วันที่ 3 กันยายน 2025 ประชาคมโลกจับตาที่กรุงปักกิ่ง เมื่อจีนจัดพิธีสวนสนามครั้งยิ่งใหญ่เพื่อรำลึกวาระสำคัญ ครบรอบ 80 ปีการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 จัด ณ จัตุรัสเทียนอันเหมิน และถนนฉางอัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองและประวัติศาสตร์ของจีน งานนี้ไม่เพียงเป็นการแสดงความทรงจำทางประวัติศาสตร์ต่อชัยชนะของชาวจีนในการต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น แต่ยังเป็นการย้ำเตือนว่าประเทศจีนคือผู้มีบทบาทสำคัญในการรักษาสันติภาพโลก ภาพของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนที่เดินขบวนอย่างพร้อมเพรียง แสดงให้เห็นถึงระเบียบวินัย ความแข็งแกร่ง และการเสียสละที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยพิธีดำเนินอย่างต่อเนื่องกว่า 90 นาที เริ่มด้วยการเชิญธงชาติ การร้องเพลงชาติ และการตรวจพลโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ก่อนเข้าสู่ขบวนแสดงกำลังทุกเหล่าทัพ
ประเทศจีนเดินหน้าความทันสมัยแบบจีนอย่างรอบด้านเข้าสู่ศักราชใหม่
แก่นสารสำคัญของพิธีสวนสนามครบรอบ 80 ปีสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 มิใช่เพียงการรำลึกถึงอดีตอันยิ่งใหญ่ หากแต่เป็นการประกาศต่อชาวจีนและประชาคมโลกว่า ประเทศจีนกำลังก้าวเข้าสู่ยุคแห่ง “ความทันสมัยแบบจีน” หรือ Chinese-style modernization ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และพร้อมจะเป็นเสาหลักแห่งศตวรรษใหม่ของมนุษยชาติ โดยจีนได้พิสูจน์ให้เห็นว่าการพัฒนาประเทศสามารถดำเนินไปควบคู่กับการรักษาเอกลักษณ์ของตนเอง แนวคิดการฟื้นฟูชาติหรือ National Rejuvenation คือหัวใจสำคัญที่ผลักดันให้จีนไม่เพียงยืนหยัด แต่ยังเติบโตขึ้นเป็นมหาอำนาจที่ประชาชนภาคภูมิใจ
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้กล่าวอย่างหนักแน่นว่า “การฟื้นฟูของชนชาติจีนไม่อาจหยุดยั้ง” สะท้อนถึงความเชื่อมั่นและความสามัคคีของประชาชน 1,400 ล้านคนที่มุ่งหน้าสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่สมบูรณ์ จีนไม่เพียงมุ่งพัฒนาภายใน แต่ยังยืนยันบทบาทในฐานะพลังเชิงบวกของโลก ผ่านการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี ความร่วมมือพหุภาคี การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และการบรรเทาภัยพิบัติ แนวคิด “ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ” จึงไม่ใช่เพียงคำขวัญ แต่คือพันธกิจที่จีนกำลังผลักดันให้เป็นจริงเพื่ออนาคตของโลกทั้งใบ
ทั้งนี้ “ความทันสมัยแบบจีน” หรือ Chinese-style modernization สะท้อนพลังการพัฒนาที่ครอบคลุมทั้งวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี กองทัพ เศรษฐกิจ และสังคม จีนแสดงให้โลกเห็นถึงการพึ่งพาตนเองด้านนวัตกรรม ตั้งแต่ไมโครชิป อากาศยาน อวกาศ ไปจนถึงวัสดุศาสตร์ขั้นสูง ขณะเดียวกัน กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนได้ก้าวสู่การบังคับบัญชาร่วมทุกมิติ กลายเป็นเครือข่ายการรบอัจฉริยะที่พร้อมปกป้องอธิปไตยและรักษาสันติภาพของประเทศ หลักคิด “มั่นคงเพื่อพัฒนา พัฒนาเพื่อความมั่นคง” ยังทำให้เศรษฐกิจและความมั่นคงเสริมพลังกัน จีนจึงก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางใหม่ของเศรษฐกิจโลกที่มีเสถียรภาพ
การตรวจพลสวนสนามอย่างเป็นเกียรติจากสี จิ้นผิง และการเข้าร่วมของผู้นำต่างชาติ
ในฐานะผู้นำสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประธานาธิบดี และประธานคณะกรรมการทหารส่วนกลาง สี จิ้นผิงได้ตรวจพลสวนสนามด้วยตนเอง ท่ามกลางเสียงปรบมือกึกก้องจากประชาชนและเสียงร้องแสดงความยินดี ที่สำคัญงานนี้ยังได้รับเกียรติจากผู้นำต่างประเทศจำนวนมากที่เดินทางเข้าร่วม อาทิ วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ รวมทั้งผู้นำจากเอเชีย แอฟริกา และตะวันออกกลาง การรวมตัวของบรรดาผู้นำเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในบทบาทของจีนในฐานะศูนย์กลางแห่งความร่วมมือ และเป็นพลังสำคัญที่ผลักดันโลกไปสู่การพัฒนาและสันติภาพ พิธีครั้งนี้สร้างความประทับใจแก่บรรดาผู้นำที่เข้าร่วม ขณะที่ประชาชนหลายหมื่นคนพร้อมใจกันสวมเสื้อผ้าโทนสีประจำชาติและโบกสะบัดธงชาติจีนอย่างพร้อมเพรียง บรรยากาศเต็มไปด้วยพลังแห่งความภาคภูมิใจและเสียงเชียร์ปลุกใจที่กึกก้องทั่วจัตุรัส
จีนโชว์อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย
อีกหนึ่งไฮไลท์ของพิธีสวนสนาม คือการเปิดตัวยุทโธปกรณ์ล้ำสมัยที่จีนพัฒนาได้เองภายในประเทศ แสดงถึงศักยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ (ICBM) ที่เสริมพลังการยับยั้งเชิงยุทธศาสตร์และปกป้องอธิปไตยของชาติได้อย่างมั่นคง พร้อมด้วย ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง (Hypersonic Missiles) ที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงและยากต่อการสกัดกั้น แสดงถึงความก้าวล้ำของเทคโนโลยีป้องกันประเทศในระดับแนวหน้า นอกจากนี้ จีนยังนำเสนอ ระบบอาวุธไร้คนขับ (Unmanned Systems) ที่ครอบคลุมทั้งภาคพื้นดิน ในน้ำ ใต้ทะเล และอากาศ รวมถึง โดรนโจมตีและโดรนสอดแนมยุคใหม่ ที่สามารถปฏิบัติการได้ในทุกมิติของสงครามสมัยใหม่ เสริมด้วย อาวุธพลังงานตรง (Directed-Energy Weapons) และ ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ซึ่งสะท้อนว่า กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนไม่ได้หยุดอยู่ที่การป้องกันประเทศเพียงอย่างเดียว แต่ก้าวสู่การเป็นกองทัพที่มีความทันสมัย ครบทุกมิติ และพร้อมแข่งขันบนเวทีโลก
ยุทโธปกรณ์เหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ถึงพลังทางทหารและการยับยั้งเชิงยุทธศาสตร์ของจีน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่จีนพัฒนาได้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง ทำให้โลกได้เห็นชัดเจนว่าจีนมิได้เป็นเพียงผู้ตาม แต่กำลังก้าวขึ้นเป็นผู้นำที่แท้จริง
ทั้งนี้ผู้เขียนเห็นว่า การสวนสนามครั้งยิ่งใหญ่ในวันที่ 3 กันยายน 2025 คือการประกาศให้โลกได้ประจักษ์ถึง พลังของจีนในทุกมิติ ทั้งด้านประวัติศาสตร์ ความทันสมัย ความร่วมมือระหว่างประเทศ และขีดความสามารถทางทหาร สิ่งที่โดดเด่นยิ่งกว่านั้นคือ การสะท้อนถึง “ความทันสมัยแบบจีน” (Chinese-style modernization) ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาที่ผสมผสานเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเข้ากับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และยุทธศาสตร์ชาติ จีนได้ส่งสารอย่างชัดเจนว่า “จีนไม่เพียงยืนหยัดในเส้นทางแห่งการพัฒนา แต่ยังเป็นพลังที่พร้อมขับเคลื่อนสันติภาพและความมั่นคงของโลก” งานครั้งนี้จึงมิใช่เพียงพิธีรำลึก แต่คือ “แถลงการณ์ของศตวรรษใหม่” ที่สะท้อนให้เห็นว่าจีนกำลังก้าวเข้าสู่ตำแหน่งผู้นำที่ยึดถือหลักธรรมาภิบาลโลก บนพื้นฐานแห่งความมั่นใจในเส้นทางความทันสมัยแบบจีนที่ไม่เหมือนใคร
เรียบเรียงโดย ดร.กฤตติกา เศวตอมรกุล เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร / รองคณบดีคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี