วันนี้ (26 พฤษภาคม 2568) นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานเปิดการสัมมนา“ผลการติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและโครงการที่มีการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568”โดยมีนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้แทนจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดสกลนคร โครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตำบลคลองหอยโข่ง อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง บ้านป่าคา อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร เข้าร่วมประมาณ 400 คนณ ห้องประชุมพึ่งบุญฯ อาคารวิสัยทัศน์ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
โอกาสนี้นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า นโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบัน พระมหากษัตริย์ โดยให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มาเป็นอันดับแรก เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้ง ร่วมสืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการขับเคลื่อนงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทุกหน่วยงานได้ร่วมกันดำเนินการ เพื่อสนับสนุน ช่วยเหลือเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยมีสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เป็นหน่วยงานหลักในการติดตามผลความก้าวหน้าโครงการที่ดำเนินการ และนำเสนอต่อผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำข้อมูลไปใช้ประโยชน์และขยายผลต่อไป
การสัมมนาในครั้งนี้ ถือเป็นเวทีที่สำคัญที่ทุกหน่วยงานจะรวมพลัง สืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมถึงการบูรณาการเครือข่ายความร่วมมือในการติดตามโครงการระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับหน่วยงานที่ดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการเกษตร เพื่อร่วมสร้างเครือข่ายความร่วมมือร่วมกันสนองพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตลอดจนถอดบทเรียนเผยแพร่ความสำเร็จของโครงการพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ให้เป็นที่ประจักษ์สืบไป
นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เปิดเผยว่า ปัจจุบันโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ดำเนินการโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีประมาณ 4,145 โครงการ (ร้อยละ 80 ของโครงการทั้งหมด 5,201 โครงการ) โดยในปีงบประมาณพ.ศ. 2568 ดำเนินการ 983 โครงการ ซึ่งตัวอย่างผลงานและความสำเร็จของโครงการพระราชดำริที่เกี่ยวกับภาคเกษตรในด้านต่างๆ อาทิ โครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำ เป็นโครงการเกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกหรือการชลประทาน ประกอบด้วย โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเพาะปลูก และอุปโภคบริโภค ได้แก่ อ่างเก็บน้ำและฝายทดน้ำ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการรักษาต้นน้ำลำธาร โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ โครงการระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่ม และโครงการบรรเทาอุทกภัย ประโยชน์ที่เกิดขึ้นเห็นได้ชัด เช่น โครงการอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดปราจีนบุรี ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนและเพิ่มพื้นที่ชลประทาน ในฤดูฝน 111,300 ไร่ และฤดูแล้ง 45,000 ไร่ ช่วยบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำปราจีนบุรีลุ่มน้ำสาขา ในเขตพื้นที่อำเภอนาดี และอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี และแก้ปัญหาน้ำเสีย ระบายน้ำ เจือจางน้ำ ช่วยชะลอน้ำเค็ม พื้นที่อ่างเก็บน้ำและบริเวณโดยรอบได้รับการพัฒนา อนุรักษ์ฟื้นฟู ราษฎรโดยรอบมีอาชีพมั่นคงและมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น
โครงการพัฒนาด้านการเกษตร เป็นโครงการที่สนับสนุนการศึกษา ค้นคว้า ทดลอง และวิจัยหาพันธุ์พืชใหม่ๆ ทั้งพืช เศรษฐกิจ เช่น หม่อนไหม ยางพารา พืช เพื่อการปรับปรุงบำรุงดิน และพืชสมุนไพร ตลอดจนการศึกษาเกี่ยวกับ แมลงศัตรูพืช รวมทั้งพันธุ์สัตว์ต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ เช่น โค กระบือ แพะ แกะ พันธุ์ปลา สัตว์ปีก ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ดำเนินการอยู่ในศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และนำผลสำเร็จจากการศึกษา ทดลอง ไปถ่ายทอดสู่ประชาชน
เช่น โครงการนำร่องการแก้ไขปัญหาทางด้านการเกษตรโดยน้อมนำแนวพระราชดำริมาปรับใช้ในพื้นที่บ้านหนองกระทิง อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่า ช่วยลดรายจ่ายในครัวเรือนเฉลี่ย 4,358 บาทต่อครัวเรือนต่อปี และนำไปจำหน่ายเกิดเป็นรายได้ทางการเกษตรเฉลี่ย 6,088 บาทต่อครัวเรือนต่อปี โครงการต่อยอดบริเวณพื้นที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำป่าสักอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรีซึ่งเน้นส่งเสริมสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริการทำเกษตรแบบผสมผสาน โดยเกษตรกรได้ถ่ายทอดความรู้เศรษฐกิจพอเพียง 115 ราย สามารถลดรายจ่ายในครัวเรือนเฉลี่ย 3,476บาทต่อครัวเรือนต่อปี และจำหน่ายผลผลิตในแปลงเกษตรผสมผสานเกิดเป็นรายได้ทางการเกษตรเฉลี่ย 3,200บาทต่อครัวเรือนต่อปีโครงการฟาร์มทะเลตัวอย่างตามพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ตำบลบางแก้ว อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรีเพื่อเป็นฟาร์มตัวอย่างไร้มลภาวะ (Zero Waste Farm) สาธิตการจัดสร้างแพเชือกเพื่อเป็นแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล สนับสนุนสัตว์น้ำให้เกษตรกร จำนวน 1 ล้านตัว โดยเกษตรกรร้อยละ 82 มีความรู้ความเข้าใจจากการได้เข้ามาศึกษาในฟาร์มตัวอย่าง และนำความรู้ไปปรับใช้สามารถลดค่าใช้จ่ายทางการเกษตร 45,723 บาทต่อครัวเรือนต่อปี
โครงการพัฒนาด้านส่งเสริมอาชีพ อาทิ โครงการฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรในหมู่บ้านรอบศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ โครงการศิลปาชีพพิเศษทั่วประเทศ โครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มขนาดเล็ก โครงการศูนย์บริการการพัฒนาขยายพันธุ์ ไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่ จังหวัดเชียงใหม่ โครงการส่งเสริมการปลูกหญ้าแฝกในการอนุรักษ์ดินและน้ำเพื่อความยั่งยืนทางการเกษตร และโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริอื่น ๆ
โครงการพัฒนาแบบบูรณาการ/และโครงการพัฒนาอื่นๆ เช่น โครงการรักษ์น้ำเพื่อพระแม่ของแผ่นดิน จังหวัดแม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ และเลย ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อรักษาความสมดุลของระบบนิเวศอย่างยั่งยืนในลุ่มน้ำปาย ลุ่มน้ำลี และลุ่มน้ำหมัน เกษตรกรได้รับประโยชน์ 14 กลุ่ม 20 หมู่บ้าน มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3,383 บาทต่อครัวเรือนต่อปีโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา และพัทลุง สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะปัญหา 4 น้ำ 3 รส (น้ำเค็ม - น้ำเปรี้ยว น้ำท่วม - น้ำแล้ง) ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับการฟื้นฟูให้มีความสมดุลในพื้นที่ 10 อำเภอ 73 ตำบล เกษตรกรมากกว่าร้อยละ 77 มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้โครงการฯ มีอาชีพมั่นคงและรายได้ในครัวเรือนเพิ่มขึ้นหลังเข้าร่วมโครงการเฉลี่ย 7,338 บาทต่อครัวเรือนต่อปีโครงการศูนย์ ภูฟ้าพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดน่านดำเนินการในพื้นที่ ตําบลภูฟ้า อําเภอบ่อเกลือ พื้นที่ทรงงาน 1,800 ไร่และพื้นที่ขยายผล 6 หมู่บ้าน มีเกษตรกรในพื้นที่ได้รับการพัฒนาความรู้ และสนับสนุนปัจจัยการผลิตในการต่อยอดทำการเกษตรทั้งพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์รวม 327 ราย หลังเข้าร่วมโครงการ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายผลผลิตจากการทำเกษตรในรูปแบบเกษตรผสมผสาน เช่น พืชผักสวนครัว เลี้ยงไก่เลี้ยงปลาเฉลี่ย 7,912 บาทต่อครัวเรือนต่อปีโครงการขยายผลเกษตรทฤษฎีใหม่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ส่งเสริมฝึกทักษะอาชีพด้านการเกษตร สนับสนุนปัจจัยการผลิตด้านพืช ประมง ปศุสัตว์ การปรับปรุงบำรุงดินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยเกษตรกรสามารถลดรายจ่ายในครัวเรือนเฉลี่ย 5,072 บาทต่อครัวเรือนต่อปีและลดการใช้ปุ๋ยเคมี สารเคมี ร้อยละ 51โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร พัฒนาส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสม และยกระดับคุณภาพชีวิตของราษฎรบนพื้นที่สูง กิจกรรมการปลูกป่าชุมชน การปลูกหญ้าแฝก การลดใช้สารเคมี การทำปุ๋ยหมัก โดยเกษตรกรร้อยละ 52 นำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาใช้ประโยชน์เพื่อลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
ด้านนางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการ สศก. กล่าวเพิ่มเติมว่า การสัมมนาครั้งนี้ สศก. โดยศูนย์ประเมินผล จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 - 27 พฤษภาคม 2568ซึ่งกิจกรรมการสัมมนาวันแรกมีการเสวนา “บทเรียนความสำเร็จโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” โดยผู้แทนจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดสกลนคร โครงการฟาร์มทะเลตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตำบลคลองหอยโข่ง อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง บ้านป่าคา อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร และการเสวนา“การติดตามการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและโครงการที่มีการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแบบการบูรณาการเชิงพื้นที่” โดยผู้แทนจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1-12
สำหรับการสัมมนาวันที่สอง (วันที่ 27 พฤษภาคม 2568) เป็นการนำเสนอผลการติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและโครงการที่มีการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยศูนย์ประเมินผล ร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 - 12 ร่วมนำเสนอเพื่อรับฟังข้อคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมสัมมนา อันจะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงผลการติดตามให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น พร้อมที่จะส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้ประโยชน์ในการเป็นกรอบแนวทางหรือทิศทางในการวางแผนการดำเนินงานในปีต่อไป นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดนิทรรศการนำเสนอผลการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของ 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงาน กปร. กองทัพบก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานและผลการติดตามให้เป็นที่รู้จักอีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี