ทรงพระเจริญกึกก้อง
รัชกาลที่10
เสด็จฯเลียบพระนคร
‘พสกนิกร’ต่างปลื้มปีติ
ชื่นชมพระบารมีใกล้ชิด
สถาปนา‘ฐานันดรศักดิ์’
พระบรมวงศ์10พระองค์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย และสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์พระบรมวงศ์ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2562 จากนั้นเสด็จฯเลียบพระนคร
โดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค ไปยังวัดบวรนิเวศวิหาร-วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เพื่อทรงนมัสการพระพุทธปฏิมาประธาน และพระบรมราชสรีรางคา โดยมีพสกนิกรจากทั่วสารทิศพร้อมใจสวมเสื้อสีเหลืองมารอเฝ้าฯรับเสด็จและชื่นชมพระบารมีเนืองแน่นตลอดเส้นทางเสด็จ
เมื่อเวลา 09.27น.วันที่ 5พฤษภาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯจากพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานไปยังพระที่นั่งไพศาลทักษิณ เสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทางพระทวารเทวราชมเหศวร ในพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย และสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์พระบรมวงศ์ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก2562
โอกาสนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ โดยเสด็จประทับรอ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
เฉลิมพระปรมาภิไธยในหลวง ร.9
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร รัชกาลที่ 1-9 ประทับพระราชอาสน์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายภูมินทร ปลั่งสมบัติ อาลักษณ์ กองอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี อ่านประกาศกระแสพระบรมราชโองการ เฉลิมพระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
ความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชอนุสรณ์คำนึงถึงสมเด็จพระบรมชนกนาถ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทรสยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ซึ่งได้ทรงรับพระราชภาระสืบสันตติวงศ์เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ดำรงพระองค์เป็นมิ่งขวัญของพสกนิกรชาวไทย ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการเป็นคุณประโยชน์เอนกอนันต์แก่อาณาประชาราษฎร์ เป็นที่ประจักษ์แก่ตาแก่ใจของบรรดาพสกนิกรและนานาอารยประเทศ
จนกระทั่งเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 แม้ระยะเวลาจะล่วงเลยมาจวบจนปัจจุบันแต่เหล่าพสกนิกรก็ยังคำนึงถึงพระมหากรุณาธิคุณเสมอมาไม่เสื่อมคลาย ในศุภสมัยอันเป็นมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนี้ สมควรจะได้สนองพระเดชพระคุณสนองถวายพระเกียรติยศให้ปรากฏได้แผ่ไพศาลยิ่งขึ้น ด้วยมีพระราชหฤทัยระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระบรมชนกนาถ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระปรมาภิไธยพระบรมอัฐิสมเด็จพระบรมชนกนาถตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” ขอให้พระเกียรติยศ คุณวิบูลยศ ปรากฏแผ่ไพศาลไปในสากลจักรวาล จิรัฏฐิติกาล ตลอดนิจนิรันดร์เทอญ ประกาศ ณ วันที่ 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 เป็นปีที่ 4 ในรัชกาลปัจจุบัน”
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงยืน เมื่ออาลักษณ์อ่านประกาศกระแสพระบรมราชโองการ จบ เชิญพานพระสุพรรณบัฏไปคอยทูลเกล้าฯ ถวายเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ
เฉลิมพระนามาภิไธยฯพระนางเจ้าสิริกิติ์
จากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์อ่านประกาศกระแสพระบรมราชโองการเฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ความว่า
“พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชดำริด้วยพระราชหฤทัยประกอบด้วยพระกตัญญูกตเวทิตา ระลึกถึงพระเดชพระคุณ สมเด็จพระบรมราชชนนี อันได้มีมาเป็นล้นพ้น ยิ่งกว่าผู้อื่นและทรงพระราชดำริว่าพระบรมราชชนนี เป็นผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ อันได้บังเกิดประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง และพสกนิกรเป็นอเนกปริยาย มีพระราชหฤทัยเปี่ยมด้วยพระเมตตากรุณาธิคุณ เสด็จออกสอดส่องดูแลทุกข์สุขของราษฎรทั่วทุกแห่งหนแม้ในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร ด้วยพระวิริยะอุตสาหะอย่างยิ่งยวด โดยทรงดำเนินพระราชจริยวัตรด้วยพระราชปณิธานแห่งธรรมราชินี
ในศุภสมัยอันเป็นมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษกนี้ สมควรจะเฉลิมพระเกียรติยศสนองพระคุณตามโบราณราชประเพณี อันจะอำนวยสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลแด่พระองค์ และสยามรัฐสีมาอาณาจักร จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระนามาภิไธยสมเด็จพระบรมราชชนนี ตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงและถวายเหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ 10 ชั้นที่ 1 ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย อำนาจแห่งพระกตัญญูกตเวทิตาธรรม และเทวดาเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงบันดาลอภิบาลรักษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้ทรงเจริญพระชนมายุ พรรณะสุขะ พละ ปฏิภาณ คุณสารสมบัติ สรรพสิริสวัสดิ์ พิพัฒนมงคลวิบุลศุภผลมโหฬาร ธนสารสมบูรณ์ วรเกียรติคุณอดุลยยศ ปรากฏยิ่งยืนนานตลอดจิรัฏฐิติกาล
เมื่ออาลักษณ์อ่านประกาศกระแสพระบรมราชโองการ จบแล้ว เชิญพานพระสุพรรณบัฏไปคอยทูลเกล้าฯ ถวายเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ถวายพานพระสุพรรณบัฏหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพถวายราชสักการะ
เฉลิมพระนามาภิไธยพระเทพฯ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์อ่านประกาศกระแสพระบรมราชโองการเฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็น“สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี” หลังอาลักษณ์อ่านพระบรมราชโองการจบ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยะชาติ สยามบรมราชกุมารี เข้าเฝ้าฯ หน้าพระราชอาสน์ พระราชทานน้ำพระมหาสังข์ ใบมะตูม ทรงเจิม พระราชทานพระสุพรรณบัฏและเหรียญรัตนาภรณ์ ร.10 ชั้นที่ 1
เฉลิมพระนามเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ
ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์อ่านประกาศกระแสพระบรมราชโองการเฉลิมพระนาม สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เป็น สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารีและพระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ 10 ชั้นที่ 1 จากนั้น สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน์วรขัตติยราชนารี เข้าเฝ้าฯหน้าพระราชอาสน์ พระราชทานน้ำพระมหาสังข์ ใบมะตูม ทรงเจิม พระราชทานพระสุพรรณบัฏและเหรียญรัตนาภรณ์ ร.10 ชั้นที่ 1 พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ แตร และดุริยางค์
เฉลิมพระนามพระองค์โสมฯ
ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์อ่านประกาศกระแสพระบรมราชโองการเฉลิมพระนาม พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นโบราณมงคลนพรัตน์ราชวราภรณ์ กับเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 10 ชั้นที่ 1 จากนั้นพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุธนารีนาถ เข้าเฝ้าฯ หน้าพระราชอาสน์ พระราชทานน้ำพระมหาสังข์ ใบมะตูม ทรงเจิม พระราชทานพระสุพรรณบัฏ เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ และเหรียญรัตนาภรณ์ ร.10 ชั้นที่ 1
สถาปนาเฉลิมพระนามพระองค์ภาฯ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์อ่านประกาศกระแสพระบรมราชโองการให้สถาปนาและเฉลิมพระนาม พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เป็น สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนธิราเทพยวดี พร้อมกับพระราชทานเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์ อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่ง มหาจักรีบรมราชวงศ์ และเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 10 ชั้นที่ 1 จากนั้น สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนธิราเทพยวดี เข้าเฝ้าฯหน้าพระราชอาสน์ พระราชทานน้ำพระมหาสังข์ ใบมะตูม ทรงเจิม พระราชทานพระสุพรรณบัฏ เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ และเหรียญรัตนาภรณ์ ร.10 ชั้นที่ 1
เฉลิมพระนามพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีฯ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์อ่านประกาศสถาปนาและเฉลิมพระนาม พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เป็น สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา พร้อมกับพระราชทานเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์ อันมีเกียรติคุณยิ่ง มหาจักรีบรมราชวงศ์ และเหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ 10 ชั้นที่ 1 จากนั้น สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา เข้าเฝ้าฯ หน้าพระราชอาสน์ พระราชทานน้ำพระมหาสังข์ ใบมะตูม ทรงเจิม พระราชทานพระสุพรรณบัฏ เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ และเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 10 ชั้นที่ 1
สถาปนาพระนามพระองค์เจ้าทีปังกรฯ
จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์อ่านประกาศสถาปนาเฉลิมพระนาม พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมารกับพระราชทานเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์ อันมีเกียรติคุณ รุ่งเรืองยิ่ง มหาจักรีบรมราชวงศ์ และเหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ 10 ชั้นที่ 1 จากนั้น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เข้าเฝ้าฯหน้าพระราชอาสน์ พระราชทานน้ำพระมหาสังข์ ใบมะตูม ทรงเจิม พระราชทานพระสุพรรณบัฏ เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ และเหรียญรัตนาภรณ์ ร.10 ชั้นที่ 1
เฉลิมพระเกียรติยศพระองค์เจ้าสิริภาฯ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์อ่านประกาศเฉลิมพระเกียรติยศ เปลี่ยนคำนำหน้าพระนาม พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ เป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฬาภรณ์กับพระราชทาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ จุลจอมเกล้าฝ่ายใน ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า และเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 10 ชั้นที่ 1 จากนั้น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฬาภรณ์ เข้าเฝ้าฯหน้าพระราชอาสน์ พระราชทานน้ำพระมหาสังข์ ใบมะตูม ทรงเจิม พระราชทานพระสุพรรณบัฏ เครื่องราชอิสริยารณ์จุลจอมเกล้า ฝ่ายใน ชั้น ปฐมจุลจอมเกล้า และเหรียญรัตนาภรณ์ ร.10 ชั้นที่ 1
เฉลิมพระนามพระองค์เจ้าอทิตยาทรฯ
จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์อ่านประกาศกระแสพระบรมราชโองการเฉลิมพระนาม เปลี่ยนคำนำหน้าพระนาม พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ เป็นพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณกับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าฝ่ายใน ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า และเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 10 ชั้นที่ 1 จากนั้นพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ เข้าเฝ้าฯหน้าพระราชอาสน์ พระราชทานน้ำพระมหาสังข์ ใบมะตูม ทรงเจิม พระราชทานพระสุพรรณบัฏ เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ฝ่ายใน ชั้น ปฐมจุลจอมเกล้า และเหรียญรัตนาภรณ์ ร.10 ชั้นที่ 1
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับดอกไม้ธูปเทียนแพจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาตินายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา และพลอากาศเอกสถิตย์พงษ์ สุขวิมล ประธานข้าราชบริพารในพระองค์
เจ้าหน้าที่กรมการศาสนา อาราธนาพระปริตร พระสงฆ์ 20 รูป เจริญพระพุทธมนต์ ถวายพรพระ จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงประเคนสำรับภัตตาหารแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชวงศ์ องคมนตรี ประเคนสำรับภัตตาหารแด่พระสงฆ์รูปต่อไปอีกตามลำดับ เมื่อพระสงฆ์ฉันเรียบร้อยแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนดูหนังสือเทศน์และเครื่องทรงธรรม
สมเด็จพระสังฆราช ถวายศีลและถวายพรพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 จบแล้ว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ แล้วทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่สมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ออกจากพระที่นั่ง เครื่องนมัสการ เสด็จฯ ไปประทับพักพระราชอิริยาบถ ณ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน
ร.10เสด็จฯเลียบพระนครทางสถลมารค
ต่อมาเวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ฉลองพระองค์ครุย สายสะพายจักรี สายสร้อยจุลจอมเกล้า ทรงพระมาลาเส้าสูง และทรงพระแสงขรรค์ชัยศรี เสด็จฯจากพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ไปยังพระที่นั่งไพศาลทักษิณ เสด็จออกพระที่นั่ง อมรินทรวินิจฉัย ทางพระทวารเทวราชมเหศวร เสด็จฯ ไปประทับรถยนต์พระที่นั่งทางพระทวารเทเวศรรักษา ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
ถวายราชสักการะพระประธานวัดบวรฯ
จากนั้นเวลา 16.55 น. รถยนต์พระที่นั่งเทียบที่ประตูกำแพงแก้วพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ประทับพระราชยานพุดตานทอง เสด็จออกจากเกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ ถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ และทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารคตามโบราณราชประเพณี มีกองทหารแห่นำริ้วขบวนพระราชอิสริยยศออกจากพระบรมมหาราชวังทางประตูวิเศษไชยศรี เลี้ยวขวาเข้าถนนหน้าพระลาน เลี้ยวซ้ายไปตามถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง และเลี้ยวซ้ายถนนตะนาว เลี้ยวขวาถนนบวรนิเวศ เลี้ยวขวาถนนพระสุเมรุ เทียบพระราชยานพุดตานทองที่เกยหน้าวัดบวรนิเวศวิหาร เสด็จเข้าพระอุโบสถ พระราชาคณะและพระสงฆ์ เจริญชัยมงคลคาถา เสด็จฯ ไปถวายต้นไม้ทอง ต้นไม้เงิน ธูปเทียนแพบูชาพระพุทธชินสีห์ พระประธานในพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งถวายสักการะ พระรูปสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์สมเด็จพะรมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ และพระอัฐิสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฒโน) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระราชกรรมวาจาจารย์ ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระสงฆ์ถวายอดิเรก เสด็จออกจากพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร
สักการะพระสรีรางคารวัดราชบพิตรฯ
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับพระราชยานพุดตานทองที่เกยหน้าวัดบวรนิเวศวิหาร ไปยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยาตราริ้วขบวนไปตามถนนพระสุเมรุ เลี้ยวขวาถนนราชดำเนินกลาง เลี้ยวซ้ายถนนอัษฎางค์ เลี้ยวซ้ายถนนบำรุงเมือง เลี้ยวขวาถนนเฟื่องนคร เทียบพระราชยานพุดตานทองที่เกยข้างวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เสด็จฯ ไปทรงถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นชานพระอุโบสถ บรรพชิตจีนและญวนถวายพระพร เสด็จเข้าพระอุโบสถ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระราชาคณะและพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมพระรัศมีทองคำลงยาราชาวดี (ฉัพพรรณรังสี) จากนั้น ทรงอัญเชิญพระรัศมีทองคำลงยาราชาวดี (ฉัพพรรณรังสี) สวมที่พระเศียรพระพุทธอังคีรส ถวายต้นไม้ทอง ต้นไม้เงิน ธูปเทียนแพบูชา พระพุทธอังคีรส พระประธานในพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชสรีรางคารสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7 พระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ถวายสักการะพระอัฐิสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสน์วาสโน) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระราชอุปัธยาจารย์ พระสงฆ์ถวายอดิเรก เสด็จออกจากพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
เสด็จสักการะสรีรางคารร.1
จากนั้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯไปยังเกยข้างวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ประทับพระราชยานพุดตานทอง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยาตราริ้วขบวนไปตามถนนเฟื่องนคร เลี้ยวขวาไปตามถนนเจริญกรุง เทียบพระราชยานพุดตานทองที่เกยหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เสด็จเข้าพระอุโบสถ พระราชาคณะและพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายต้นไม้ทอง ต้นไม้เงิน ธูปเทียนแพบูชาพระพุทธเทวปฏิมากร พระประธานในพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระสงฆ์ถวายอดิเรก เสด็จออกจากพระอุโบสถ เสด็จฯ ไปยังเกยหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ประทับพระราชยานพุดตานทอง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยาตราริ้วขบวนไปตามถนนท้ายวัง เลี้ยวขวาไปตามถนนมหาราช เลี้ยวขวาไปตามถนนหน้าพระลาน เลี้ยวขวาเข้าพระบรมมหาราชวัง ทางประตูวิเศษไชยศรี ประตูพิมานไชยศรี เทียบพระราชยานพุดตาทองที่เกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท เสด็จขึ้น
สมเด็จพระนางเจ้าฯร่วมเสด็จ
ในการนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี ทรงร่วมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ พระดำเนินกระหนาบข้างคู่เคียงพระราชยาน ในฐานะที่ทรงดำรงพระยศเป็นราชองครักษ์ในพระองค์ ขณะเดียวกันที่บริเวณถนนราชดำเนินกลางพระบรมวงศานุวงศ์เฝ้าฯ รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและชื่นชมพระบารมี
เปล่งเสียงทรงพระเจริญกึกก้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง และท้องสนามหลวง รวมถึงหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ ตลอดเส้นทางจนถึงวัดบวรนิเวศวิหาร และวัดราชบพิตรฯ ประชาชนจำนวนมากพร้อมใจสวมเสื้อสีเหลือง มารอเฝ้าฯรับเสด็จฯและชื่นชมพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จเลียบพระนคร โดยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศพยุหยาตราทางสถลมารคเนืองแน่นตลอดเส้นทางเริ่มจากพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท วัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และมายังวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด เมื่อริ้วขบวนเคลื่อนผ่าน ประชาชนต่างเปล่งเสียงถวายพระพร ทรงพระเจริญดังกึกก้อง ในการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยประชาชนที่มานั่งเฝ้าฯรับเสด็จและชื่นชมขบวนเสด็จฯเลียบพระนครรับสั่งให้จัดเสื่อ เบาะรองนั่ง และหญ้าเทียม แก่ประชาชน และตั่งแต่ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ได้นำเสื่อมาปูเพื่อรองรับประชาชนที่จะเดินทางกันมาเป็นจำนวนมากทั้ง 2 ฝากฝั่งถนน