วันจันทร์ ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ณ ห้องชนกนันท์ โรงแรมเอบิน่าเฮ้าส์ กรุงเทพมหานคร นายแพทย์ปกรณ์ ตุงคะเสรีรักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย พร้อมด้วย รศ.ดร.ชนิพรรณ บุตรยี่ กรรมการบริหารแผน คณะที่ 5 สำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ (สสส.) นางสาวนิรมล ราศรี ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ (สสส.) นายวิษณุ ศรีทะวงศ์ ประธานมูลนิธิเครือข่ายพลังสังคม และ ดร.ณัจยา แก้วนุ้ย ผู้จัดการโครงการอาหารปลอดภัยฯ(Safety food) ร่วมเปิดการประชุม “เวทีสานพลังสังคมคนร้านอาหารลดปัจจัยเสี่ยงและมอบป้ายร้านอาหารเข้าร่วมโครงการ “ร้านนี้ร่วมโครงการสุขภาพดี ลดหวาน มัน เค็ม”เพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุน และให้กำลังใจ ผู้ประกอบการธุรกิจค้าอาหาร สร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัย คุณภาพและมาตรฐาน ตลอดจนการยกระดับคุณค่าอาหารไทยต่อผู้บริโภค ร่วมรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาโรค NCDs ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและวิถีชีวิตเพื่อสุขภาพ ลดการเกิดโรค NCDs โดยมีภาคีเครือข่ายร้านอาหาร ชุมชน และโรงเรียน จาก 14 จังหวัด จำนวน 130 คน มีการบรรยายพิเศษ เกี่ยวกับ “วิถีชีวิตสุขภาวะเริ่มต้นที่จานอาหาร : โอกาสของร้านอาหารไทยในการ ลดหวาน มัน เค็ม และเพิ่มทางเลือกสุขภาพ” โดยรศ.ดร.ชนิพรรณ บุตรยี่ กรรมการบริหารแผน คณะที่ 5 สำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ (สสส.)
นอกจากนี้มีเวทีเสวนาเรื่อง” บทบาทของผู้ประกอบการร้านอาหารต่อการป้องกันและควบคุม NCDs”โดย อาจารย์ ดร.สง่า ดามาพงษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ สสส. ผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ นางพรนภา คำทอง อุปนายกสมาคมการค้าธุรกิจอาหาร นายวิษณุ ศรีทะวงศ์ ประธานมูลนิธิเครือข่ายพลังสังคม นายสุชาติ สุขเจริญ รองผู้อนวยการสำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ กรมอนามัย นายสุพจน์ รื่นเริงกลิ่น นักนักโภชนาการชำนาญการพิเศษ และมีการมอบป้ายร้านอาหาร ที่มีเจตนารมย์เข้าร่วมโครงการ “ร้านนี้ร่วมโครงการสุขภาพดี ลดหวาน มัน เค็ม” สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กิจกรรมสานพลังสังคมคนร้านอาหารลดปัจจัยเสี่ยง “โชว์ ชิม แชร์ เชื่อม อาหารปลอดภัย ใส่ใจสุขภาพ และ อร่อยได้...ไร้แอลกอฮอล์” โดยการจัดเมนูอาหารที่เด่นผู้บริโภคทั่วไปเข้าถึงสัมผัสได้ และการสาธิตเมนูสุขภาพ จาก สมาชิกสมาคมการค้าธุรกิจอาหาร
ทางด้านดร.ณัจยา แก้วนุ้ย (ดร.จิ) ผู้จัดการโครงการอาหารปลอดภัยฯ (Safety food) (สสส.) กล่าวว่า”อาหาร นับว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวและเป็นหนึ่งในสิ่งที่หากใส่ใจ ก็จะช่วยเลี่ยงจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้ ปัจจุบันผู้บริโภค ห่างไกลวัตถุดิบจากธรรมชาติ ติดรสชาต หวาน มัน เค็ม กินพืชผัก ผลไม้ น้อยลงและไม่เพียงพอในแต่ละวัน กินอาหารไม่ปลอดภัยมีการปนเปื้อนสารเคมี มากขึ้น ปรุงอาหารกินเองน้อยลง ได้รับความรู้ และการเข้าถึงด้านโภชนาการลดลง ผลที่ตามมาคือ การเจ็บป่วยและตายด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (โรค NCDs) เพิ่มขึ้น ดังนั้นวันนี้ทางโครงการจึง เชิญชวน ผู้ประกอบการค้าอาหาร ชุมชน และโรงเรียน เครือข่าย สสส.เข้าร่วมโครงการ รณรงค์ ลด หวาน มัน เค็ม และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่เป็นต้นเหตุก่อให้เกิดโรค NCDs
ด้าน รศ.ดร.ชนิพรรณ บุตรยี่ ผู้ทรงคุณวุฒิจาก สสส. ได้นำเสนอทิศทางการขับเคลื่อนระบบอาหารเพื่อสุขภาวะของประเทศ โดยมองว่าร้านอาหารเป็นจุดเชื่อมสำคัญของห่วงโซ่อาหารตั้งแต่ต้นน้ำถึงผู้บริโภค การสนับสนุนร้านอาหารให้ปรับสูตร ลดหวาน มัน เค็ม เพิ่มเมนูที่เป็นมิตรต่อสุขภาพ และใช้วัตถุดิบปลอดภัย คือยุทธศาสตร์สำคัญที่ช่วยลดภาระโรค NCDs ในระยะยาว เน้นว่า สสส. มุ่งพัฒนาระบบอาหารที่ “ปลอดภัย เข้าถึงได้ เป็นธรรม และเอื้อต่อสุขภาพ” ผ่านการขับเคลื่อนต้นแบบร้านอาหารปลอดภัย โรงเรียน ชุมชน และตลาดเขียว ในหลายจังหวัด เพื่อขยายผลสู่ระดับประเทศอย่างเป็นระบบ เวทีครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดเมนูเพื่อสุขภาพในร้านอาหารอีกด้วย เป็นการร่วมกำหนดทิศทางเชิงนโยบายที่จะนำไปสู่มาตรฐานร้านอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ปลอดภัย และสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน
นายวิษณุ ศรีทะวงษ์ ประธานมูลนิธิพลังสังคม กล่าวว่า ในการประชุมวันนี้ ต้องขอบคุณร้านอาหารที่เป็นตัวอย่างที่ดีและทำให้เกิดธรรมเนียมในเชิงปฏิบัติแบบใหม่ ในขณะเดียวกันเราจะได้เห็นบทบาทร้านอาหารที่มากขึ้นในการลดปัจจัยเสี่ยง เช่น การไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ ร้านอาหารร่วมรณรงค์ ลด หวาน มัน เค็ม หรือแม้กระทั่งในปัจจุบันนี้ภัยพิบัติก็เป็นปัจจัยเสี่ยง ซึ่งร้านอาหารก็จะมีส่วนช่วยเพื่อนๆในหลาย พื้นที่ ที่เกิดภัยพิบัติ หรืออาจจะเป็นครัวกลาง ในชุมชนของหลายๆ พื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติ ในเรื่องพรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับใหม่แม้จะถูกประกาศใช้แล้ว แต่ในระดับพื้นที่การปฎิบัติการ ของหน่วยที่อยู่ในพื้นที่เฝ้าระวัง ติดตามดูในสถานการณ์ ยังดีขึ้น หน่วยงานจับมือกันแน่นขึ้น หน่วยงานหลายๆ ภาคส่วนยังเห็นความสำคัญของการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีความสงบ ความเรียบร้อยในพื้นที่จัดงาน ดังนั้นจึงอยากให้ภาคส่วนต่างๆ ยังคงเข้มงวด และควบคุมดูแล พื้นที่เสี่ยง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยง ในการจัดงานอย่างต่อเนื่อง เราพบว่าในช่วงระยะเวลา สิบกว่าปีที่ผ่านมา การจัดงานไม่มีปัจจัยเสี่ยง อย่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คนจะเที่ยวมากขึ้น หากมีงานจะกร่อย คนรีบกลับบ้าน และส่งผลทางเศรษกิจผ่านผู้ประกอบการอีกด้วย
นางพรนภา คำทอง อุปนายกสมาคมการค้าธุรกิจอาหาร กล่าวว่า ที่ร้านสวนอาหารพรนภา เราปลูกผักอย่างปลอดภัย ใช้เอง ไม่มีสารเคมี หากลูกค้าต้องการเมนูผัก เราจะไปตัดสด ในสวนนำผักมาปรุงอาหารให้ลูกค้า และจะไม่ใช้ผงปรุงรส เครื่องปรุงที่มีโซเดี่ยมสูง ทางร้านจะเน้นเมนูสุขภาพ โดยเมนูส่วนใหญ่จะเน้นสมุนไพร ความปลอดภัย ของวัตถุดิบเป็นหลัก ซึ่งจากการที่เราได้มาประชุมในวันนี้และได้รับรู้ในด้านโภชนาการ เมนู 2:1:1 คือ แนวคิดสำคัญที่ร้านอาหารสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที และเมนู 6:6:1 ช่วยกระตุ้นให้ลดการปรุงรสหวาน มัน และเค็มลงอย่างเหมาะสม ทางร้าน วันนี้ได้มาประกาศเจตนารมณ์ เข้าร่วมโครงการ “ร้านนี้ร่วมโครงการสุขภาพดี ลดหวาน มัน เค็ม” เพื่อขอเป็นตัวร้านอาหารดูแลผู้บริโภคให้ได้เข้าถึงในการทานอาหารที่ปลอดภัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี