ย้อนรอยความสำเร็จ

ย้อนรอยความสำเร็จ "Thai Craft Destination" ปักหมุดท่องเที่ยวยั่งยืน

วันจันทร์ ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2568, 14.47 น.

ในโลกที่การท่องเที่ยวไม่หยุดนิ่ง นักเดินทางต่างแสวงหาประสบการณ์ที่มีความหมายมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z ที่ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่เสพความงามของวิวทิวทัศน์อันสวยงาม แต่พวกเขาแสวงหาความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้น การเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง (Learning Experience) การหลีกหนีความวุ่นวายจากแหล่งท่องเที่ยวหลัก และการสร้างความสัมพันธ์อันมีคุณค่า (Meaningful Traveling) กับผู้คนและวัฒนธรรมท้องถิ่น เพราะสำหรับพวกเขา “การเดินทาง” ไม่ใช่แค่ไปถึงจุดหมาย แต่คือการค้นพบคุณค่าที่หล่อเลี้ยงหัวใจ และเป็นบันทึกการเดินทางที่ไม่มีวันลืม

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยกองสร้างสรรค์สินค้าการท่องเที่ยว เล็งเห็นถึงโอกาสนี้ ได้ริเริ่มโครงการ "Thai Craft Destination" ขึ้น และได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วภายในเดือนกันยายน 2568 กลายเป็นบันทึกหน้าใหม่ของการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

วิสัยทัศน์ที่ชัดเจน สู่การสร้าง "Destination" ที่แข็งแกร่งด้วยตัวเอง

หัวใจหลักของโครงการ "Thai Craft Destination" คือการ ผลักดันให้เส้นทางเหล่านี้เป็น "จุดหมายปลายทาง (Destination)" ที่น่าสนใจและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพิงแหล่งท่องเที่ยวหลักหรือเมืองใหญ่ แนวคิดนี้สอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยวปัจจุบันที่มองหาความแปลกใหม่ และประสบการณ์ที่แตกต่าง โครงการนี้จึงมุ่งมั่นที่จะ สร้างสรรค์แหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นทั่วประเทศไทย มีหลักการสำคัญ คือ การส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านเส้นทางเครื่องดื่มคุณภาพ ที่มีรากฐานจากภูมิปัญญาและมรดกทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ ชา โกโก้ ผลไม้ไทยและสุราชุมชน

ตลอดระยะเวลาที่ดำเนินโครงการ ได้มีการ เชื่อมโยงแหล่งปลูก วัฒนธรรมการแปรรูป และคาเฟ่ที่มีเอกลักษณ์ เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าจดจำแก่นักท่องเที่ยว อันนำไปสู่การพัฒนายกระดับสินค้าเกษตรไทย การกระจายรายได้สู่ชุมชน และการสร้างความภาคภูมิใจในสินค้าเกษตรและภูมิปัญญาไทยอย่างยั่งยืน

 6 วัตถุประสงค์หลัก ขับเคลื่อน 'Thai Craft Destination' สู่ความสำเร็จในทุกมิติ :

  1. สร้างจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวใหม่ โครงการได้พิสูจน์แล้วว่า สามารถ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าหัตถกรรมและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น (Craft Products) โดยยกระดับแหล่งผลิตเหล่านั้นให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สามารถดึงดูดนักเดินทางได้โดยตรง

  2. เพิ่มคุณค่าผ่านประสบการณ์เชิงเรียนรู้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม Product Testing ได้สัมผัสถึง คุณค่าและมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของการท่องเที่ยวผ่านประสบการณ์การมีส่วนร่วมและลงมือปฏิบัติจริง (Hands-on Experience) ผ่านกิจกรรมต่างๆ ในการสร้างสรรค์เครื่องดื่มคุณภาพ

  3. ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงลึกซึ้ง สร้างให้เกิดความสัมพันธ์อันมีความหมาย ระหว่างนักท่องเที่ยวและชุมชน อย่างแท้จริง (Meaningful Traveling) ผ่านเรื่องราวของเครื่องดื่ม (Craft Drink) ที่มีรากฐานจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งนำไปสู่ความเข้าใจในวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม

  4. กระจายพื้นที่เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวและส่งเสริมการพักค้าง ด้วยการเปิดเส้นทางและกิจกรรมใหม่ๆ ในหลากหลายภูมิภาค ทำให้ แหล่งท่องเที่ยวกระจายตัวได้ครอบคลุมทั่วประเทศไทย สร้างทางเลือกการเดินทางและกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาในพื้นที่ยาวนานขึ้น (Longer Stays)

  5. สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวร่วมสมัย พัฒนาสินค้าและกิจกรรมทางการท่องเที่ยวให้มีความทันสมัย ตอบสนองต่อพฤติกรรมและความต้องการของนักเดินทางกลุ่ม Gen Z 

  6. บูรณาการแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสร้างคุณค่าให้เส้นทาง โดยเชื่อมโยงเข้ากับแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีอยู่เดิม เพื่อให้โปรแกรมการเดินทางมีความสมบูรณ์และหลากหลายมิติ ช่วยส่งเสริมความเข้าใจในบริบทและอัตลักษณ์ของท้องถิ่น

เจาะลึกประสบการณ์ Product Testing : 4 เส้นทางแห่งความประทับใจที่ถูกค้นพบ

ระหว่างเดือนสิงหาคม 2568 คณะ DMC จาก บริษัท หนุ่มสาวทัวร์ จำกัด, ทัวร์เอื้องหลวง บริษัท การบินไทย จำกัด มหาชน, บริษัท ชัยทัวร์ จำกัด, Asian Trails Ltd., ฟ้าสวย ทราเวล - ฟันนี่ ทริป ทราเวล, DTH Travel, Silver Hawk Group, SERENATA Hotels & Resorts Group และ บริษัท มาลัยสยามทัวร์ จำกัด รวมถึง Influencer จากเพจท่องเที่ยว ตะล๊อปก๊อปแก๊ป, Hang Togerther, The Layoffgang ตกงานก็ยังเที่ยว, เที่ยวแล้วยัง, ปักหมุดท่องเที่ยว, เที่ยวไหน ยังไงเล่า, Journey All Around และ พาใจไป เข้าร่วมทดสอบสินค้าและกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ พร้อมกับประชาสัมพันธ์โครงการ “Thai Craft Destination” ผ่านการติด hastag #ThaiCraftDestination #SipJourney #AmazingThailand #การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

เส้นทางที่ 1 : สกลนคร – อุดรธานี "SENSATION ROUTE" ในดินแดนอีสานแห่งนี้ ผู้ร่วมกิจกรรมได้สัมผัสกับ "Sensation" หรือความรู้สึกที่ดื่มด่ำไปกับเครื่องดื่มและประสบการณ์สร้างสรรค์หัตถกรรมท้องถิ่นจาก “Craft Hero” ศูนย์การเรียนรู้ศิลปหัตกรรมที่เชื่อมโยงธรรมชาติและการต่อยอดเชิงสร้างสรรค์ การเดินทางเริ่มต้นด้วยการลิ้มรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของ ไวน์อินทผลัมจากสวนอินทผลัม สวนตาลคู่ และสัมผัสความละเมียดละไมของ ไวน์องุ่นจากสวนองุ่นปลอดสาร สวนกุลณดา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเกษตรกรในภูมิภาค ผู้ร่วมกิจกรรมยังได้เรียนรู้กระบวนการผลิต Chocolate Bar จากแหล่งผลิตโกโก้คุณภาพ Tree 2 Bar ที่เผยให้เห็นถึงวงจรตั้งแต่ต้นสู่ช็อกโกแลตบาร์อันหอมหวาน ค้นพบเสน่ห์ของ White Spirit จากโรงกลั่นสุราชุมชน ONSON ที่สะท้อนภูมิปัญญาการกลั่นแบบท้องถิ่น นอกเหนือจากเครื่องดื่มแล้ว เส้นทางนี้ยังนำเสนอความประณีตของงานหัตถกรรม ผ้าย้อมครามจากสวนแมน และ ผ้าย้อมบัวแดงจากศูนย์เรียนรู้กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก ที่เป็นอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ชื่นชมงานคราฟต์ซึ่งแต่ละชิ้นมีเพียงหนึ่งเดียวบนโลก เป็นเอกลักษณ์ที่พบได้ในเครื่องปั้นดินเผาจาก ดอนหมูดิน ทั้งหมดนี้หลอมรวมกันเป็นประสบการณ์ที่สัมผัสได้แบบครบทุกโสตสัมผัส

เส้นทางที่ 2 : น่าน – แพร่ "CAFFEIEN ROUTE" ภาคเหนือตอนบนของไทยได้เผยมนต์เสน่ห์แห่งวัฒนธรรมกาแฟและโกโก้แบบครบวงจรให้ได้ดื่มด่ำ การเดินทางเริ่มต้นที่  แหล่งปลูกกาแฟคุณภาพสูงบนดอยในชุมชนดอยมณีพฤกษ์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเมล็ดกาแฟชั้นเลิศ ผู้ร่วมกิจกรรมได้สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมและกระบวนการปลูกอย่างใกล้ชิด จากนั้นได้เข้าสู่ "หมู่บ้านโกโก้" อย่าง COCOA VALLEY ที่ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งปลูกเท่านั้น ยังมีที่พักให้นักท่องเที่ยวพักค้าง พร้อมเรียนรู้วิถีชุมชน การเดินทางยังพาไปสู่ โรงคั่วกาแฟ น.น่าน ซึ่งมีห้องทดลองกาแฟที่ทันสมัย ทำให้ได้เจาะลึกความรู้เรื่องการคั่วและชิมกาแฟจากผู้เชี่ยวชาญ ปิดท้ายด้วยการลิ้มรสชาติอันโดดเด่นของ สุราชุมชน "เล่าน่าน" ซึ่งได้รับรางวัลระดับโลก ที่ “Gingerbread House” แหล่งรวมคราฟต์สุราชุมชน อันสะท้อนภูมิปัญญาไทยในการสร้างสรรค์เครื่องดื่มคุณภาพระดับสากล พร้อมเล่าเรื่อง (Story-telling) และเสิร์ฟเป็นคอร์สคู่กับขันโตกพื้นเมืองสไตล์ Fine Dining

เส้นทางที่ 3 : ชุมพร – ระนอง "COCOA-COFFEE ROUTE" ในภาคใต้ของไทย เส้นทางนี้ นำผู้ร่วมกิจกรรมเจาะลึกสู่โลกของกาแฟโรบัสต้าและโกโก้ เริ่มต้นกันที่ ก้องวัลเล่ย์ (GONG COFFEE) ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่ครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ได้เรียนรู้ทุกขั้นตอนของการทำกาแฟ ตั้งแต่การปลูก การเก็บเกี่ยว ไปจนถึงการแปรรูปและชงกาแฟ ต่อไปที่การพาเยี่ยมชม แหล่งผลิตและแปรรูปโกโก้ “คาเฟ่โกโก้ ระนองช็อกโกแลต หรือ วิสาหกิจชุมชนโกโก้ระนอง” ซึ่งเป็นเจ้าของรางวัล Safety Product และเป็นต้นแบบของการทำเกษตรยั่งยืน ที่นี่และที่ คาเฟ่โกโก้ พีโกโก้ชุมพร (P.COA Cafe)  ผู้ร่วมกิจกรรมได้เห็นถึงความตั้งใจและพิถีพิถันในการผลิตวัตถุดิบคุณภาพ นอกจากนี้ยังได้ร่วมทำกิจกรรมแปรรูปโกโก้และกาแฟจากชุมชนท้องถิ่นที่ ศูนย์การเรียนรู้และคาเฟ่ริมทะเล "บ้านต้นไม้อวดชุม" ที่มอบทั้งความรู้ ความเพลิดเพลิน ท่ามกลางบรรยากาศความสวยงามของชายทะเลชุมพร

เส้นทางที่ 4 : จันทบุรี "FRESH FRUIT ROUTE" จันทบุรี เมืองที่ได้รับสมญานามว่าเป็น "ราชินีผลไม้" แห่งภาคตะวันออก ได้มอบประสบการณ์ที่สดชื่นและมีชีวิตชีวา สัมผัสวัฒนธรรมย่านเมืองเก่า “ชุมชนริมน้ำจันทบูร” ออกแบบทำเครื่องประดับที่มีชิ้นเดียวในโลกที่ “มีใจ สตูดิโอ” ตกแต่งกระเป๋าเสื่อกกจันทบูรให้ร่วมสมัย ที่ศูนย์เรียนรู้ประจำชุมชนริมน้ำจันทบูรกับ “iDear Chan Decoupage” และเยี่ยมชม สวนมะปี๊ดอินทรีย์ของสวนมะปี๊ด by ธนัท ที่ซึ่งเป็นแหล่งผลิตมะปี๊ดผลไม้พื้นถิ่นเชิงเดี่ยวด้วยวิธีธรรมชาติ จากนั้นไปเรียนรู้การปลูกและกระบวนการทำ พิซซ่าหน้าผลไม้ที่สวนอรุณบูรพา เป็นการแปรรูปยกระดับอาหารถิ่น และปิดท้ายด้วยการดูแลสุขภาพที่ คาเฟ่ผลไม้สำหรับสายสุขภาพ "GEN FRUIT CAFE" ที่นำเสนอเมนูสดชื่นจากผลไม้ตามฤดูกาล สะท้อนให้เห็นความอุดมสมบูรณ์และนวัตกรรมในการนำผลไม้มาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย

Thai Craft Destination กับ ภารกิจด้านความยั่งยืน 

การดำเนินงานที่มุ่งเน้นความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการ ดำเนินการชดเชยคาร์บอน (Carbon Neutral) เพื่อให้มั่นใจว่าทุกการเดินทางที่เกิดขึ้นนั้นเป็นมิตรต่อโลกของเรา

โครงการ "Thai Craft Destination" ไม่ได้เป็นเพียง “การจัดกิจกรรมท่องเที่ยว” แต่เป็นก้าวสำคัญที่ได้พิสูจน์แล้วว่าประเทศไทยมีศักยภาพอันแข็งแกร่งในการเป็น "จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์" ที่สามารถดึงดูดนักเดินทางให้มาสัมผัสแก่นแท้ของวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และผลิตภัณฑ์คุณภาพในท้องถิ่น อีกทั้งเกษตรกร และ Craft Hero ทั่วทุกภูมิภาคของไทย ยังคงเป็นแรงบันดาลใจและเป็นแม่แบบของการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เติมพลังให้กับชุมชน เสริมคุณค่าแก่เศรษฐกิจ และจุดประกายความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่ในกระแสการท่องเที่ยวคุณภาพที่เน้นคุณค่าเชิงประสบการณ์ และปักหมุดให้คุณภาพมาก่อนปริมาณ (Value over Volume)

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top