นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงปัจจุบันภาครัฐได้ให้ความสำคัญด้านสวัสดิการสังคมในวัยเกษียณให้แก่ประชาชนในหลายรูปแบบ เช่น ระบบประกันสังคม ระบบบำนาญสำหรับข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รวมไปถึงเบี้ยยังชีพคนชราภาพ เพื่อช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยเกษียณอย่างยั่งยืน สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ในระบบประกันสังคมจะได้รับการดูแลด้านสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากสำนักงานประกันสังคม รวมถึงสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ โดยมีเงื่อนไขการเกิดสิทธิ เมื่อผู้ประกันตนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์และได้ลาออกจากงาน สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนหรือเสียชีวิต ส่วนจะได้รับเงินบำเหน็จหรือบำนาญกรณีชราภาพนั้น ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบของผู้ประกันตน โดยแบ่งการขอรับประโยชน์ทดแทนออกเป็น 2 กรณี ดังนี้
1. ประโยชน์ทดแทนกรณีบำนาญชราภาพ (จ่ายเป็นรายเดือนตลอดชีวิต)
2. ประโยชน์ทดแทนกรณีบำเหน็จชราภาพ (จ่ายเป็นเงินก้อนครั้งเดียว)
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่า จะเห็นได้ว่าการจ่ายเงินสมทบรายเดือนกับกองทุนประกันสังคมนั้นมิได้สูญเปล่า เพราะนอกจากจะได้รับสิทธิประโยชน์ครอบคลุมทุกช่วงชีวิตเมื่อถึงวัยเกษียณ ยังอุ่นใจได้ว่ามีเงินออมชราภาพไว้เป็นหลักประกัน ทั้งนี้ผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบสิทธิและเงินชราภาพ หรือมีข้อสงสัยติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลประกันสังคม หมายเลขโทรศัพท์ 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ หรือที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทั่วประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี