ช้อปปี้ครบหนึ่งทศวรรษแห่งผู้นำอีคอมเมิร์ซประกาศวิสัยทัศน์ สะพานดิจิทัล

ช้อปปี้ครบหนึ่งทศวรรษแห่งผู้นำอีคอมเมิร์ซประกาศวิสัยทัศน์ สะพานดิจิทัล

วันเสาร์ ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 19.33 น.

ช้อปปี้ครบหนึ่งทศวรรษแห่งผู้นำอีคอมเมิร์ซประกาศวิสัยทัศน์ “สะพานดิจิทัล” หนุนผู้ผลิตไทยสู่สากลพร้อมผสานพลังพันธมิตรระดับโลก และครีเอเตอร์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลไทย
 
ประเทศไทย, 13 พฤศจิกายน 2568: ช้อปปี้ (Shopee) ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไต้หวัน และบราซิล จัดงาน “Shopee SUMMIT TOGETHER WE GROW” ประกาศวิสัยทัศน์แห่งทศวรรษใหม่ มุ่งเป็น “สะพานดิจิทัล” (Digital bridge) และ “ประตูสู่เศรษฐกิจดิจิทัล” เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทย ทุกระดับสู่ระดับภูมิภาค พร้อมเดินหน้าผนึกความร่วมมือกับภาครัฐในการสนับสนุน SMEs และผู้ประกอบการท้องถิ่น พร้อมเผยแผนรุกตลาดยกระดับประสบการณ์นักช้อปแบบ 360 องศา พัฒนาโซลูชั่นตอบโจทย์ผู้ซื้อในแต่ละหมวดสินค้า ชู 4 หมวดหมู่หลักนำร่อง ควบคู่กับการเปิดตัวแคมเปญใหม่และการผสานความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก ทั้งยังโชว์ความสำเร็จของเครือข่ายครีเอเตอร์ (KOLs) ที่สามารถสร้างยอดขายจากคอนเทนต์ให้เติบโตพร้อมเปิดเวที Seller & KOLs Business Matching เพื่อสร้างโอกาสเชื่อมต่อทางธุรกิจและขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ
ผนึกภาครัฐ สะท้อนความร่วมมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลไทย กลไกสำคัญหนุนผู้ประกอบการไทยสู่สากล
 
การจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการสะท้อนความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลไทย โดย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ คุณพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ เปิดเผยว่าถึงความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กับ ช้อปปี้ ที่ผ่านมาเป็นระยะเวลากว่า 7 ปี ในการขับเคลื่อนโครงการสำคัญที่สร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและเป็นต้นแบบของโครงการอื่นๆตามมามากมาย ช้อปปี้มีบทบาทสำคัญในฐานะ “แพลตฟอร์มแห่งโอกาส” ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถสร้างรายได้ ขยายธุรกิจ และเชื่อมโยงกับผู้บริโภคทั่วภูมิภาคในระบบนิเวศดิจิทัลที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ได้ผลักดันเศรษฐกิจการค้าไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลที่โลกธุรกิจกำลังเปลี่ยนผ่าน สู่ระบบออนไลน์เต็มรูปแบบ จนสามารถผลักดันยอดขายให้ผู้ประกอบการไทยบน Landing Page “สุขใจซื้อของไทย” ซึ่งมีมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท 
ทั้งนี้ ทางกรมฯ พร้อมเดินหน้าสานต่อความร่วมมือกับ ช้อปปี้ อย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยทุกระดับ โดยเฉพาะ SMEs และผู้ประกอบการท้องถิ่น ให้มีโอกาสเข้าถึง องค์ความรู้ เทคโนโลยี เครื่องมือทางการตลาด และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันบนเวที อีคอมเมิร์ซ และเป็นช่องทางให้กับสินค้าไทยเติบโตและได้รับการยอมรับในระดับสากลได้อย่างยั่งยืน”ช้อปปี้ ชูวิสัยทัศน์ “ประตูสู่เศรษฐกิจดิจิทัล” พร้อม เดินหน้าส่งเสริมโอกาสที่เท่าเทียมให้ผู้ประกอบการไทย

คุณฮันดิกา จาห์จา กรรมการผู้จัดการใหญ่ ช้อปปี้ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า “ตลอดเวลากว่าทศวรรษที่ผ่านมา ช้อปปี้ได้เข้ามาเปลี่ยนภูมิทัศน์การช้อปปิ้งออนไลน์ของไทย โดยมอบประสบการณ์ที่สะดวกและเข้าถึงง่ายให้กับทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย สำหรับผู้ซื้อ เรามุ่งสร้างประสบการณ์ที่ครบครัน ครอบคลุมทุกหมวดหมู่สินค้า พร้อมดีลพิเศษและแคมเปญใหญ่ตลอดปี รวมถึงระบบการชำระเงินและบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล


ในส่วนของผู้ขาย ช้อปปี้เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยทุกขนาดสามารถแสดงศักยภาพและขยายธุรกิจได้กว้างขึ้น เรามีบทบาทในการขับเคลื่อนและยกระดับธุรกิจของผู้ขายให้เติบโตอย่างยั่งยืน และสามารถเข้าถึงลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น

ในโอกาสก้าวสู่ทศวรรษใหม่ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ช้อปปี้ประกาศเดินหน้าภายใต้วิสัยทัศน์การเป็น “ประตูสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (Gateway to the Digital Economy)” เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยทุกระดับให้เข้าถึงโอกาสทางธุรกิจได้อย่างเท่าเทียม ตั้งแต่ร้านค้าครอบครัว ผู้ผลิตชุมชน ไปจนถึงองค์กรและแบรนด์ระดับประเทศ โดยใช้พลังของเทคโนโลยีและเครือข่ายของช้อปปี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการเชื่อมโยงสินค้าไทยสู่ผู้บริโภคทั้งในประเทศและตลาดต่างประเทศ
“เรามุ่งเป็นสะพานดิจิทัล (Digital Bridge) ที่เชื่อมศักยภาพของผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดระดับภูมิภาค เพื่อให้ธุรกิจไทยสามารถเติบโตอย่างมั่นคง ยั่งยืน และเป็นที่ยอมรับบนแผนที่เศรษฐกิจดิจิทัลของโลก” คุณฮันดิกา จาห์จา กล่าวทิ้งท้าย
เปิดแผนธุรกิจ เน้น 4 หมวดหมู่หลัก รับมืออีคอมเมิร์ซมูลค่า 1.6 ล้านล้านบาท
 
พร้อมกันนี้ ช้อปปี้ ได้อัพเดทภาพรวมธุรกิจและกลยุทธ์การตลาด โดยเน้นย้ำให้เห็นว่า อีคอมเมิร์ซยังคงเป็นพลังขับเคลื่อนการเติบโต โดยคาดว่าจะมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของเศรษกิจดิจิทัลในปี 2569 โดย คุณธัญญธร เหล่าวัชระ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ช้อปปี้ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า “ช้อปปี้ จะเดินหน้ายกระดับธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการให้
ความสำคัญในการพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์ผู้ซื้อในแต่ละหมวดหมู่สินค้า เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวก ตรงใจ และครอบคลุมมากที่สุด พร้อมเสิร์ฟ “ความใหม่” ที่พัฒนาจากความต้องการและความคิดเห็นของผู้บริโภค 
โดยชูกลยุทธ์สำคัญใน 4 หมวดหมู่หลัก ได้แก่

● หมวดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า (Electronics)
ที่มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เชื่อมต่อระหว่างออนไลน์และออฟไลน์อย่างราบรื่น               ผ่านบริการเสริมใหม่ๆ เช่น บริการติดตั้งสินค้าพร้อมกับการซื้อสินค้า โปรแกรมแลกเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ มอบประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบครบวงจร ตั้งแต่ก่อนซื้อจนถึงหลังการสั่งซื้อ พร้อมเสริมความสะดวกและเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าในทุกขั้นตอน

● หมวดสินค้าแฟชั่น(Fashion) ที่ตอบรับเทรนด์แฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  ด้วยการนำเสนอสินค้าและคอลเล็กชันใหม่อย่างต่อเนื่อง ผ่านแผนความร่วมมือกับแบรนด์ต่าง ๆ และการทำงานร่วมกับ KOL ที่สะท้อนภาพลักษณ์แบรนด์ พร้อมบริการจัดส่งด่วน เพื่อให้สินค้าใหม่ถึงมือลูกค้าทันกระแส

● หมวดสินค้าสินค้าอุปโภคบริโภค( FMCG) เน้นการสร้างความผูกพันกับลูกค้าและกระตุ้นการซื้อซ้ำผ่านเครื่องมือทางการตลาดรูปแบบใหม่ รวมถึงการผลักดันสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนเร็วและตัดสินใจไวขึ้น
● หมวดสินค้าไลฟ์สไตล์(Lifestyle) ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้บริโภครายได้สูง ผ่านบริการจัดส่งรวดเร็วและคุ้มค่าผ่าน Shopee Partner Logistics (SPL) รวมถึงบริการ ช้อปก่อน จ่ายทีหลัง

(Buy Now Pay Later) ที่มอบตัวเลือกการผ่อนชำระที่ยืดหยุ่นและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ยุคปัจจุบัน

เร่งเครื่อง “Speed Strategy” ยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งรวดเร็วทันใจ

เพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ช้อปปี้ได้เดินหน้าพัฒนากลยุทธ์ด้านความรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง ด้วยการขยายบริการจัดส่งแบบเร่งด่วน เช่น จัดส่งภายในวันเดียว (Same-day Delivery) และ จัดส่งภายใน 4 ชั่วโมง (4-hour Delivery) เพื่อรองรับความต้องการสั่งซื้อสินค้าที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญหรือแบบเร่งด่วน เช่น การเดินทาง หรือการเลือกซื้อของขวัญ ควบคู่ไปกับบริการจัดส่งมาตรฐานสำหรับการช้อปปิ้งตามแผนที่วางไว้  ช้อปปี้มุ่งมั่นที่จะมอบทางเลือกการจัดส่งที่ยืดหยุ่นและหลากหลาย เพื่อช่วยผู้ขายสร้างโอกาสทางการขายใหม่ๆ และเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจให้ดียิ่งขึ้นขยายโอกาสสู่ระดับภูมิภาค ด้วย Shopee Global Sales

นอกจากการเดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์หลักในประเทศแล้ว ช้อปปี้ยังให้ความสำคัญกับการเปิดโอกาสทางการค้าในระดับภูมิภาค เพื่อเสริมศักยภาพและขยายขอบเขตการเติบโตของผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดโลก ภายใต้วิสัยทัศน์ในการเปิดโอกาสการเติบโตก้าวต่อไปให้กับผู้ประกอบการไทย

ช้อปปี้ได้เปิดตัวโครงการ Shopee Global Sales ซึ่งเป็นโครงการที่ยกระดับมาจากโครงการ Shopee International Platform (SIP) มาเพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจของผู้ขายไทยสู่ตลาดต่างประเทศอย่างยั่งยืน โครงการดังกล่าวไม่เพียงมุ่งนำผู้ขายไทยไปสู่ตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น แต่ยังมุ่ง เชื่อมตลาดในภูมิภาคเข้ากับผู้ขายไทยโดยตรง เพื่อเปิดโอกาสให้แบรนด์ไทยสามารถเข้าถึงผู้บริโภคในต่างประเทศได้สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยความยืดหยุ่น เครื่องมือทางการตลาดที่ครบวงจร และการสนับสนุนด้านการขายในระดับสากล Shopee Global Sales จะช่วยเสริมศักยภาพให้ธุรกิจไทยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และตอบรับกระแสความนิยมของสินค้าไทยที่เติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วภูมิภาคอาเซียนยกระดับประสบการณ์นักช้อป 360 องศา พร้อมผนึกกำลังพันธมิตรระดับโลก
 
ทางด้าน คุณคงกฤช ล้อเลิศรัตนะ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจการตลาด ช้อปปี้ (ประเทศไทย) ได้เปิดเผยถึงแผนงานและแนวทางการยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ให้กับคนไทยว่า “ช้อปปี้ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาประสบการณ์ที่ลูกค้าพึงจะได้รับ โดยเราได้เตรียมแผนงานในการยกระดับไว้อย่างรอบด้านครบในทุกมิติแบบ 360 องศา สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เราได้เปิดตัวแคมเปญ Mega Brand Day ซึ่งถือเป็นแคมเปญระดับสูงสุดของ ช้อปปี้ ที่ออกแบบขึ้นเพื่อสร้างอิทธิพลและผลลัพธ์สุงสุดในสเกลที่ทรงพลังกว่า Super Brand Day ทั้งในด้านกลยุทธ์และเครื่องมือการตลาด โดยร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำ เพื่อยกระดับสู่ประสบการณ์ขั้นสุดทั้งในฝั่งพาร์ทเนอร์และ นักช้อป ซึ่งสามารถสร้างผลลัพธ์โดดเด่นทั้งในด้านยอดขายและการสร้างการจดจำในวงกว้าง ล่าสุด ในเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา ที่เราได้เริ่มเปิดตัวแคมเปญ MEGA Brand Day ร่วมกับแบรนด์ดังอย่าง Huawei สามารถสร้างสถิติยอดขายและจำนวนผู้ซื้อพุ่งสูงกว่า 5 เท่า โดยความร่วมมือนี้ ถือเป็นต้นแบบความสำเร็จที่จะถูกพัฒนาและต่อยอดไปยังแบรนด์อื่น ๆ ซึ่งนอกจาก แบรนด์หรือผู้ประกอบการจะได้ขยายโอกาสในการเพิ่มยอดขายแล้ว ผู้ซื้อก็จะได้รับความคุ้มค่าที่มากกว่า รวมถึงความสะดวกสบายในการซื้อสินค้าอีกด้วยช้อปปี้ ชูความแตกต่างอันทรงพลังด้วยแข็งแกร่งด้านเครือข่ายครีเอเตอร์ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด
 
นอกเหนือจากการแถลงวิสัยทัศน์และแผนธุรกิจ งาน Shopee SUMMIT TOGETHER WE GROW ยังได้เน้นย้ำถึงข้อได้เปรียบที่สำคัญของ ช้อปปี้ นั่นคือการใช้พลังของเครือข่ายผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ หรือ KOL Partner ในการช่วยขายและสร้างรายได้ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ ช้อปปี้ มีความแข็งแกร่งและแตกต่าง โดย Shopee Affiliate KOLs ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน จุดแข็งของ ช้อปปี้ ที่ให้เกิดการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ (KOL Partner) ช่วยโปรโมทสินค้า สร้างการรับรู้ และเพิ่มอัตราการมองเห็นแบรนด์ ในขณะที่ฝั่งผู้ซื้อ ก็สามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อได้อย่างรอบด้านมากยิ่งขึ้น ซึ่งโครงการนี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย ณ ปัจจุบัน มียอดขายจากคอนเทนต์ในระบบเติบโตขึ้นกว่า 70% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา การเติบโตนี้ช่วยให้ KOL ทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่สามารถสร้างรายได้บนโลกออนไลน์
 
ในส่วนของฟีเจอร์ยอดนิยมและทรงพลังหนึ่งใน Ecosystem ของ ช้อปปี้ อย่าง Shopee Live และ Shopee Video ยังคงได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ โดยในปีนี้ Shopee Live ช่วยเพิ่มออเดอร์ให้ผู้ขายเติบโตขึ้นกว่า 65% ส่วน Shopee Video ก็สร้างยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 400% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สะท้อนให้เห็นถึงพลังของคอนเทนต์ที่ช่วยกระตุ้นยอดขายบนแพลตฟอร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของงานในครั้งนี้ ช้อปปี้ ยังได้ประกาศความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรระดับโลกอย่าง YouTube Shopping และ Shopee META Affiliate ในการร่วมกันสร้างการเติบโตให้กับโปรแกรม Affiliate ที่ ช้อปปี้ ถือเป็นหนึ่งในผู้จุดประกายให้โปรแกรมนี้เป็นที่นิยมโดยสามารถทำประโยชน์ให้กับทั้งฝั่งผู้ขาย ฝั่งผู้ซื้อ และผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top