แนะนำ 7 วิธีเก็บเงินฉุกเฉิน ให้คุณพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น อุบัติเหตุหรืออาการเจ็บป่วย เริ่มออมเงินวันนี้เพื่ออนาคตที่มั่นคง

ยุคที่เศรษฐกิจผันผวนและความไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เพราะฉะนั้นการมีเงินฉุกเฉินสำรองไว้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าเมื่อไหร่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ โรคภัยไข้เจ็บหรือแม้แต่การตกงานกะทันหัน แต่หลายคนอาจสงสัยว่าจะเริ่มเก็บเงินฉุกเฉินอย่างไรดี วันนี้เรามี 7 วิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณเก็บเงินฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ไม่คาดฝันได้เลย 

1. เก็บเงินทุกวันที่หวยออก 

เริ่มต้นกันที่วิธีแรก การเก็บเงินทุกวันที่หวยออกเป็นเทคนิคที่ง่ายและช่วยให้คุณมีวินัยในการออม เพราะสลากกินแบ่งรัฐบาลออกเพียงเดือนละ 2 ครั้ง คือวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน ลองเปลี่ยนจากการซื้อหวยมาเป็นการออมเงินแทน เช่น หยอดกระปุกหรือโอนเข้าบัญชีเงินฉุกเฉินครั้งละ 500 - 1,000 บาท เท่านี้ภายใน 1 ปี คุณจะมีเงินเก็บ 12,000 - 24,000 บาท แบบไม่ต้องลุ้น 

แต่ถ้าคุณยังอยากเสี่ยงโชคอยู่ ก็สามารถซื้อหวยไปพร้อมกับเก็บเงินได้ เพียงแต่อย่าลืมว่าโอกาสถูกรางวัลมีเพียง 1 ใน 100 เท่านั้น ในขณะที่การออมเงินทุกงวด รับประกันได้แน่นอนว่า สิ้นปีคุณจะมีเงินเก็บก้อนโต โดยไม่ต้องพึ่งดวงเลย  

2. เก็บแบงค์ 50 

เมื่อใดก็ตามที่คุณได้รับธนบัตร 50 บาทมาเป็นเงินทอน แทนที่จะนำไปใช้จ่ายให้แยกออกมาเก็บไว้ในกระปุกออมสินหรือซองพิเศษทันที วิธีนี้จะทำให้คุณรู้สึกว่าไม่ได้เสียเงินก้อนใหญ่ในคราวเดียว แต่ค่อย ๆ สะสมทีละน้อย หลายคนที่ใช้วิธีนี้พบว่าสามารถเก็บเงินได้หลายพันบาทในเวลาไม่กี่เดือน ถือเป็น Challege เล็ก ๆ ในการออมเงินที่จะช่วยเพิ่มความสนุกและสร้างแรงจูงใจให้กับการออมของคุณได้ อาจดูเหมือนยากในช่วงแรก แต่ถ้าลองทำอย่างต่อเนื่อง ตลอดทั้งปีคุณจะได้ลุ้นว่าเก็บเงินได้เท่าไหร่ เมื่อกระปุกเต็ม ให้นำไปฝากเข้าบัญชีเงินฉุกเฉินทันที แล้วเริ่มเก็บใหม่ วิธีนี้จะช่วยสร้างนิสัยการออมที่ดีโดยไม่รู้สึกว่าเป็นภาระ 

3. เก็บเงินตามเลขท้ายธนบัตร 

เก็บเงินตามเลขท้ายธนบัตรเป็นวิธีที่สนุกสนาน ทำให้การออมเงินไม่น่าเบื่อ วิธีการ คือให้สังเกตเลขท้ายของธนบัตรทุกใบที่คุณได้รับ แล้วเก็บเงินตามจำนวนนั้น เช่น หากธนบัตรมีเลขท้ายเป็น 9 ให้เก็บเงิน 9 บาท หรือ 90 บาท หรือแม้แต่ 900 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการออมของคุณ อีกทางเลือกหนึ่ง คือการเก็บธนบัตรที่มีเลขท้ายเป็นเลขนำโชคของคุณ เช่น เลข 9 หรือเลขวันเกิด วิธีนี้จะช่วยสร้างความสนุกให้กับการออมเงินและทำให้คุณตั้งตารอที่จะเก็บเงินในแต่ละวัน  

4. เก็บเงินตามตารางการออม 

การเก็บเงินตามตารางการออมเปรียบเสมือนการเล่นเกมบิงโก ซึ่งบนหัวตารางจะมีจำนวนเงินที่ต้องการจะเก็บให้ได้ภายใน 1 ปี เช่น ต้องการจะเก็บเงินให้ได้ 10,000 บาท ในตารางก็จะมีตัวเลขจำนวนเงินที่คุณจะต้องออม ตั้งแต่หลักหน่วยไปจนถึงหลักร้อยให้คุณได้กากบาทไปเรื่อย ๆ เหมือนมีการเก็บออม ซึ่งวิธีนี้ช่วยให้การออมของคุณไม่น่าเบื่อ ทำให้คุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าอยากจะออมให้ได้เท่าไหร่ ขาดอีกเท่าไหร่ถึงจะถึงตามเป้าที่ตั้งไว้ และสำหรับใครที่สนใจอยากมีตารางการออม สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เลย  

