คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมงาน Bangkok Illustration Fair 2025 (BKKIF 2025) เทศกาลภาพประกอบที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ centralwOrld PULSE ชั้น 7 ระหว่างวันที่ 23-26 ตุลาคม 2568 โดยการเข้าร่วมงานครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ DPU ในการนำนักศึกษาและศิษย์เก่าสู่เวทีระดับนานาชาติ และตอกย้ำแนวคิดของคณะฯ ในการสร้างสรรค์ 'ศิลปินนักธุรกิจ' ที่มีศักยภาพในการต่อยอดผลงานเชิงพาณิชย์ได้อย่างแท้จริง

อาจารย์กิรติ ศรีสุชาติ รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ DPU กล่าวว่า งาน BKKIF 2025 เป็นเวทีใหญ่และสำคัญที่มีมาตรฐานในระดับประเทศ โดยจัดขึ้นเป็นปีที่ 5 ณ centralwOrld PULSE ชั้น 7 ถือเป็นเทศกาลภาพประกอบที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเปิดรับศิลปินจากหลากหลายประเทศผ่านกระบวนการคัดเลือกที่เข้มงวด โดยผู้สมัครต้องส่งโปรไฟล์เพื่อรับการพิจารณาอย่างละเอียด และมีเพียง 201 คน เท่านั้น ที่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมแสดงผลงาน 

ภายในงานแบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็นหลายโซน รวมถึงโซนมหาวิทยาลัยที่เพิ่งเปิดตัวในช่วงหลัง เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงศักยภาพควบคู่กับศิลปินมืออาชีพ โดยกิจกรรมภายในงานมุ่งเน้นการโชว์ผลงาน การจำหน่ายสินค้า และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของคณะศิลปกรรมศาสตร์ ที่มุ่งพัฒนาหลักสูตรให้ตอบโจทย์ตลาดภาพประกอบยุคใหม่ คณะฯ จึงคัดเลือกนักศึกษาปัจจุบันและศิษย์เก่ารวมทั้งหมด 20 คนจากผลงานที่มีความโดดเด่นด้านสไตล์และอัตลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อนำไปร่วมจัดแสดงในงานครั้งนี้ โดยผลงานทั้งหมดประกอบด้วยภาพประกอบต้นฉบับและสินค้าต่อยอด เช่น พวงกุญแจ สติกเกอร์ โปสการ์ด เสื้อยืด รวมถึงงานออกแบบที่สามารถนำไปใช้ในเชิงธุรกิจได้จริง

“เราอยู่ในยุคที่ศิลปะต้องสามารถสื่อสารและสร้างมูลค่าในเชิงธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม คณะฯ จึงได้ปรับชื่อหลักสูตรและแนวทางการเรียนการสอนใหม่ เพื่อเน้นการทำงานร่วมกับศาสตร์ด้านการสื่อสารและการออกแบบเชิงพาณิชย์ โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการสร้างนักออกแบบที่เข้าใจกลไกตลาดและสามารถต่อยอดผลงานได้จริง ซึ่งงานนี้ตรงกับชื่อหลักสูตรศิลปะและการออกแบบสร้างสรรค์ เอกการออกแบบกราฟิกดิจิทัลและภาพประกอบที่ปรับพอดี”

อาจารย์กิรติ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การเข้าร่วมงานครั้งนี้ทำให้นักศึกษาได้เรียนรู้การนำเสนอผลงานในพื้นที่สาธารณะ ได้สัมผัสกับกลไกตลาดจริง และได้สร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการและศิลปินจากหลากหลายประเทศ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ช่วยให้พวกเขาเข้าใจว่าศิลปะสามารถสร้างคุณค่าได้จริง และเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาตัวเองให้เติบโตในสายอาชีพอย่างต่อเนื่อง

“การที่ DPU สามารถผ่านเกณฑ์การคัดเลือกในเวทีระดับเอเชียนี้ได้ ถือเป็นการยืนยันความสามารถของสถาบันเรา เพราะงานมีการรวบรวมผลงานศิลปินจาก 16 ประเทศทั่วโลก เช่น ไทย จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินโดนีเซีย มาร่วมแสดง การที่เราผลักดันให้นักศึกษาได้ก้าวเข้าสู่โลกการแข่งขันของธุรกิจอย่างจริงจังเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างโอกาสให้เด็กๆ ได้เห็นว่างานศิลปะที่ตนเองสร้างสรรค์ขึ้นมานั้นมีมูลค่าในโลกแห่งความเป็นจริงอย่างไร”

'DIVERSITY IS POWER' แปลงแรงบันดาลใจจาก 'ร้านชำ' สู่กลยุทธ์การตลาด

นางสาวณัฐธยาน์ บวรโชติถวัลย์ หรือ “น้องสวย” บัณฑิตคณะศิลปกรรมศาสตร์ หลักสูตรศิลปะและการออกแบบสร้างสรรค์ เอกการออกแบบกราฟิกดิจิทัลและภาพประกอบ DPU ผู้รับผิดชอบหลักในการจัดบูท ได้เปิดเผยถึงแนวคิดหลักของบูทภายใต้ธีม "DIVERSITY IS POWER: ความหลากหลาย คือ พลัง" ว่า แนวคิดนี้มาจากความพยายามที่จะหลอมรวมผลงานที่มีสไตล์แตกต่างกันของนักศึกษาหลายคน ให้อยู่ในพื้นที่จัดแสดงเดียวกันได้อย่างลงตัวและไม่แปลกแยก เนื่องจากงาน BKKIF โดยปกติแล้ว ศิลปิน 1 คน จะมีงาน 1 สไตล์ในการจัดแสดง แต่สำหรับบูทของ DPU มีงานที่มีความหลากหลาย จึงจำเป็นต้องหาคอนเซปต์หลักในการรวมทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกัน

แรงบันดาลใจในการออกแบบพื้นที่ยังมาจากย่านการค้าที่มีเอกลักษณ์อย่างร้านขายของชำ และร้านค้าเก่าแก่ในย่านสำเพ็ง ทรงวาด และพาหุรัด ทีมงานจึงได้นำเอาบรรยากาศเหล่านั้นมาปรับใช้ และประยุกต์เป็นงานออกแบบบูท เพื่อแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า งานภาพประกอบสามารถถูกต่อยอดเป็นสินค้าที่ระลึก (Merchandise) เชิงพาณิชย์ เช่น พวงกุญแจ สติกเกอร์ และโปสการ์ด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังเป็นการสื่อสารแนวคิดของคณะฯ ผ่านรูปธรรมที่จับต้องได้

“การออกแบบประสบการณ์ของบูท เรามุ่งเน้นการจำลองพื้นที่ให้เป็นเหมือนร้านขายของชำยุคใหม่ ซึ่งตั้งชื่อร้านว่า ‘ซิ๋นกำเส็ง’ ที่เป็นการเล่นคำจากชื่อคณะ และเสริมความมงคลด้วยคำมงคลในภาษาจีน เป็นการผสานวัฒนธรรมและเสริมกลิ่นอายไทย-จีน เพราะเรารู้สึกว่าร้านขายของชำมีความเป็นพื้นที่รวมของหลากหลายสิ่งที่ดูแตกต่าง แต่ก็อยู่ด้วยกันได้แบบไม่ขัดแย้ง ซึ่งมันตรงกับแนวคิดของบูทเราที่มีงานจากหลายคน หลายสไตล์ เราเลยอยากให้คนที่เดินเข้ามาเห็นแล้วรู้สึกได้ทันทีว่า ความหลากหลายมันคือพลังจริงๆ”

ในฐานะ Art Director ที่ดูแลภาพรวมการจัดบูท นางสาวณัฐธยาน์ยังกล่าวถึงบทบาทของกราฟิกดีไซน์ที่ขยายออกไปมากกว่าการออกแบบบนหน้าจอ “ตอนนี้กราฟิกเราต้องเป็นทุกอย่าง  ทั้งออกแบบ รวมถึงหาพร็อพ ไปซื้อของ เราต้องไปดูของเอง ของแบบไหนที่มันจะสามารถมาตอบโจทย์กับคอนเซปต์ที่เราคิดไว้ เราต้องถ่ายทอดทุกอย่างที่อยู่ในหัวเรา ให้คนอื่นที่ไม่รู้เลยว่าเราทำอะไร ให้เขาเข้าใจในเรื่องเดียวกันให้ได้”

ปลุกศักยภาพ เปลี่ยนอนาคต

เช่นเดียวกับ นางสาวพิศณี สีนาค หรือ “น้องมายด์” นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะศิลปกรรมศาสตร์ หลักสูตรศิลปะและการออกแบบสร้างสรรค์ เอกการออกแบบกราฟิกดิจิทัลและภาพประกอบ DPU หนึ่งในทีมงานได้เปิดเผยถึงผลงานสำคัญที่เธอมีส่วนสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์หลักสูตรของคณะฯ อย่าง ปฏิทินที่ถูกออกแบบขึ้นโดยเฉพาะ ที่ไม่ได้มีไว้เพียงดูวันหรือเดือนเหมือนปฏิทินทั่วไป แต่เป็นสื่อเชิงสร้างสรรค์ที่สอดแทรกข้อมูลและจุดเด่นของแต่ละสาขาวิชา เช่น กราฟิกดีไซน์ แฟชั่น หรือการออกแบบเชิงสร้างสรรค์ ทำให้ผู้ชมสามารถรับรู้ถึงเอกลักษณ์และความโดดเด่นของหลักสูตรได้อย่างชัดเจน

“งานออกแบบชิ้นนี้ใช้ความสามารถด้านดีไซน์มาจัดการข้อมูลสำคัญ ทำให้คนอ่านสนุกและเข้าใจสิ่งที่เราต้องการสื่อ แทนที่จะเป็นเพียงข้อความเชิญชวนเหมือนการขายตรงเท่านั้น” น้องมายด์ กล่าว พร้อมบอกต่อว่า นอกจากผลงานที่ได้จัดแสดง ตนยังได้ประสบการณ์การทำงานร่วมกับ Art Director ของรุ่นพี่ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในบทเรียนสำคัญสำหรับนักศึกษา เพราะนอกจากการวางคอนเซปต์และดูแลผลงานโดยรวมแล้ว ยังต้องบริหารจัดการงานจริงทั้งด้านกราฟิกและองค์ประกอบอื่นๆ ของบูท เช่น การเลือกวัสดุ การหาพร็อพ การจัดวางพื้นที่ และการสื่อสารวิสัยทัศน์ให้ทีมงานทุกคนเข้าใจตรงกัน

“การทำงานร่วมกับพี่ๆ ศิษย์เก่าที่มีประสบการณ์ ทำให้หนูได้เรียนรู้ ทักษะด้านการทำงานเป็นทีม การบริหารโครงการ และการประสานงาน ซึ่งไม่สามารถเรียนรู้ได้จากในห้องเรียน ประสบการณ์ครั้งนี้ที่เราได้รับจากการทำงานนอกห้องเรียนมีคุณค่ามาก เพราะเราได้เรียนรู้ว่าการออกแบบกราฟิกไม่ได้จบแค่หน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่ยังรวมถึงการจัดการองค์ประกอบทั้งหมด ตั้งแต่การหาพร็อพ การคัดเลือกวัสดุ ไปจนถึงการสื่อสารไอเดียให้คนอื่นเข้าใจในภาพเดียวกัน”

ประสบการณ์บนเวทีระดับเอเชียเช่นนี้จึงเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของคนรุ่นใหม่ให้กลายเป็นศิลปินมืออาชีพที่เข้าใจมิติทางธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นเหมือน Art Show ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการตรวจสอบศักยภาพของศิลปิน และพิจารณาโอกาสในการทำธุรกิจร่วมกัน ตลอดจนความเป็นไปได้ในการต่อยอดธุรกิจร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม

คณะศิลปะกรรมศาสตร์ DPU ขอเชิญชวนนักธุรกิจและผู้ประกอบการเข้าร่วมเยี่ยมชมบูท ‘ซิ๋นกำเส็ง’ ของคณะศิลปกรรมศาสตร์ DPU ในงาน BKKIF 2025 ณ centralwOrld PULSE ชั้น 7 ระหว่างวันที่ 23-26 ตุลาคม 2568 เพื่อสนับสนุนและแสวงหาโอกาสในการต่อยอดธุรกิจร่วมกับศิลปินนักออกแบบรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพต่อไป