อ.ต.ก.ปลื้ม!! กระแสคนทั่วโลกยังชื่นขอบรสชาติผลไม้ไทยมากขึ้นต่อเนื่อง

อ.ต.ก.ปลื้ม!! กระแสคนทั่วโลกยังชื่นขอบรสชาติผลไม้ไทยมากขึ้นต่อเนื่อง

วันอังคาร ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 18.56 น.
Tag :

อ.ต.ก.ปลื้ม!! กระแสคนทั่วโลกยังชื่นขอบรสชาติผลไม้ไทยมากขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะ “มะม่วงน้ำดอกไม้-ขนุน-มะพร้าวน้ำหอม” ยังเป็นที่นิยมมากขึ้น หลังทัพสินค้าเกษตรไทยโชว์ผลงานยอดเยี่ยมล่าสุดในงาน “World Food Forum 2025” ที่อิตาลี  พร้อมมั่นใจ “ลองกอง-แก้วมังกร-สับปะรดอบแห้ง-กล้วยน้ำว้า” จะมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น

องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการ "Thailand Agri Intertrade 2025” นำสินค้าเกษตรมูลค่าสูงของไทย ชูนวัตกรรม Smart Farming ยกระดับสินค้าเกษตรเมืองร้อนมูลค่าสูงเข้าร่วมงาน World Food Forum 2025 ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 10–13 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา เป้าหมายเพื่อสร้างโอกาสทางการค้าและสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืนให้เกษตรกรไทย พร้อมจัด Business Matching เพื่อเปิดทางให้ผู้ซื้อ ผู้ประกอบการต่างชาติเจรจาธุรกิจกับเกษตรกรและผู้ผลิตไทยโดยตรง ชูธงผลักดันสินค้าเกษตรไทยสู่เวทีการค้าโลกภายใต้แนวคิด BCG Economy Model (Bio Economy -Circular Economy -Green Economy)


ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568  นายอภิพัฒน์ เลิศฤทธิ์ศิริกุล รองผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นงานดังกล่าวว่า การนำผลไม้ไทยไปประชาสัมพันธ์ให้ชาวต่างชาติได้สัมผัสและชิมรสชาติภายในงานครั้งนี้ มีกระแสตอบรับจากต่างชาติที่มาร่วมงานเป็นอย่างดีโดยเฉพาะกลุ่มคู่ค้า  ซึ่งในส่วนของ อ.ต.ก.  เอง ยังได้มีบทบาทและหน้าที่ในการหาคู่ค้าเพื่อ Business Matching ให้กับสินค้าเกษตรของไทยอีกด้วย 

นายอภิพัฒน์  กล่าวต่อว่า  สำหรับผลไม้ไทยที่ชาวต่างชาติรู้จักและเป็นยอดนิยมมาก 3 อันดับ ยังคงเป็น มะม่วงน้ำดอกไม้ มะพร้าวน้ำหอม และขนุน ที่ผลตอบรับดีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ทาง อ.ต.ก. ยังนำผลไม้ที่คาดว่าในอนาคตจะเป็นที่นิยมไปร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ได้แก่ ลองกอง แก้วมังกร สับประรด กล้วยน้ำว้า และผลไม้อบแห้ง อาทิ ฝรั่ง ขนุน สับประรด ขนุน มะม่วง ซึ่งผลตอบรับจากผู้บริโภคชาวต่างขาติ เป็นที่น่าพอใจอย่างมาก 

“งานนี้ ถือเป็นการเพิ่มโอกาสทางการค้าและสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืนให้เกษตรกรไทยอย่างต่อเนื่อง และเป็นก้าวที่สำคัญในการยกระดับสินค้าเกษตรเมืองร้อนของไทยไปสู่ตลาดโลก“ นายอภิพัฒน์ กล่าว 

นานอภิพัฒน์  ย้ำอีกว่า  การนำสินค้าเกษตรไทยเข้าร่วมงานในระดับนานาชาติครั้งนี้ นอกจากสร้างรายได้ให้เกษตรกรแล้ว  ยังยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรไทยและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุน รวมทั้งผู้บริโภคสากล และยังเป็นโอกาสที่สำคัญในการเชื่อมโยงผู้ผลิตไทยกับตลาดโลกด้วย 

”ถือว่า เป็นก้าวสำคัญในการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ (B2B) และการขยายสู่ตลาดผู้บริโภคโดยตรง (B2C) ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเกษตรกรไทย พร้อมปักธง “สินค้าเกษตรไทย” ให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกชั้นนำของเวทีการค้าโลก“ นายอภิพัฒน์ กล่าว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top