5. เก็บเงินจากส่วนลด 

ทุกครั้งที่คุณซื้อสินค้าลดราคา ซื้อของชิ้นที่สองในราคาพิเศษหรือใช้คูปองส่วนลด ให้คำนวณว่าคุณประหยัดเงินไปได้เท่าไหร่ แล้วนำเงินจำนวนนั้นไปเก็บในบัญชีเงินฉุกเฉินทันที เช่น หากคุณซื้อเสื้อราคา 1,000 บาท แต่ได้ส่วนลด 30% ทำให้จ่ายเพียง 700 บาท ให้นำเงิน 300 บาทที่ประหยัดได้ไปเก็บออม วิธีนี้จะช่วยให้คุณรู้สึกดีทั้งจากการได้ส่วนลดและได้ออมเงินไปพร้อมกัน และยังเป็นการสร้างนิสัยการใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าอีกด้วย 

6. เก็บเงินเศษเหรียญที่เหลือในแต่ละวัน 

การเก็บเงินเศษเหรียญเป็นวิธีการออมแบบค่อยเป็นค่อยไปที่ใคร ๆ ก็ทำได้ ทุกวันเมื่อกลับถึงบ้าน ให้นำเหรียญทั้งหมดที่อยู่ในกระเป๋าเก็บใส่กระปุกออมสิน วิธีนี้อาจดูเหมือนเก็บเงินได้น้อย แต่เมื่อทำต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ เงินที่ได้จะเยอะขึ้นอย่างน่าประหลาดใจแน่นอน หลายคนที่ใช้วิธีนี้สามารถเก็บเงินได้หลายพันบาทต่อปีเลยทีเดียว 

7. เก็บเงินให้ได้สองเท่าของของที่อยากได้ 

เทคนิคนี้ช่วยให้คุณมีวินัยในการใช้จ่ายและการออมไปพร้อมกัน เมื่อใดก็ตามที่คุณอยากซื้อของที่ไม่จำเป็น ให้ตั้งกฎกับตัวเองว่าต้องเก็บเงินให้ได้สองเท่าของราคาสินค้านั้นก่อนจึงจะอนุญาตให้ซื้อได้ เช่น หากคุณอยากได้รองเท้าคู่ใหม่ราคา 2,000 บาท คุณต้องเก็บเงินให้ได้ 4,000 บาทก่อน แล้วใช้ 2,000 บาทซื้อรองเท้า อีก 2,000 บาทเก็บเข้าบัญชีเงินฉุกเฉิน วิธีนี้จะช่วยให้คุณคิดทบทวนก่อนซื้อของฟุ่มเฟือยและหากคุณตัดสินใจว่าไม่อยากซื้อแล้ว คุณก็จะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้น 2,000 บาททันที เป็นการฝึกวินัยทางการเงินและทำให้คุณรู้จักแยกแยะระหว่างความต้องการและความจำเป็นได้ 

สรุปบทความ 

การมีเงินฉุกเฉินเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แต่หลายคนอาจรู้สึกว่าการเก็บเงินเป็นเรื่องยาก 7 วิธีที่เราแนะนำในบทความนี้ล้วนเป็นเทคนิคที่ทำได้จริงและไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตมากนัก ไม่ว่าจะเป็นการเก็บเงินในวันที่หวยออก เก็บแบงค์ 50 เก็บตามเลขท้ายธนบัตร เก็บตามตารางการออม เก็บเงินจากส่วนลด เก็บเศษเหรียญหรือเก็บเงินสองเท่าของของที่อยากได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือการเริ่มต้นวันนี้และทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะเงินฉุกเฉินไม่เพียงช่วยให้คุณรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แต่ยังช่วยลดความเครียดและสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวอีกด้วย

ถึงอย่างนั้นบางครั้งเราอาจจะต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายฉุกเฉินที่ไม่คาดฝัน อีกหนึ่งตัวช่วยที่จะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับสถานการณ์เหล่านั้นได้ เราขอแนะนำสินเชื่อบุคคล จากทีทีบี ทั้งสินเชื่อส่วนบุคคล แคชทูโก และบัตรเงินสด ทีทีบี แฟลช สามารถสมัครได้ง่าย ๆ เพียงแค่เตรียมเอกสารให้พร้อม อนุมัติผลไวภายใน 3 - 5 วัน รับเงินไปใช้จ่ายให้ไม่มีสะดุดได้เลย