วันอังคาร ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ประชาสัมพันธ์
ส่องทิศทางการค้าสินค้าเกษตรไทย สศก. เผย ยังคงเติบโตได้ดีในตลาดอาเซียนและตลาดโลก

ส่องทิศทางการค้าสินค้าเกษตรไทย สศก. เผย ยังคงเติบโตได้ดีในตลาดอาเซียนและตลาดโลก

วันศุกร์ ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 11.32 น.
Tag : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.)
  •  

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึง สถานการณ์การค้าสินค้าเกษตร (พิกัดศุลกากร 01-24 รวมยางธรรมชาติ) ของไทยในตลาดโลก พบว่า ไทยมีมูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังสามารถรักษาตลาดส่งออกได้ สะท้อนจากมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรของไทยกับโลก ปี 2567 ที่ผ่านมา จำนวน 2,528,839 ล้านบาท จำแนกเป็น มูลค่าส่งออก 1,801,548 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 137,822 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2566 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.28 ในขณะที่มีมูลค่านำเข้า 727,291 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15,912 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.24 ทั้งนี้ ไทยมีมูลค่าการค้ากับอาเซียน (23%) มากเป็นอันดับ 1 รองลงมา คือ จีน (21%) สหรัฐอเมริกา (9%) สหภาพยุโรป (9%)และญี่ปุ่น (7%)

สำหรับสถานการณ์การค้าสินค้าเกษตรของไทยในตลาดอาเซียน 9 ประเทศ (บรูไน อินโดนีเซียกัมพูชา ลาว เมียนมา มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม) ของปี 2567 พบว่า สินค้าเกษตรไทยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2566 ไทยยังคงเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้ากับอาเซียน คิดเป็นมูลค่า 229,687 ล้านบาท โดยมีมูลค่าส่งออก 410,830 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 3.60 ในขณะที่การนำเข้าขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยมีมูลค่า 181,143 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 16.49


สินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ (1) ข้าว อาทิ ข้าวเหนียว ข้าวหอมมะลิ มูลค่า 46,065 ล้านบาท(2) น้ำตาลที่ได้จากอ้อยหรือหัวบีตอื่นๆ อาทิ น้ำตาลทรายบริสุทธิ์ มูลค่า 38,211 ล้านบาท(3) น้ำ รวมถึงน้ำแร่และน้ำอัดลมที่เติมน้ำตาลหรือสารทำให้หวานอื่นๆ หรือที่ปรุงกลิ่นรส มูลค่า 27,577 ล้านบาท (4) น้ำตาลดิบที่ได้จากอ้อยอื่นๆมูลค่า 22,434 ล้านบาท และ (5) เครื่องดื่มอื่นๆ ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ อาทิ นมยูเอสที นมถั่วเหลือง มูลค่า 19,022 ล้านบาท

สินค้าเกษตรนำเข้าสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ (1) มันสำปะหลังฝานหรือทำเป็นเพลเลต มูลค่า 21,622 ล้านบาท (2) ข้าวโพด ไม่ใช้สำหรับเพาะปลูก มูลค่า 19,430 ล้านบาท(3) อาหารปรุงแต่งอื่นๆ อาทิ เต้าหู้ แอลกอฮอล์ผง ครีมเทียม มูลค่า 18,764 ล้านบาท (4) เมล็ดกาแฟ(ไม่คั่ว) ไม่แยกคาเฟอีน มูลค่า 8,614 ล้านบาท และ (5) ผลไม้และลูกนัตอื่นๆ ที่ดิบหรือสุกโดยการนึ่งหรือต้ม แช่แข็ง หรือทำให้หวาน อาทิ สับปะรด ทุเรียน ลำไย มูลค่า 7,382 ล้านบาท

ตลาดส่งออกสินค้าเกษตรที่สำคัญของไทย 3 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซียมีมูลค่าการส่งออก 77,321 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 18.82 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรในอาเซียน สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำยางธรรมชาติ / ชิ้นเนื้อและเครื่องในที่บริโภคได้ของไก่แช่แข็ง / อาหารสุนัขหรือแมว / ข้าว อาทิ ข้าวเจ้าขาวอื่น 5% ข้าวเจ้าขาว 25% ข้าวเจ้าขาวหอมมะลิไทย 100% / น้ำมันปาล์มดิบ ไม่ดัดแปลงทางเคมี

รองลงมา คือ อินโดนีเซีย มีมูลค่าการส่งออก 68,428 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 16.66 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรในอาเซียน สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ข้าว อาทิ ข้าวเจ้าขาวอื่น 5% ข้าวเจ้าขาวหอมมะลิไทย 100% ข้าวเจ้าขาวหอมมะลิไทย 5% / น้ำตาลดิบที่ได้จากอ้อยอื่นๆ / สตาร์ชทำจากมันสำปะหลัง / ผลไม้สด อาทิ ลำไย มะขาม ลิ้นจี่ / อาหารสุนัขหรือแมว

อันดับสาม คือ กัมพูชามีมูลค่าการส่งออก 62,826 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 15.29 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรในอาเซียน สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำตาลที่ได้จากอ้อยหรือหัวบีตอื่นๆ อาทิ น้ำตาลทรายบริสุทธิ์ น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลละเอียด/ เครื่องดื่มอื่นๆ ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ อาทิ นมยูเอสที เครื่องดื่มอื่นๆ ที่ไม่อัดลมนมถั่วเหลือง / น้ำรวมถึงน้ำแร่และน้ำอัดลมที่เติมน้ำตาลหรือสารทำให้หวานอื่นๆ หรือที่ปรุงกลิ่นรส / อาหารปรุงแต่งอื่นๆ อาทิ ครีมเทียม กะทิสำเร็จรูป/ ยางธรรมชาติ

ด้านนางสาวกาญจนา ขวัญเมือง รองเลขาธิการ สศก. กล่าวเพิ่มเติมถึงสถานการณ์การค้าสินค้าเกษตรและยางพาราธรรมชาติของไทยในตลาดอาเซียน ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา พบว่า มีมูลค่าการค้าเท่ากับ160,067 ล้านบาท จำแนกเป็น มูลค่าส่งออก 100,491 ล้านบาท มูลค่านำเข้า 59,576 ล้านบาท ไทยยังคงเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้า 40,915 ล้านบาทโดยสินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ (1) น้ำตาลดิบที่ได้จากอ้อยอื่นๆ มูลค่า 11,656 ล้านบาท (2) น้ำตาลที่ได้จากอ้อยหรือหัวบีตอื่นๆ อาทิ น้ำตาลทรายบริสุทธิ์ มูลค่า 9,910 ล้านบาท(3) น้ำ รวมถึงน้ำแร่และน้ำอัดลมที่เติมน้ำตาลหรือสารทำให้หวานอื่นๆ หรือที่ปรุงกลิ่นรส มูลค่า 6,355 ล้านบาท (4) เครื่องดื่มอื่นๆ ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ อาทิ นมยูเอสที นมถั่วเหลือง มูลค่า 4,785 ล้านบาท และ (5) อาหารปรุงแต่งอื่นๆ อาทิ เต้าหู้ แอลกอฮอล์ผง ครีมเทียม มูลค่า 4,309ล้านบาทและสินค้านำเข้าสำคัญ5 อันดับแรก ได้แก่ (1) มันสำปะหลังฝานหรือทำเป็นเพลเลต มูลค่า 15,466 ล้านบาท(2) ข้าวโพด ไม่ใช้สำหรับเพาะปลูก มูลค่า 6,557ล้านบาท (3) อาหารปรุงแต่งอื่นๆ อาทิ เต้าหู้ แอลกอฮอล์ผง ครีมเทียมมูลค่า 4,683 ล้านบาท (4) สิ่งสกัด หัวเชื้อ และสิ่งเข้มข้น อาทิ กาแฟสำเร็จรูป มูลค่า 2,744 ล้านบาท และ (5) มะพร้าวอื่นๆ อาทิ มะพร้าวอ่อน มูลค่า 2,230 ล้านบาท

ตลาดส่งออกสินค้าเกษตรที่สำคัญของไทย 3 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซียมีมูลค่าการส่งออก 17,442 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 17.34 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรในอาเซียน สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำยางธรรมชาติ / ชิ้นเนื้อและเครื่องในที่บริโภคได้ของไก่แช่แข็ง / อาหารสุนัขหรือแมว / สตาร์ชทำจากมันสำปะหลัง/น้ำตาลที่ได้จากอ้อยหรือหัวบีตอื่นๆ อาทิ น้ำตาลทรายบริสุทธิ์ น้ำตาลทรายขาว

รองลงมา คือ อินโดนีเซีย มีมูลค่าการส่งออก 16,435 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 16.35 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรในอาเซียน สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่น้ำตาลดิบที่ได้จากอ้อยอื่นๆ / สตาร์ชทำจากมันสำปะหลัง / ผลไม้สด อาทิ ลำไย น้อยหน่า ชมพู่ ทับทิม/ อาหารปรุงแต่งอื่นๆ อาทิ ครีมเทียม อาหารปรุงแต่งสำหรับทารกหรือเด็กเล็ก/ อาหารสุนัขหรือแมว

อันดับสาม คือ กัมพูชามีมูลค่าการส่งออก 16,237 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 16.16ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรในอาเซียน สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำตาลที่ได้จากอ้อยหรือหัวบีตอื่นๆ อาทิ น้ำตาลทรายบริสุทธิ์ น้ำตาลทรายขาว/ เครื่องดื่มอื่นๆ ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ อาทิ นมยูเอสที เครื่องดื่มอื่นๆ ที่ไม่อัดลม นมถั่วเหลือง / น้ำรวมถึงน้ำแร่และน้ำอัดลมที่เติมน้ำตาลหรือสารทำให้หวานอื่นๆ หรือที่ปรุงกลิ่นรส / อาหารปรุงแต่งอื่นๆ อาทิ ครีมเทียม กะทิสำเร็จรูป/ซอสและของปรุงรสอื่นๆ อาทิ กะปิ น้ำมันหอย ซอสพริก

ทั้งนี้ สศก. ยังได้ติดตามสถานการณ์การค้าระหว่างไทยกับคู่ค้าสำคัญ ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น พบว่า การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยยังคงมีแนวโน้มเป็นบวก ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ และอาเซียนยังคงเป็นประเทศคู่ค้าหลักของไทย อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยในอนาคต อาทิ การดำเนินนโยบายMake America Great Again ของสหรัฐอเมริกา ที่ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากประเทศคู่ค้าที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯ รวมถึงไทย ทำให้สินค้าไทยในตลาดสหรัฐฯ มีราคาสูงขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งของไทย อาจส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของไทย นอกจากนี้ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน อาจทำให้ไทยมีโอกาสส่งออกได้เพิ่มขึ้น โดยเข้าไปครองส่วนแบ่งตลาดแทนที่จีน ในขณะเดียวกัน ต้องเฝ้าระวังสินค้าจากจีนที่อาจระบายมายังไทยมากขึ้น หรืออาจระบายไปตลาดอื่นที่เป็นคู่ค้าของไทย ส่งผลให้การแข่งขันกับสินค้าจีนในตลาดนั้นสูงขึ้น ทำให้ไทยอาจสูญเสียตลาดบางส่วนให้จีนได้ ดังนั้น ไทยจึงต้องรักษาและพัฒนามาตรฐานการผลิตสินค้าในระดับสากล เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดสหรัฐอเมริกา ควบคุมการนำเข้าให้เป็นไปตามกฎระเบียบข้อบังคับด้านคุณภาพและมาตรฐาน เพื่อป้องกันการลักลอบการนำเข้าสินค้า รวมถึงปรับกลยุทธ์ทางการค้าและการส่งออก โดยให้ความสำคัญกับการหาพันธมิตรทางการค้าใหม่ๆ เพื่อลดความเสี่ยงจากการ ตั้งกำแพงภาษีหรือการประกาศใช้นโยบายใหม่ๆ ของสหรัฐอเมริกา

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สศก. มุ่งพัฒนาข้อมูลเอกภาพด้านการเกษตร สร้างความเชื่อมั่น ด้วยข้อมูลที่แม่นยำ เชื่อถือได้ สศก. มุ่งพัฒนาข้อมูลเอกภาพด้านการเกษตร สร้างความเชื่อมั่น ด้วยข้อมูลที่แม่นยำ เชื่อถือได้
  • รวมพลัง สืบสาน รักษา  ต่อยอดพระราชปณิธาน  สศก. ร่วมภาคีเครือข่าย เปิดเวทีสัมมนาผลสำเร็จโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปี 2568 รวมพลัง สืบสาน รักษา ต่อยอดพระราชปณิธาน สศก. ร่วมภาคีเครือข่าย เปิดเวทีสัมมนาผลสำเร็จโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปี 2568
  • 3 ปี ผลสำเร็จแปลงใหญ่ทุเรียนหนองโสน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้วรวมกว่า 23.79 ล้านบาท 3 ปี ผลสำเร็จแปลงใหญ่ทุเรียนหนองโสน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้วรวมกว่า 23.79 ล้านบาท
  • เกษตร เปิดขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการทางการเกษตร ผ่านออนไลน์ เกษตร เปิดขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการทางการเกษตร ผ่านออนไลน์
  • สศก. จัดงานสถาปนา ครบรอบ 46ปี  ปลดล็อกเกษตรไทย สร้างโอกาสใหม่ให้เกษตรกร สศก. จัดงานสถาปนา ครบรอบ 46ปี ปลดล็อกเกษตรไทย สร้างโอกาสใหม่ให้เกษตรกร
  • สมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ เตรียมรับข่าวดี รมว. เกษตรฯ รับเป็นประธานแก้หนี้เร่งรัดให้แล้วเสร็จใน 90 วัน สมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ เตรียมรับข่าวดี รมว. เกษตรฯ รับเป็นประธานแก้หนี้เร่งรัดให้แล้วเสร็จใน 90 วัน
  •  

Breaking News

‘พลังประชารัฐ’ลงพื้นที่‘แม่เปา’ มอบถุงยังชีพช่วยผู้ประสบภัย‘น้ำท่วมเชียงราย’

3 โรคยอดฮิตของเด็ก ในช่วงฤดูฝน ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม

ออกหมายจับ 5 ‘แก๊งเสือปุ่น’ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน กลางลานจอดรถห้างดัง ตุ๋นแลกคริปโตฯ

‘ชูวิทย์’ไล่ไทม์ไลน์‘นายกฯตระกูลชินวัตร’ ตั้งแต่‘พ่อ อา ลูก’ สะดุดขาตัวเองล้มทุกครั้ง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved