“กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ” พระราชทานพระราโชวาท ในการพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปี 62 แก่ครู 11 ประเทศ “ครูคือมนุษย์ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กนักเรียนที่จะพัฒนาคุณลักษณะของตนเองและสร้างค่านิยมให้เกิดขึ้น ไม่มีเทคโนโลยีใด แทนที่ครูได้”
วันที่ 15 ตุลาคม 2562 เวลา 09.08 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ไปในการพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 3 ปี 2562 และการประชุมวิชาการนานาชาติ รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 2 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และ บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ โดยมี นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายกฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี รองศาสตราจารย์ คุณหญิงสุมณฑา พรหมบญุ รองประธานกรรมการมูลนิธิรางวัล สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี และผู้แทนโรงแรมเซนทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ เฝ้าฯ รับเสด็จสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯไปยังห้อง World Ballroom ชั้น 23 ประทับพระราชอาสน์รองศาสตราจารย์ คุณหญิงสุมณฑา พรหมบญุ รองประธานกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตรนายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กราบบังคมทูล ถวายรายงานถึงที่มาการคัดเลือกครูจากความร่วมมือของ 11 ประเทศ
จากนั้น นายกฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ประกาศ เกียรติคุณผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 3 ปี 2562 และ กราบบังคมทูลเบิกผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เข้ารับพระราชทาน รางวัล จำนวน 11 ราย ประกอบด้วย 1. ประเทศบรูไนดารุสซาลาม 2. ราชอาณาจักรกัมพูชา 3. สาธารณรัฐอินโดนีเซีย 4. สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 5. ประเทศมาเลเซีย 6. สาธารณรัฐแหง่ สหภาพเมียนมา 7.สาธารณรัฐฟิลปิปินส์ 8. สาธารณรัฐสิงคโปร์ 9. สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต 10.สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และ 11.ประเทศไทย
การนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราโชวาท เนื่องในพิธีพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 3 ปี 2562 และพระราชทานพระราชดำรัส ทรงเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติ รางวัล สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 2 ความตอนหนึ่งว่า
“ปี 2562 นี้เป็นปีที่ประเทศไทยได้เป็นประธานอาเซียน ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าความเป็นหุ้นส่วนที่ก้าวหน้าเพื่อความยั่งยืนในประเทศสมาชิอาเซียน รวมทั้งประเทศติมอร์-เลสเต จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ทุกประเทศก้าวไปข้างหน้าเพื่อการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนด้วยกัน ขอให้พวกเราทำงานไปด้วยกันเพื่อส่งเสริมครูให้เป็นแรงกระตุ้นเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ครูคือปัจจัยสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ครูคือมนุษย์ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กนักเรียนที่จะพัฒนาคุณลักษณะของตนเองและสร้างค่านิยมต่างๆ ให้เกิดขึ้น ไม่มีเทคโนโลยีใด ๆ สามารถมาแทนที่ครูได้ด้วยเหตุผลดังกล่าว นั่นคือว่าทำไมครูที่ดีจึงสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตลูกศิษย์ได้ ด้วยการพัฒนาพวกเขาให้เป็นพลเมืองที่ดีและมีความสามารถทั้งในระดับชาติและระดับเป็นพลเมืองของโลกด้วย”
จากนั้น เสด็จฯ ออกจากห้อง World Ballroom ทอดพระเนตรนิทรรศการ ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปี 2562 ทั้ง 11 คน ณ บริเวณโถงหน้าห้อง World Ballroom โดยครูผู้ได้รับพระราชทาน รางวัลฯ ปี 2562 และปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 11 ประเทศ ถวายรายงานและทูลเกล้าฯถวายของที่ระลึก
ต่อจากนั้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงฉายพระรูปร่วมกับครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปี 2562 จำนวน 11 ประเทศ พร้อมด้วยคณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี และประธานคณะกรรมการกิจการของมูลนิธิฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประเทศไทย ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 11 ประเทศ นอกจากนี้ ทรงฉายพระรูปร่วมกับครูรางวัลคุณากร ครูยิ่งคุณ และครูขวัญศิษย์ พร้อมกันนี้ทรงร่วมเสวยพระกระยาหารกลางวัน และพระราชทานเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปี 2562 พร้อมคู่สมรส คณะกรรมการมูลนิธิฯ ประธาน- คณะอนุกรรมการ เอกอัครราชทูต/ผู้แทนประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประเทศไทย ผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศ วิทยากร และปลัดกระทรวง ศึกษาธิการ 11 ประเทศ สมควรแก่เวลา เสด็จพระราชดาเนินกลับ
สำหรับครูผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี 11 ประเทศ ในอาเซียนและติมอร์-เลสเต ปี 2562 ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นครูผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงแก่ชีวิตของลูกศิษย์และมีคุณูปการต่อวงการศึกษา จนได้รับรางวัลพระราชทาน เหรียญรางวัล ประกาศนียบัตร โล่ เข็มเชิดชูเกียรติทองคำ และเงินรางวัล รางวัลละ 10,000 เหรียญสหรัฐ มีประวัติที่น่าสนใจ ดังนี้
1. ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม นางฮาจา นูร์เลีย ฮาจี อัสปาร์ ครูใหญ่โรงเรียน เซลา เรนดา ลัมบัก คานัน จาลัน 49 ผู้บริหารโรงเรียนที่มีความเชี่ยวชาญการบริหารการศึกษาและจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาครูด้านการศึกษาพิเศษ เป็นต้นแบบโรงเรียนแบบเรียนรวม (Model Inclusive School) ศูนย์ดูแลเด็กที่มีความต้องการพิเศษและเด็กปัญญาเลิศ รวมถึงเด็กๆทุกคน อีกทั้งยังเป็นที่ปรึกษาด้านมาตรฐานคุณภาพครู วิทยากรฝึกอบรมครูให้กับกระทรวงศึกษาและสถาบันผลิตครู
2. ราชอาณาจักรกัมพูชา นายลอย วิรัก ครูสอนฟิสิกส์ โรงเรียนมัธยมฮุนเซน โลเลียพา เอีย จังหวัดกัมปงชนังเน้นให้นักเรียนมีประสบการณ์ตรงจากการทดลอง สร้างบทเรียนที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันด้วยสื่อการเรียนรู้ใกล้ตัว กระตุ้นการเรียนรู้นักเรียนเป็นรายบุคคล ทำให้ไม่มีนักเรียนตกซ้ำชั้น ด้วยความมุ่งมั่นว่าการศึกษาที่ดีจะนำไปสู่การให้โอกาสแก่เด็กโดยเฉพาะเด็กยากจน
3. สาธารณรัฐอินโดนีเซีย นายรูดี้ ฮาร์ยาดี้ ครูผู้จัดการเรียนรู้ด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ โรงเรียนมัธยมแบบผสมอาชีวศึกษาที่ 1 จิมาฮิ จังหวัดชวาตะวันตก เน้นการสร้างนวัตกรรมโดยใช้เทคโนโลยีดิจิตัล ด้วยเทคนิคการสอนที่ใส่ใจความสนใจของเด็ก โดยการตั้งคำถามเพื่อหาสิ่งที่เด็กชอบและเชื่อมโยงเนื้อหาในชั้นเรียนให้เข้ากับความสนใจของเด็กเป็นรายบุคคล ผลงานที่โดดเด่นคือ “Peppermint” กระบวนการเรียนการสอนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ที่มาจากคำว่า วางแผน Plan ค้นหา Explore ปฏิบัติ Practice ดำเนินการ Perform สอบถาม Enquiry สะท้อน Reflect จดจำ Memorize และอินเทอร์เน็ต Internet
4.สปป ลาว นายไพสะนิด ปันยาสวัด ครูและหัวหน้าแผนกวิชาภาษาและวรรณกรรมลาว โรงเรียนมัธยมสันติภาพ หลวงพระบาง ผู้ส่งเสริมการสอนเพื่อยกระดับความตระหนักทางวัฒนธรรมลาวและภูมิปัญญาท้องถิ่นหลวงพระบางเพื่อให้เด็กและเยาวชนได้สืบทอดทางวัฒนธรรม พร้อมทั้งพัฒนาเอกสารข้อมูลส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดหลวงพระบาง
5.ประเทศมาเลเซีย นาง เค เอ ราซียาห์ ครูผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาพิเศษ โรงเรียนมัธยมปันจี เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ผู้ดูแลเด็กที่มีความต้องการพิเศษด้วยความรักและความเอาใจใส่ ฝึกฝนทักษะชีวิตเพื่อให้สามารถอยู่ได้ในสังคม สร้างนวัตกรรมการสอน เช่น ชั้นเรียนแต่งหน้า ห้องเรียนสปาเพื่อพัฒนาเด็กพิเศษ พร้อมทั้งถ่ายทอดการสอนแก่ผู้ปกครองเพื่อฝึกปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ ครูจึงช่วยให้เด็กเห็นคุณค่าและดึงพลังในตัวของแต่ละคน หาสิ่งที่เด็กสนใจและมีความสุขที่ได้เรียนรู้ และเป็น 1 ใน 50 ครูผู้รับรางวัลครูดีเด่นโลก “Global Teacher Award” ในปี 2561 คัดเลือกโดย Varkey Foundation ประเทศอังกฤษ
6. สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา นายหม่อง จ๋าย ครูสอนภาษาอังกฤษและเกษตร โรงเรียนมัธยมเจ๊าหมี่ โรงเรียนในพระราชานุเคราะห์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ ครูนักสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกศิษย์ที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ให้เห็นความสำคัญของการศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต จูงใจให้เด็กเรียนหนักโดยใช้เทคนิคการสอนต่าง ๆ ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์การเรียนจากการทดสอบภาษาอังกฤษระดับสุดยอดของเมืองปาเทงกี
7. สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ นายซาดัด บี มินันดัง นักมานุษยวิทยาผู้เปลี่ยนอาชีพตนเองมาเป็นครู โรงเรียนประถมศึกษาอัมมิร๊อล เมืองโคตาบาโต จังหวัดมินดาเนา มีส่วนช่วยพัฒนาโรงเรียนและชุมชน ผู้ริเริ่ม “รถลากเสริมความรู้” รถลากเคลื่อนที่บรรทุกหนังสือเรียนและสื่อการเรียนรู้ไปยังหมู่บ้านเพื่อให้เด็กที่ขาดโอกาสได้รู้หนังสือ ริเริ่มโครงการความศรัทธาในการทำงานร่วมกันเพื่อกระตุ้นจิตสำนึกกรณีการลักลอบหรือล่อลวงเด็กเพื่อสร้างสันติสุขและวินัยในชุมชน
8.สาธารณรัฐสิงคโปร์ นางแอนเจลีน ชาน ซิว เหวิน ครูการศึกษาพิเศษ ผู้มุ่งมั่นไม่ปล่อยให้เด็กพิเศษคนใดตกหล่นหรือออกกลางคัน ผู้ส่งเสริมการเรียนรู้แก่เด็กพิเศษ สอนอ่านและพูดอย่างอดทนจนกว่าจะสามารถพัฒนาความก้าวหน้าได้ตามลำดับ เอาใจใส่ทั้งจิตใจเด็กและสภาพความเป็นอยู่ของลูกศิษย์ และมีบทบาทสำคัญเป็นแกนนำเครือข่ายการพัฒนาครูและผู้ฝึกอบรมการจัดการศึกษาพิเศษให้กับกระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์
9.สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต นางลูร์เดส รันเกล กอนคัลเวส ครูประถม โรงเรียนมาทาทา ฟิเลีย เมืองเอเมรา ผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาการศึกษาโดยร่วมกับครูใหญ่ก่อตั้งโรงเรียนมาทาทา โดยใช้ที่ดินของครอบครัวเพื่อจัดการศึกษาให้กับเด็กในพื้นที่ภูเขาสูง มากว่า 19 ปี นักจัดการเรียนรู้แบบองค์รวมเพื่อให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองผ่านกระบวนการกลุ่มและกิจกรรมกระตุ้นการเรียนรู้ (Active Learning) ร่วมเขียนหลักสูตรภาษาเตตุนระดับประถมศึกษา นับเป็นครูผู้เตรียมอนาคตให้แก่เด็กของติมอร์-เลสเต ซึ่งเด็กทุกคนที่เข้าเรียนโรงเรียนของเธอจะเรียกครูลูร์เดสว่า แม่ หรือ มาม่าลูร์
10. สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นายเลอ ทัน เลียม ครูสอนวิชาฟิสิกส์และเทคโนโลยี โรงเรียนฮิม ลัม ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำสำหรับเด็กชนเผ่ากลุ่มน้อย อำเภอเกาทั่น จังหวัดเฮาเกียง พัฒนานักเรียนโดยฝึกกระบวนการคิดจากชีวิตจริงและช่วยเหลือชุมชนซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยชาวเขมร ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาในห้องเรียน ใช้ชุมชนเป็นแหล่งเรียนรู้ให้เด็กได้ฝึกปฏิบัติ ฝึกสังเกตและแสดงให้เห็นปัญหาในชุมชน
11. ประเทศไทย นายสุเทพ เท่งประกิจ ครูประถมศึกษา โรงเรียนบ้านคลองน้ำใส อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา เป็นครูของชุมชนผู้สร้างโอกาสให้แก่เด็กและคนในชุมชนได้เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ผู้ผูกสัมพันธ์คนไทยและมุสลิมให้เป็นหนึ่งเดียวกันด้วยสันติภาพ จัดตั้ง ‘ศูนย์ข้อมูลการเรียนรู้’ โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ผ่านกิจกรรมที่หลากหลายโดยฝึกให้ลงมือทำเพื่อให้เกิดทักษะในการดำรงชีวิตและยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น