'กรมชลประทาน'จัดสื่อมวลชนสัญจรติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก-พื้นที่ EEC หนุนเศรษฐกิจพื้นที่ขยายตัว

'กรมชลประทาน'จัดสื่อมวลชนสัญจรติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก-พื้นที่ EEC หนุนเศรษฐกิจพื้นที่ขยายตัว

วันพฤหัสบดี ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 18.30 น.

กรมชลประทานจัดสื่อมวลชนสัญจรติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก และพื้นที่ EEC หนุนเศรษฐกิจพื้นที่ขยายตัว สร้างความมั่นใจประชาชน +นักลงทุน+ และเกษตรกรมีน้ำใช้เพียงพอ
 

วันนี้ (28 ส.ค 68) นายทินกร เหลือล้น ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 9 และผู้บริหารในพื้นที่นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำอ่างเก็บน้ำประแสร์ อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล จ.ระยอง และอ่างเก็บน้ำบางพระ จ. ชลบุรี เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำมีประสิทธิภาพเป็นไปตามเป้าหมาย สามารถกระจายน้ำได้ทั่วถึงและเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค รวมทั้งสามารถรักษาระบบนิเวศ การเกษตร การอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และยังเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือปัญหาภัยแล้งในปี 2569 ที่อาจเกิดขึ้นจากปัญหาสภาพภูมิกาศของโลกที่มีความแปรปรวน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำในพื้นที่อย่างต่อเนื่องและยาวนาน โดยเฉพาะในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC
 
นายทินกร เหลือล้น ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 9 เปิดเผยว่า  ปัจจุบัน(28 ส.ค.68) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้ง 58 แห่ง ในพื้นที่ภาคตะวันออก มีปริมาณน้ำเก็บกักรวมกันทั้งสิ้น 1,344ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็นเกือบ 53% ของความจุอ่างฯรวมกัน  จนถึงขณะนี้มีผลการสูบน้ำโครงข่ายบริหารจัดการน้ำภาคตะวันออก ดังนี้

1)การสูบผันน้ำจากคลองพระองค์ฯและคลองชลประทานพานทอง มาเติมน้ำต้นทุนในอ่างฯบางพระ ปริมาณน้ำสะสมรวมประมาณ 35.4 ล้านลบ.ม. 
2)การสูบผันน้ำจากแม่น้ำบางปะกง มาเติมน้ำต้นทุนให้อ่างฯบางพระ ปริมาณน้ำสะสมรวม 3.1 ล้านลบ.ม. 
3)การสูบผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ ไปยังอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ปริมาณน้ำสะสมรวม 27.44 ล้านลบ.ม. 
4)การสูบผันน้ำกลับจากคลองสะพานไปยังอ่างเก็บน้ำประแสร์ ปริมาณน้ำสะสมรวม 7.8 ล้านลบ.ม.  
5)การสูบผันน้ำอ่างเก็บน้ำประแสร์ไปยังอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ เพื่อไปเสริมน้ำต้นทุนให้กับอ่างฯหนองปลาไหล ปริมาณน้ำสะสมรวม 20.17 ล้านลบ.ม. 
6)การสูบผันน้ำกลับจากวัดละหารไร่ไปยังอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ปริมาณน้ำสะสมรวม 1.58 ล้านลบ.ม.


ซึ่งถือว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้ สามารถสนับสนุนน้ำเพื่อการผลิตน้ำประปา  รักษาระบบนิเวศ  การเกษตรและภาคอุตสหกรรม ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC (ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา)  ได้อย่างเพียงพอ ตลอดทั้งปี

​อย่างไรก็ตาม เพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับปริมาณความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ที่เพิ่มมากขึ้น กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้ดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อสร้างความมั่นคงด้านน้ำ ตั้งแต่ปี 2563-2580 รวมทั้งสิ้น 39 โครงการ  ทั้งการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำใหม่ ปรับปรุงเพิ่มความจุอ่างเก็บน้ำเดิม สร้างโครงข่ายน้ำเพิ่มขึ้น จัดทำระบบสูบน้ำกลับ รวมทั้งการขุดลอก และการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ลุ่มต่ำเพิ่มเติม และยังได้มีการนำแนวคิดและนวัตกรรมมาใช้ในการบริหารจัดการน้ำเพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ 17 โครงการ อยู่ระหว่างดำเนินการ 6 โครงการ และเป็นโครงการที่ต้องขับเคลื่อนอีก 16 โครงการ หากดำเนินการโครงการแล้วเสร็จทั้งหมด จะมีโอกาสสามารถเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนได้ถึง 909 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นคงทางด้านน้ำให้แก่ประชาชนและเกษตรกรทั้งในและนอกพื้นที่ EEC  ให้มีน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคและการเกษตรใช้ได้อย่างเพียงพอและไม่ขาดแคลน  

นายทินกร เหลือล้น กล่าวเพิ่มเติมว่า “กรมชลประทานยังได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหาภัยแล้งโดยมุ่งเน้นการพัฒนาแหล่งน้ำโดยใช้ศักยภาพของลุ่มน้ำต่าง ๆ ให้เกิดความสมดุลเพียงพอต่อความต้องการ บริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ ปรับปรุงการบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงความต้องการใช้น้ำในแต่ละพื้นที่ มีแนวทางในการป้องกันและบรรเทาภัยจากน้ำเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยแล้งและน้ำท่วม รวมทั้งการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในทุกภาคส่วน กำหนดให้มีการบริหารจัดการน้ำในระดับพื้นที่พร้อมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน สร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาภัยแล้ง รวมทั้งการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านน้ำอย่างยั่งยืน”

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top