วันจันทร์ ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ประชาสัมพันธ์
“จีไอเอส ชี้ทางรอดภัยพิบัติไทยอยู่ที่ ‘ข้อมูล’ พร้อมเน้นย้ำการบูรณาการทุกภาคส่วนด้วยเทคโนโลยี GIS เพื่อการตัดสินใจที่แม่นยำและทันเวลา”

“จีไอเอส ชี้ทางรอดภัยพิบัติไทยอยู่ที่ ‘ข้อมูล’ พร้อมเน้นย้ำการบูรณาการทุกภาคส่วนด้วยเทคโนโลยี GIS เพื่อการตัดสินใจที่แม่นยำและทันเวลา”

วันจันทร์ ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2568, 15.49 น.
Tag : กลุ่มบริษัทซีดีจี จีไอเอส KBTGTechtopia2025
  •  

“บริษัทจีไอเอส ร่วมเวที KBTG Techtopia 2025 ชี้ว่าประเทศไทยไม่อาจรับมือภัยพิบัติด้วยการคาดเดาได้อีกต่อไป หากยังขาดการบูรณาการข้อมูลจากทุกภาคส่วน วิกฤติจะยิ่งซับซ้อนและยากต่อการจัดการทางรอดอยู่ที่การใช้เทคโนโลยี GIS เพื่อสร้างระบบข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และการตัดสินใจที่แม่นยำทันเวลา ก่อนที่ประเทศจะเผชิญจุดเปลี่ยนที่ยากจะรับมือ

ดร.ธนพร ฐิติสวัสดิ์ ประธานบริษัทจีไอเอส จำกัด ในกลุ่มบริษัทซีดีจีร่วมเวที“Facing Tomorrow Disasters: How We Prepare for Quakes, Floods, and More”ในงานKBTG Techtopia: At World’s Beginningเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา โดยชี้ว่าการรับมือกับภัยพิบัติไม่ใช่เพียงแค่ Technology และการสร้างระบบขนาดใหญ่ แต่คือการบูรณาการ “ข้อมูล” จากทุกหน่วยงาน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถรู้ สู้ อยู่ หรือหนีได้อย่างแม่นยำตามสถานการณ์จริง ผ่านเทคโนโลยี GIS ที่ช่วยวิเคราะห์ ประมวล และคาดการณ์ล่วงหน้าผ่านแผนที่เสมือนจริง เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นข้อมูลเพื่อการตัดสินใจที่ทันท่วงที


การเตรียมพร้อมเพื่อ สู้ อยู่ หรือหนีนั้นดร.ธนพร เน้นยำว่า เราต้องหันมาใช้ข้อมูลเป็นพื้นฐาน พร้อมทั้งการบูรณาการจากทุกหน่วยงานให้เป็นหนึ่งเดียว หากข้อมูลกระจัดกระจาย การทำงาน การสื่อสาร การแก้ปัญหา และการตัดสินใจก็จะไม่ชัดเจนและไม่ไปในทิศทางเดียวกัน ความท้าทายสำคัญในวันนี้คือการเชื่อมโยงข้อมูลอย่างเป็นระบบ และคนที่เข้าใจโจทย์จริงเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลให้เห็นแนวโน้มและสถานการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นจริงนำไปสู่การตัดสินใจที่เหมาะสมเพิ่มศักยภาพการใช้เทคโนโลยี GIS อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อประเทศและประชาชน

“เป้าหมายของเราคือการใช้เทคโนโลยีGIS เพื่อเสริมศักยภาพการจัดการภัยพิบัติให้ไม่เพียงคาดการณ์และประเมินสถานการณ์ได้แม่นยำ แต่ยังเตรียมความพร้อมให้สามารถรับมือได้อย่างทันท่วงที
ลดความสูญเสีย และเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชน”

“ที่ผ่านมา เราได้ต่อยอดเทคโนโลยี GIS สู่โซลูชันจริง เช่นUrban Hazard Studioที่พัฒนาร่วมกับรศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ประธานกรรมการบริหาร Futuretales LAB, MQDC และผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิตเพื่อจำลองและคาดการณ์สถานการณ์น้ำท่วมในอนาคต รวมถึงแอปพลิเคชัน‘เตะฝุ่น’ที่พัฒนาร่วมกับสภาลมหายใจกรุงเทพฯ ดร.เจน ชาญณรงค์ รองประธานสภาสมหายใจผู้ร่วมเสวนา ซึ่งบูรณาการข้อมูลคุณภาพอากาศและจุดความร้อนแบบเรียลไทม์ พร้อมพยากรณ์ล่วงหน้าได้ถึง 7 วัน ตัวอย่างเหล่านี้สะท้อนว่า GIS สามารถถูกนำมาใช้จริงในการรับมือทั้งภัยพิบัติและมลพิษสิ่งแวดล้อม”

“ความร่วมมือเป็นอีกหนึ่งเครื่องเร่งสำคัญที่จะทำให้การจัดการภัยพิบัติและสิ่งแวดล้อมของประเทศเป็นไปได้จริง” ดร.ธนพร ชี้ให้เห็นว่าความท้าทายไม่ใช่เรื่องของเทคโนโลยี แต่คือการบูรณาการข้อมูลความสำเร็จของการใช้ GIS จึงต้องเกิดจากการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ ภาคประชาสังคม หรือหน่วยงานท้องถิ่น ตัวอย่างเช่น Urban Hazard Studio ที่เกิดจากการทำงานกับสถาบันวิจัย และแอปพลิเคชัน ‘เตะฝุ่น’ ที่สะท้อนบทบาทของภาคประชาสังคม ขณะเดียวกัน ระบบเตือนภัยที่ประชาชนเข้าถึงได้และเชื่อถือได้ก็เป็นอีกองค์ประกอบสำคัญของความร่วมมือ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ระบบจะน่าเชื่อถือได้ก็ต่อเมื่อทุกฝ่ายเปิดข้อมูลและประสานงานอย่างเป็นระบบ

ภัยพิบัติและมลพิษสิ่งแวดล้อมไม่เพียงสร้างความเสียหายเชิงเศรษฐกิจ แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อชีวิตประชาชน โดยเฉพาะระบบแจ้งเตือนต้องมีประสิทธิภาพ และมีความน่าเชื่อถือ ดร.ธนพร ชี้ว่าระบบเตือนภัยที่ดีต้องไม่ใช่แค่ส่งสัญญาณเตือน แต่ต้องบอกทางเลือกหรือแนวทางปฏิบัติที่ประชาชนสามารถทำได้จริงในเวลาจำกัดเพื่อให้การเตือนภัยมีความหมายและสร้างความเชื่อมั่น และนี่คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้ผู้คนสามารถเตรียมพร้อม ปกป้องตนเองและครอบครัว ลดความสูญเสียได้จริง

KBTG Techtopia 2025 งานประชุมด้านเทคโนโลยีระดับนานาชาติที่จัดขึ้นเป็นปีที่สาม ภายใต้ธีม“At World’s Beginning”รวมผู้เชี่ยวชาญและผู้นำด้านเทคโนโลยีกว่า 80 คนจากทั่วโลก มาร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวทางแก้ปัญหาสำคัญของโลกยุคใหม่ ระหว่างวันที่ 2 กันยายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

กกต.แจ้ง 6 ผู้ร้อง ปมนายทะเบียนฯสั่งยกคำร้องยุบ 6 พรรคการเมือง

'พี่ศรี'ร้อง ป.ป.ช. ฟัน 4 หน่วยงาน อายัดบัญชีโดยมิชอบ

เช็กเลย! ปริมาณน้ำตาล ที่บริโภคได้สูงสุดต่อวัน เพื่อหลีกเลี่ยงเป็นโรค NCDs

บอร์ด ป.ป.ช.อนุมัติ'สาโรจน์'ลาออก ตั้ง'พล.ต.ต.อรุณ'รักษาการเลขาฯ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved