอบทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีในหลักสูตรสาขาที่เกี่ยวข้องกับยางพาราและสถาบันการศึกษาตามที่ กยท.กำหนด ภายใต้เงินกองทุนพัฒนายางพารา มาตรา 49(5) ของพระราชบัญญัติ กยท.แก่บุตรของเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับกยท.มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563 ปีนี้เป็นปีที่ 4 โดยให้ทุนการศึกษาปีละ 10 ทุน ทุนละ 400,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด16 ล้านบาท นั้น ขณะนี้มีบุตรของเกษตรกรชาวสวนยางรับทุนการศึกษาไปแล้วรวม 40 คน และกำลังจะสำเร็จการศึกษาในปี 2567 นี้จำนวน 10 คน
ทั้งนี้จากการติดตามและประเมินผลการเรียน และการทำงานวิจัย ของบุตรเกษตรกรชาวสวนยาง ที่ได้รับทุนการศึกษา ประกอบกับกฎเกณฑ์ที่กยท.คัดเลือกผู้ที่ได้รับทุน ที่พิจารณาจากความมุ่งมั่นในการนำความรู้ที่เรียนมาไปพัฒนาอาชีพการทำสวนยาง รายได้ของครอบครัว ความมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จ ในสาขาที่เรียน บุคลิกภาพ มนุษยสัมพันธ์ การทำงานร่วมกับผู้อื่น ผลการเรียนในระดับมัธยมปลาย ตลอดจนความสามารถพิเศษอื่นๆแล้ว กยท.มั่นใจว่า บุตรเกษตรกรชาวสวนยางที่สำเร็จการศึกษาในปี 2567 และในปีต่อๆไป จะมีความรู้ความสามารถเรื่องยางพาราและเรื่องที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาอาชีพการทำสวนยางในท้องถิ่นของตนเอง และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เกี่ยวกับยางพาราให้เพิ่มมากขึ้น ทำให้อาชีพการทำสวนยางในอนาคตมีความมั่นคงอย่างยั่งยืนสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของการมอบทุนการศึกษาอย่างแน่นอน
รองผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ กยท. กล่าวต่อว่า สำหรับในปีการศึกษา 2566 กยท. ซึ่งเป็นปีล่าสุดที่ กยท.ได้มอบทุนการศึกษาในหลักสูตรปริญาญาตรีนั้น มีจำนวน 10 ทุนในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับยางพารา ของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงจำนวน 8 แห่ง ครอบคลุมเรื่องยางตั้งแต่ต้นน้ำ ได้แก่ การจัดการมาตรฐานสวนยาง และความรู้ในการจัดการสวนยางพารา จนถึงกลางน้ำและปลายน้ำ ได้แก่ การใช้เทคโนโลยีในการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากยางพารา รวมถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ การวิเคราะห์สถานการณ์ยางพาราโดยหลักวิชาเศรษฐศาสตร์ ตลอดจนการบริหารจัดการส่งออก และการจัดการโลจิสติกส์
สำหรับสถาบันการศึกษา และหลักสูตรสาขาที่ กยท.กำหนด ประกอบด้วย 1.ม.แม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ สาขาวิชาเกษตรป่าไม้ จำนวน 1 ทุน 2.ม.อุบลราชธานี คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาเทคโนโลยียางและพอร์ลิเมอร์ จำนวน 1 ทุน 3.ม.ขอนแก่น คณะเกษตรศาสตร์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์เกษตร จำนวน 1 ทุน 4.ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน คณะวนศาสตร์ สาขาวนศาสตร์ จำนวน 1 ทุน 5.ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม จำนวน 1 ทุน 6.ม.บูรพา คณะโลจิสติกส์ สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน จำนวน 1 ทุน 7. ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ คณะทรัพยากรธรรมชาติ (เกษตรศาสตร์) จำนวน 2 ทุน 8.ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม สาขาวิชาเทคโนโลยีการจัดการอุตสาหกรรมวัสดุ จำนวน 1 ทุน และ 9. ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาเทคโนโลยียางและพอร์ลิเมอร์ จำนวน 1 ทุน
“การมอบทุนการศึกษาดังกล่าว จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับบุตรชาวสวนยางให้ได้รับความรู้ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาอาชีพการทำสวนยางในท้องถิ่น ตลอดจนส่งเสริมการนำความรู้ไปสู่การต่อยอด คิดค้น และพัฒนานวัตกรรมด้านยางพาราให้เพิ่มมากขึ้นในอนาคต ซึ่งกยท. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะสามารถสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพ มีความสามารถ มาพัฒนาวงการยางพาราไทยให้ก้าวไกลสู่ระดับโลก” รองผู้ว่าการ กยท.กล่าว
นางสาวซัลมา ดือราแม นักศึกษาที่ได้รับทุนการศึกษาวิชาเทคโนโลยียางและพอลิเมอร์ มหาวิทยา ลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ประจำปี 2566 และบุตรเกษตรกรชาวสวนยาง จ.ยะลา กล่าวว่า ตนมีความผูกพันธ์กับอาชีพการทำสวนยาง เพราะช่วยพ่อกรีดและเก็บขี้ยางตั้งแต่เด็ก จึงเข้าศึกษาวิชาเกี่ยวกับเทคโนโลยียาง ซึ่งหลังจากได้รับทุนกับ กยท.จ.ปัตตานีก็ดีใจมาก เพราะจะได้เรียนในสาขาที่ตัวเองชอบ และลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัว ขอขอบคุณกยท.ที่ใหัทุนการศึกษา ถือเป็นการให้โอกาสบุตรเกษตรกรยางสวนยางได้เรียนหนังสือในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับยางพารา เพื่อนำพัฒนาการทำสวนยางพาราให้ได้มาตรฐาน ผลิตผลเพิ่มขึ้น ทุนลดลง ตลอดสร้างนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์จากยางพาราใหม่ๆ อันจะนำไปสู่การสร้างความมั่นคงให้กับอาชีพการทำสวนยางอย่างยั่งยืน รวมทั้งสร้างรายได้ที่ดีให้กับครอบครัวและประเทศชาติต่อไป.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี