การขอสินเชื่อผ่านแอปกลายเป็นวิธีที่สะดวกที่สุดในยุคที่ทุกอย่างทำผ่านสมาร์ตโฟนได้ภายในไม่กี่นาที แต่ความสะดวกต้องมาพร้อมความปลอดภัย แอปกู้เงินในระบบจึงเป็นคำตอบที่น่าเชื่อถือ เพราะอยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และปฏิบัติตามกฎหมายสินเชื่ออย่างเคร่งครัด

แต่เมื่อแอปถูกกฎหมายมีให้เลือกมากมาย คำถามคือ “ควรเลือกแอปไหนให้เหมาะกับเรา?” ลองดู 10 แอปกู้เงินในระบบที่น่าสนใจ พร้อมจุดเด่นเฉพาะตัวของแต่ละแอปดังนี้

1. เงินติดล้อ

สำหรับคนที่มีรถ เงินติดล้อคือทางเลือกที่ชัดเจนที่สุดในหมวดสินเชื่อทะเบียนรถ จุดเด่นคือไม่ต้องโอนเล่ม ไม่ต้องหยุดใช้รถ และยังมีบริการเสริมด้านประกันภัยครบวงจร โดยสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพื่อสมัครได้ฟรีทั้งiOSและAndroid

• วงเงินกู้: สูงสุด 600,000 บาท
• ดอกเบี้ย: เริ่มต้น 0.79% ต่อเดือน
• ผ่อนสูงสุด: 60 เดือน
• จุดเด่น: สมัครง่าย รู้ผลไว มีสาขาให้บริการทั่วประเทศ
• เหมาะกับ: ผู้ที่มีรถและต้องการใช้เล่มทะเบียนเป็นหลักประกัน

2. LINE BK 

แอปสินเชื่อในเครือกสิกรไทยที่ผสานเข้ากับแอป LINE ช่วยให้การยื่นกู้เป็นเรื่องง่ายแม้ไม่มีสลิปเงินเดือน

• วงเงิน: สูงสุด 800,000 บาท
• ดอกเบี้ย: 18%–25% ต่อปี
• เงื่อนไข: รายได้ขั้นต่ำ 5,000 บาท/เดือน
• เหมาะกับ: ฟรีแลนซ์ พนักงานรายได้ประจำ และคนไม่มีสลิปเงินเดือน

3. เงินเทอร์โบ 

อีกหนึ่งแอปในระบบที่รองรับทั้งคนมีหลักประกันและไม่มี หลายคนเลือกเพราะผ่อนได้นานถึง 84 เดือน

• ดอกเบี้ย: เริ่มต้น 0.68% ต่อเดือน
• ผ่อนสูงสุด: 84 เดือน
• จุดเด่น: ค่าธรรมเนียมชัดเจน ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก
• เหมาะกับ: คนที่อยากผ่อนจ่ายรายเดือนเบา ๆ

4. MoneyThunder – อนุมัติไวภายในวันเดียว

เป็นแอปจาก SCB Abacus ที่เปิดให้ยื่นกู้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด และไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

• วงเงิน: สูงสุด 1,000,000 บาท
• ดอกเบี้ย: ประมาณ 2.08% ต่อเดือน
• อนุมัติเร็ว: ภายใน 24 ชั่วโมง
• เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการเงินด่วนโดยไม่อยากเสี่ยงกับแหล่งกู้นอกระบบ

5. FINNIX – กู้ได้แม้ไม่มีเอกสารรายได้

เน้นช่วยเหลือกลุ่มคนทำงานอิสระหรือผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน เช่น แม่ค้าออนไลน์ พนักงานรายวัน หรือฟรีแลนซ์

• วงเงิน: สูงสุด 100,000 บาท
• ดอกเบี้ย: 2.75% ต่อเดือน
• ระยะเวลาผ่อน: สูงสุด 12 เดือน
• เหมาะกับ: คนที่ไม่มีเอกสารรายได้ทางการแต่มีความสามารถในการชำระคืน

6. TrueMoney Wallet – ใช้ก่อน จ่ายทีหลังได้จริง

ฟีเจอร์ Pay Next หรือ KKP Cash Now ของ TrueMoney Wallet ช่วยให้คนที่ต้องการใช้เงินด่วนมีทางเลือกที่ง่ายและรวดเร็ว

• วงเงิน: สูงสุด 400,000 บาท
• ดอกเบี้ย: เริ่มต้น 8.99% ต่อปี
• ผ่อนสูงสุด: 60 เดือน
• เหมาะกับ: ลูกค้าทรูรายเดือนที่ต้องการใช้ก่อนจ่ายทีหลัง

7. MoneyHub – ดอกเบี้ยชัดเจน ไม่มีหมกเม็ด

ผู้ให้บริการสินเชื่อที่โปร่งใสและตอบคำถามลูกค้าไว ใช้เอกสารน้อย อนุมัติง่าย มีฐานลูกค้ากลุ่มอาชีพหลากหลาย

• วงเงิน: สูงสุด 100,000 บาท
• ดอกเบี้ย: 2% ต่อเดือน
• ผ่อนสูงสุด: 24 เดือน
• เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการสินเชื่อระยะสั้น และชอบความโปร่งใส

8. พรอมิส – กู้ไม่ยาก ไม่ต้องมีคนค้ำ

แบรนด์เก่าแก่ในไทยจากญี่ปุ่น ดำเนินธุรกิจมายาวนาน สมัครง่าย แม้เพิ่งเริ่มงานหรือรายได้ไม่มาก

• วงเงิน: สูงสุด 300,000 บาท
• ดอกเบี้ย: 15%–25% ต่อปี
• อนุมัติไว: ภายใน 1 ชั่วโมง
• เหมาะกับ: ผู้ที่ไม่มีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน

9. A Money – วงเงินหมุนเวียน พร้อมใช้ตลอดเวลา

ให้บริการผ่านบัตรกดเงินสดที่สามารถนำไปใช้ได้ทุกสถานการณ์ ไม่จำเป็นต้องยื่นเอกสารยุ่งยากมากมาย

• วงเงิน: สูงสุด 5 เท่าของรายได้
• ดอกเบี้ย: 17%–25% ต่อปี
• เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการวงเงินหมุนเวียนสำรองไว้ใช้

10. แคชจอย 

แอปจากบริษัทในเครือ KB J Capital เหมาะสำหรับคนที่ต้องการกู้แบบไม่มีหลักประกัน และต้องการวงเงินสูงสุดถึง 1 ล้านบาท

• วงเงิน: สูงสุด 1,000,000 บาท
• ดอกเบี้ย: ไม่เกิน 25% ต่อปี
• ระยะเวลาผ่อน: สูงสุด 60 เดือน
• เหมาะกับ: ผู้ที่มีรายได้ประจำและต้องการวงเงินสูง

ก่อนกด “กู้” อย่าลืมเช็กให้ชัวร์

• ตรวจสอบว่าแอปอยู่ในรายชื่อผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจาก ธปท.
• อ่านเงื่อนไขดอกเบี้ย ค่าปรับ และค่าธรรมเนียมให้ครบ
• หลีกเลี่ยงแอปที่ให้โอนเงินก่อนแล้วค่อยอนุมัติ
• อย่ากู้เกินความสามารถในการผ่อนจ่าย

การกู้เงินที่ดีไม่ใช่แค่ได้วงเงินสูง แต่คือการเลือกแหล่งสินเชื่อที่น่าเชื่อถือ และตอบโจทย์ในระยะยาวอย่างยั่งยืน