วันพุธ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ประชาสัมพันธ์
เปิดม่านประชุม Understanding China 2025 ณ นครกวางโจว เจาะลึกความทันสมัยแบบจีน และธรรมาภิบาลโลกใหม่

เปิดม่านประชุม Understanding China 2025 ณ นครกวางโจว เจาะลึกความทันสมัยแบบจีน และธรรมาภิบาลโลกใหม่

วันพุธ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 18.18 น.
Tag : กวางโจว Understanding China 2025
  •  

ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2025 นครกวางโจวเป็นเจ้าภาพการประชุม Understanding China Conference (UCC) 2025 ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติเยว่ซิ่ว โดยมีผู้แทนกว่า 70 ประเทศร่วมแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับความทันสมัยแบบจีนและธรรมาภิบาลโลก พิธีเปิดโดย หลี่ ชูเล่ย หัวหน้า แผนกประชาสัมพันธ์ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและ สมาชิกกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็นผู้กล่าวปาฐกถาโดยเน้นว่า "เส้นทางสู่ความทันสมัยของจีน"  หรือ Chinese Path to Modernization จะช่วยเสริมเสถียรภาพของโลก พร้อมผลักดันความร่วมมือแทนความขัดแย้ง และตอกย้ำบทบาทเชิงสร้างสรรค์ของจีนในการพัฒนาและแก้ปัญหาระดับโลก


กวางโจว...หน้าต่างบานใหญ่สู่การเข้าใจจีน เวทีที่จีนใช้สื่อสาร "Message" สำคัญไปยังชาวโลกกวางโจวถูกมองว่าเป็น “หน้าต่างบานใหญ่สู่การเข้าใจจีน” เพราะสะท้อนทั้งประวัติศาสตร์การเปิดประเทศและบทบาทของจีนในเวทีโลกยุคใหม่ การจัดประชุม Understanding China ทำให้เมืองนี้เป็นพื้นที่ที่จีนใช้สื่อสารมุมมองและทิศทางการพัฒนาโดยตรงต่อประชาคมโลก ช่วยให้ต่างประเทศเข้าใจจีนจากต้นทางข้อมูล ขณะเดียวกันเวทีนี้ยังเป็นช่องทางส่ง “ข้อความสำคัญ” ว่าจีนต้องการพัฒนาอย่างสันติ ร่วมมือด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยี และมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในโลก การสื่อสารที่ตรงไปตรงมาจึงช่วยลดความเข้าใจผิดและเสริมสร้างความไว้วางใจระหว่างประเทศ

ตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา การประชุม Understanding China ถูกใช้เป็น “หน้าต่างนโยบายที่จีนเปิดให้โลกดู” โดยเฉพาะที่กวางโจวซึ่งเป็นเจ้าภาพซ้ำหลายครั้ง เพราะเมืองนี้สะท้อน “ตัวตนใหม่ของจีน” ทันสมัย เปิดกว้าง เชื่อมโลก และขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม จีนใช้กวางโจวส่งสารทางยุทธศาสตร์ 3 ประการ ได้แก่

การผลักดันความร่วมมือเหนือการแข่งขันแบบศูนย์รวมศูนย์เสียการพัฒนาอย่างมั่นคงและยั่งยืนที่ไม่ทอดทิ้งใครการเชิญชวนให้โลก “เข้าใจจีน” ผ่านข้อมูลที่ถูกต้อง

ด้วยเหตุนี้ การประชุม Understanding China จึงกลายเป็นเวทีสำคัญในการสื่อสารนโยบายเชิงลึกของจีนสู่ชาวโลก

ทำไมต้องกวางโจว? เมืองหน้าด่านของการปฏิรูปและเปิดประเทศ และเป็นหัวใจของ Greater Bay Area - GBA)

กวางโจวเป็นหนึ่งในเมืองที่เปิดประเทศก่อนในยุคเติ้งเสี่ยวผิง และเติบโตขึ้นเป็น “เมืองหน้าด่าน” ของการปฏิรูปเศรษฐกิจจีนมายาวนาน นอกจากนี้ กวางโจวยังเป็นเมืองยุทธศาสตร์ของโครงการ Greater Bay Area (GBA) ซึ่งประกอบด้วยกวางตุ้ง–เซินเจิ้น–ฮ่องกง–มาเก๊า มีขนาดเศรษฐกิจรวมกว่า 1.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ใหญ่กว่าหลายประเทศในยุโรป ทำให้พื้นที่นี้เป็นแหล่งรวมเทคโนโลยี นวัตกรรม และการลงทุนระดับโลก

เหตุผลที่กวางโจวถูกเลือกให้เป็นเจ้าภาพ Understanding China มาจากบทบาทสำคัญหลายประการ ได้แก่ การเป็นเมืองการค้าและนวัตกรรมที่มีงาน Canton Fair อันเก่าแก่ที่สุดของจีน การเป็นประตูเชื่อมจีนสู่ ASEAN และยุโรปผ่านโครงสร้างพื้นฐานในยุค Belt and Road รวมถึงการเป็นเมืองนำร่องด้านการพัฒนาเทคโนโลยี 5G, AI, Smart Port และเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งล้วนเป็นหัวใจของการพัฒนาแบบจีนในยุคใหม่

การจัดงาน Understanding China ที่กวางโจวจึงเปรียบเสมือนการประกาศต่อโลกว่า “กวางโจวคือโมเดลเมืองสมัยใหม่แบบจีน—เปิดกว้าง เชื่อมโลก และขับเคลื่อนอนาคตด้วยนวัตกรรม” เมืองนี้จึงไม่เพียงเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของจีนยุคใหม่ที่พร้อมเชื่อมต่อกับโลกในทุกมิติ

ความทันสมัยในแบบฉบับของจีน เน้นความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน (Common Prosperity), การอยู่ร่วมกันของมนุษย์และธรรมชาติ, การพัฒนาอย่างสันติ ความทันสมัยนี้จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกในปี 2026 ต่อไปอย่างไร        

แนวคิด “ความทันสมัยในแบบฉบับของจีน” ถูกกำหนดอย่างชัดเจนในรายงานพรรคคอมมิวนิสต์จีนสมัยที่ 20 และถูกนำมาขยายความอย่างเป็นระบบบนเวที Understanding China Conference ว่าเป็นเส้นทางการพัฒนาที่ไม่ลอกแบบตะวันตก แต่สร้างแนวทางของตนเอง โดยมีพื้นฐานสำคัญ 5 ประการ ได้แก่

1) ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน (Common Prosperity) ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ และสร้างระบบสวัสดิการที่มั่นคงขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนเปลี่ยนจาก “โตเร็ว” เป็น “โตคุณภาพ”

2) การอยู่ร่วมกันของมนุษย์และธรรมชาติ (Eco-Civilization) จีนประกาศเป้าหมาย Carbon Peak 2030 – Carbon Neutrality 2060 และลงทุนพลังงานสะอาดมากที่สุดในโลก

3) การพัฒนาอย่างสันติ (Peaceful Development) จีนย้ำว่าไม่แสวงหาการปะทะ แต่สนับสนุนความร่วมมือระดับโลก

4) การยกระดับนวัตกรรมเป็นตัวนำ (Innovation-driven Development) อุตสาหกรรมชิป เซมิคอนดักเตอร์ New Energy Vehicle (NEV) และ AI จะเป็นแรงขับหลักของเศรษฐกิจปี 2026

5) การบริหารประเทศที่มีประชากรขนาดใหญ่ (1.4 พันล้านคน) โมเดลจีนต้องสร้าง “ความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทาน” และ “ความมั่นคงด้านอาหาร–พลังงาน”

โมเดลนี้ไม่เพียงมุ่งเน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ต้องการยกระดับ “คุณภาพการเติบโต” ผ่านระบบสวัสดิการที่มั่นคง นโยบายพลังงานสะอาด และโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ที่เน้นเทคโนโลยีขั้นสูง จีนวางเป้าหมาย Carbon Peak ปี 2030 และ Carbon Neutrality ปี 2060 พร้อมการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนในระดับสูงสุดของโลก ขณะเดียวกัน จีนยังเน้นย้ำการไม่เผชิญหน้าในเวทีระหว่างประเทศ แต่สนับสนุนความร่วมมือเพื่อสร้างเสถียรภาพระดับโลก

ภูมิทัศน์ใหม่ของธรรมาภิบาล ปัญหาระดับโลกที่ต้องการความร่วมมือ ข้อริเริ่มการพัฒนาโลก (GDI), ข้อริเริ่มความมั่นคงโลก (GSI) Global South

ในยุคที่โลกเผชิญปัญหาซับซ้อนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความเหลื่อมล้ำ ภาวะภูมิอากาศ สงคราม ความไม่มั่นคงด้านอาหาร และความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ ธรรมาภิบาลโลกจึงต้องก้าวสู่รูปแบบใหม่ที่เน้น “ความร่วมมือเหนือการแข่งขัน” จีนใช้เวที Understanding China นำเสนอภูมิทัศน์ธรรมาภิบาลรูปแบบนี้ โดยชี้ว่าประเด็นระดับโลกไม่อาจแก้ไขได้ด้วยพลังของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ

ในบริบทนี้ จีนผลักดันข้อริเริ่มสำคัญสองประการ ได้แก่ ข้อริเริ่มการพัฒนาโลก (Global Development Initiative – GDI) ซึ่งมุ่งลดความยากจน ส่งเสริม SDGs และสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน และ ข้อริเริ่มความมั่นคงโลก (Global Security Initiative – GSI) ที่เน้นความมั่นคงแบบร่วมมือ ไม่ใช่การแบ่งขั้ว การเผชิญหน้า หรือสงครามเย็นรูปแบบใหม่ ทั้งสองข้อริเริ่มนี้สะท้อนทัศนะของจีนว่าความมั่นคงและการพัฒนาเป็นสิ่งที่ต้องเดินไปคู่กัน

นอกจากนี้ จีนยังให้ความสำคัญกับการเสริมบทบาทของ Global South หรือกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เพื่อให้มีเสียงและส่วนร่วมในระบบโลกมากขึ้น ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้า เทคโนโลยี และธรรมาภิ

เรียบเรียงโดย ดร.กฤตติกา เศวตอมรกุล เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร / รองคณบดีคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ปลดฟ้าผ่า‘กัณวีร์ สืบแสง’พ้นเลขาพรรคเป็นธรรม เหตุแอบอ้างมติพรรคหนุน‘อนุทิน’นั่งนายกฯ

โยง'จีนเทา-พม่า' นายกฯร่วม DSI แถลงปฏิบัติการทลายเหมืองบิทคอยน์เถื่อน

เปิดตัวแล้ว? ไฮโซแพท อวดภาพคู่ โต้ง ทูพี ครั้งแรก ชาวเน็ตเมนต์รัวๆ

นายกฯลั่นคนเพื่อนน้อย เมินคดีเขากระโดง-ฮั้ว สว. ย้ำให้นโยบายทำงาน'ปิดชื่อ ถือพฤติกรรม'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved