นายกุลพัชร ภูมิใจอวด ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน เปิดเผยว่า “ธนาคารที่ดิน” มีภารกิจช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนและส่งเสริมความเป็นธรรมในสังคม มุ่งให้ประชาชนมีที่ดินทำกิน มีที่อยู่อาศัย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือนตามนโยบายรัฐบาล โดยได้มอบหมายให้ นายสุทธิรักษ์ อุฒมนตรี ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร พร้อมเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ จ.จันทบุรี ติดตามผลการดำเนินงานช่วยเหลือเกษตรกรและทำสัญญาเช่าซื้อที่ดิน ภายใต้ “โครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน” ณ วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรุ่นใหม่พัฒนา ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี
นายสุทธิรักษ์ เปิดเผยว่า วิสาหกิจชุมชนฯ จำนวน 29 ครัวเรือน ได้รับจัดสรรที่ดิน ตาม “โครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน” จำนวน 77 ไร่ เมื่อ 5 ที่แล้ว ปัจจุบันจากคนยากจน ไม่มีที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน มีพร้อมทุกอย่างโดย “ธนาคารที่ดิน” ยังได้ติดตามความคืบหน้า สนับสนุน และพัฒนาการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสูด ตามแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
“ธนาคารที่ดิน ถือเป็นกลไกสำคัญของภาครัฐ ที่จะช่วยส่งเสริมให้คนไทยสามารถเข้าถึงสิทธิในการถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินได้อย่างถูกต้อง เป็นธรรม และเท่าเทียม ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ”นายสุทธิรักษ์ กล่าว
นายยงยุทธ อ่วมงามทรัพย์ สมาชิกวิสาหกิจชุมชนฯ กล่าวว่า เป็นทหารเกษียณอายุราชการ ต้องเช่าบ้านอยู่ ส่วนอาชีพทำงานรับจ้างทั่วไป รายได้ไม่แน่นอน ที่จากเพื่อน ๆ ว่า “ธนาคารที่ดิน” จะมาช่วยเหลือคนจนจริง ๆ จึงมาเข้าร่วมโครงการ และได้รับการจัดสรรที่ดินทำกินและอยู่อาศัย รวม 2 ไร่เศษ ปลูกบ้าน และปลูกพืชหลากหลายชนิด ทั้งทุเรียน ลองกอง เงาะ ปลูกผักสวนครัว ทำปุ๋ยชีวภาพใช้เอง เลี้ยงไก่ ปลา ลดค่าใช้จ่าย ชีวิตดีขึ้น เหมือนเกิดใหม่ พึ่งพาตนเองได้มีความสุข “ขอขอบคุณธนาคารที่ดิน ที่ทำให้มีวันนี้”
ยายแดง อุตตะโมช สมาชิกวิสาหกิจชุมชนฯ เล่าว่า ไม่มีที่ดินทำกินก่อนนั้นอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนฯ ทำสวนทำไร่ รู้สึกไม่มั่นคง เป็นทุกข์ใจมาก จึงย้ายออกมาไปอาศัยอยู่กับพี่สาวบ้าง น้องชายบ้าง ตอนนี้แก่มากแล้ว ชีวิตนี้เหนื่อยมามาก ไม่คิดว่าจะมีบ้านมีที่ดินเป็นของตัวเอง พอได้โอกาสเข้ามาอยู่ในที่ดินของ ”ธนาคารที่ดิน“ ดีใจมาก แม้สภาพบ้านจะมีแค่หลังคา ไม่มีฝาบ้าน แต่สุขใจ กินอิ่มนอนหลับ
”ธนาคารที่ดิน มาสอนทุกอย่าง ทำเกษตรตามแนวคิดของในหลวง เช่น ป่าสามอย่างประโยชน์สี่อย่าง ปลูกผักสวนครัวส่งขายตลาด ตอนนี้ทดลองปลูกข้าวพันธุ์พื้นเมือง “นางพญาทองดำ” เหนื่อยแต่มีความสุขมาก ขอบคุณธนาคารที่ดิน ที่บั้นปลายสุดท้ายของชีวิตยายแดง ได้อยู่ที่นี่ ตายตาหลับแล้วไม่กังวลอะไรแล้ว”ยายแดง กล่าว
นางอนิษา แทนชัยภูมิ สมาชิกวิสาหกิจชุมชนฯ กล่าวว่า เมื่อก่อนมีอาชีพรับจ้าง ลำบากมาก ไม่พอกิน ทำทุกอย่างเพื่ออนาคตตัวเองและลูก กู้หนี้มากินมาใช้ พอได้มาเข้ามาอยู่โครงการของ “ธนาคารที่ดิน” ดีใจมากตื้นตันใจ ตอนนี้ทำสวนเป็นอาชีพหลักปลูกทุกอย่าง ผัก ผลไม้ พืชสวนครัว มีรายได้แบบรายวัน รายสัปดาห์ รู้สึกภูมิใจมาก วันนี้ครอบครัวเข้มแข็ง ชุมชนเข้มแข็ง ชีวิตเปลี่ยนไป “ธนาคารที่ดินเป็นที่พึ่งของคนยากจนจริง ๆ”
นายวินิต ดีขะนุ สมาชิกวิสาหกิจชุมชนฯ กล่าวเสริมว่า “มีอาชีพเป็นช่างรับจ้างทั่วไป หาเช้ากินค่ำ รายได้ไม่มั่นคง ได้รับที่ดินจัดสรรจากธนาคารที่ดิน ก็ยึดอาชีพเกษตรกรเป็นหลัก บนเนื้อที่ 1 ไร่กว่า แบ่งประโยชน์ใช้สอยเป็น 4 ส่วน ส่วนแรกทำบ้านพัก ส่วนสองทำฟาร์มไก่ไข่ ส่วนสามปลูกพืชหลัก คือ ทุเรียน อโวคาโด มะละกอ ส่วนที่สี่พื้นที่เก็บน้ำ สระใหญ่เป็นน้ำใช้ทั้งปี สระเล็กใช้ในการเกษตร อนาคตจะเลี้ยงปลา องค์ความรู้ที่ได้ “ธนาคารที่ดิน” พยายามจัดวิทยากรมาสอนการทำเกษตรอินทรีย์ตามหลักศาสตร์พระราชา ช่วยพัฒนาด้านการตลาด การใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ อีกส่วนจากไปอบรมศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ ของอาจารย์ยักษ์ นำองค์ความรู้มาปรับใช้ประโยชน์จากที่ดินให้มากที่สุด ความเป็นอยู่ดีขึ้นมา
นางชดช้อย แสงทอง สมาชิกวิสาหกิจชุมชนฯ เล่าว่า “เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ทำงานรับจ้างรายวัน หาเงินเลี้ยงลูก 3 คน ได้บ้างไม่ได้บ้าง สิ้นหวังไม่มีงานไม่มีกิน คิดว่าชาตินี้ไม่น่าจะมีบ้านและที่ทำกินแล้ว เมื่อได้โอกาสร่วมโครงการฯ ตอนแรกกลัวโดนหลอกมากแต่เมื่อเข้าร่วมแล้วปรากฏว่าทุกอย่างคือความจริง ทำให้ชีวิตมีความหวังเห็นแสงสว่างดีใจมาก วันนี้มีความสุขมาก ๆ ตอนนี้ทำสอนปลูกผัก ผลไม้เกือบทุกชนิด เลี้ยงปลาในกระชัง ทำเกษตร แม้จะยากและเหนื่อย แต่คิดว่าถ้าสู้เราทำได้ อยากให้ทุกคนมีความหวัง ”ธนาคารที่ดิน“ ช่วยเราได้จริง ๆ
”ขอให้เชื่อมั่นว่า “ธนาคารที่ดิน” เป็นองค์กรเพื่อประชาชนฐานรากจริง ๆ เหนือสิ่งอื่นใดต้องขอบพระคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ท่านดูแลคนไทยทุกคน ทำให้เรามีแผ่นดินอาศัยและทำมาหากิน เรามีพระมหากษัตริย์ที่ประเสริฐที่สุดแล้ว” นางชดช้อย ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี