พระราชทานพระราชกระแส
'ในหลวง-ราชินี'
ทรงเสียพระราชหฤทัย
เหตุกราดยิงที่โคราช
ครม.ตั้งกก.เยียวยา
'บิ๊กแดง'ลั่นเอาจริง
เดินหน้าปฏิรูปกองทัพ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีพระราชทานพระราชกระแสแสดงความเสียพระราชหฤทัย เกี่ยวกับเหตุการณ์ร้ายที่ จ.นครราชสีมา และทรงชื่นชมทุกฝ่ายที่มีส่วนคลี่คลายสถานการณ์ แนะคนไทยร่วมมือร่วมใจ “วิษณุ” เผยครม.ไฟเขียวตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเยียวยาเหยื่อกราดยิงตั้งใจให้สูงสุด “บิ๊กแดง”รับเสียงวิจารณ์แถลงทั้งน้ำตา ยอมรับเป็นคนอ่อนไหว เสียใจสูญเสีย“พลทหารเมธา”เดินหน้าเปิดศูนย์ให้กำลังพลร้องเรียน 17 กุมภาพันธ์นี้ยกสุนัขทหาร รู้บุญคุณ-มีมารยาท-ไม่เห่าพร่ำเพรื่อ
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เพจสำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ ได้เผยแพร่ พระราชทานกระแสแสดงความเสียพระราชหฤทัย เกี่ยวกับเหตุการณ์ร้ายแรงที่จังหวัดนครราชสีมาของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ความว่า
ข้าพเจ้าและพระราชินีรู้สึกเศร้าสลดใจอย่างยิ่ง ที่ได้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นในประเทศของเรา ที่จังหวัดนครราชสีมา นับแต่บ่ายวันเสารที่ 8 กุมภาพันธ์ ต่อเนื่องถึงเช้าวันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 อันทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมากได้รับอันตราย ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต
ความสูญเสียในครั้ง ได้สร้างความสะเทือนใจอย่างใหญ่หลวงให้แก่ข้าพเจ้าและพระราชินี ด้วยเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ทั้งเป็นเหตุรุนแรงที่เกิดจากการกระทำอันโหดร้ายเกินกว่าผู้ใดจะคาดคิด ต่อชาวไทยด้วยกันอันเป็นทั้งเพื่อนมนุษย์และเพื่อนร่วมชาติ
ข้าพเจ้าและพระราชินีขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้ที่ต้องประสบความสูญเสีย และเห็นใจ ชื่นชมผู้ตกอยู่ในเหตุการณ์ ที่ต่างมีความอดทนเข้มแข็ง ตลอดจนช่วยเหลือและเกื้อกูลกันในยามคับขัน จนสามารถรอดพ้นอันตรายได้ ทั้งขอยกย่องผู้มีส่วนคลี่คลายสถานการณ์ครั้งนี้ทุกคนทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร คณะกรรมการจังหวัดและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง แพทย์ พยาบาล อาสาสมัคร มูลนิธิ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ซึ่งนอกจากจะต้องมีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวและเสียสละชีวิตอุทิศตนอย่างสูงแล้ว ยังได้แสดงถึงความสันทัดช่ำชองในการปฏิบัติหน้าที่และการให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อชีวิตความปลอดภัยของผู้ที่ตกอยู่ในอันตราย
ความร่วมมือร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกันของทุกคนทุกฝ่าย รวมทั้งประชาชนทุกคนที่ได้ให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อทางการและเจ้าหน้าที่ ตลอดจนให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะกระทำได้ต่อผู้ที่บาดเจ็บและได้รับอันตราย ได้แสดงให้เห็นเป็นประจักษ์ถึงความรักความห่วงใยที่มีต่อเพื่อนมนุษย์และเพื่อนร่วมชาติ พร้อมทั้งพลังความสามัคคี ซึ่งเป็นคุณธรรมอันสูงส่ง ข้าพเจ้าและพระราชินีเชื่อมั่นว่า เราชาวไทยทุกคนสามารถผ่านพ้นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงครั้งนี้ไปได้ ด้วยความมีสติ มีปัญญา และสามัคคี ตลอดจนด้วยความเสียสละเพื่อความผาสุก สงบ เรียบร้อยของส่วนรวมและประเทศชาติ
ครม.ตั้งคกก.เฉพาะกิจเยียวยาเหยื่อ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุกราดยิงที่ห้างเทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้มีมติให้ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมาใหม่ พิจารณาเฉพาะกรณีที่โคราช โดยมีตนเป็นประธาน และ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานฯ ซึ่งการพิจารณาให้ความช่วยเหลือเยียวยา จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ ในส่วนของตำรวจ ทหาร พลเรือนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ และในส่วนของราษฎรที่ประสบเหตุ
ตั้งใจจะให้สูงสุดเท่าที่จะให้ได้
นายวิษณุกล่าวว่าการช่วยเหลือนั้นมีอยู่ กฎหมายมีอยู่แล้ว อย่างน้อยก็ 2 ฉบับคือ 1.กฎหมายเกี่ยวกับสงเคราะห์ผู้ประสบภัย ของกระทรวงการคลัง แต่ก็ให้ไม่มาก และ2. กฎหมายที่เกี่ยวกับผู้เสียหายของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งให้ได้ไม่มากเช่นกัน แต่เมื่อเอาสองส่วนนี้มารวมกัน ก็จะมากหน่อย นอกจากนี้ ยังมีระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยหรือ สาธารณะภัย ซึ่งครอบคลุมกรณีเหตุที่เกิดขึ้นนี้ด้วย และยังมีระเบียบของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อย่างไรก็ตามหากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ก็จะมีต่างหาก ทั้งตำรวจ ทหาร เช่น กรณีเสียชีวิต จะรับเงิน 7 เท่าของเงินเดือน และได้รับการเลื่อนยศ รวมถึงรับบุตรคนหนึ่งของผู้เสียชีวิตเข้าทำงานในหน่วยงานนั้นโดยไม่มีเงื่อนไข
เมื่อถามว่า ครั้งนี้เท่าที่มีการพิจารณาจะได้สูงสุดต่อรายจำนวนเท่าไร นายวิษณุ กล่าวว่า ครั้งนี้เราตั้งใจจะให้สูงสุดเท่าที่สามารถให้ได้ตามระเบียบ โดยนำเงินทุกก้อนมารวมกัน แต่ไม่นับรวมของหน่วยงานหรือองค์กรอื่นๆ เช่น ธนาคารกรุงไทย ที่จะช่วยผู้ได้รับผลกระทบที่เป็นลูกค้าธนาคาร หรือบริษัทประกันชีวิตเอไอเอ ที่ให้ลูกค้าที่ทำประกันไว้ เป็นต้น
“บิ๊กแดง”ชี้ถือเป็นบทเรียนประเทศ
ด้าน พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสภายหลังแถลงข่าวรายละเอียดเหตุการณ์กราดยิงที่ห้างสรรพสินค้าเทอมินัล21จ.นครรราชสีมาว่า ถือว่าดี และคิดว่าสื่อมีความเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ข้าราชการทหาร ตำรวจให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ถือเป็นบทเรียนทั้งประเทศ และเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในโลก ในส่วนของกองทัพบกก็แสดงความเสียใจ และความรับผิดชอบไปแล้ว แต่ในสื่อออนไลน์ก็ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ก็เป็นเรื่องปกติ และเราก็ทำใจมานานแล้ว เพราะห้ามไม่ได้
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เดินทางไปร่วมพิธีศพ อีกทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้พระราชทานพวงรีด และพระราชทานสวดอภิธรรมศพ รวมถึงพระราชทานเพลิงศพให้กับผู้เสียชีวิต ในส่วนของตนก็จะเดินทางไปร่วมงานศพของตำรวจที่เสียชีวิตที่วัดตรีทศเทพด้วย ขณะที่ส่วนอื่นเป็นเรื่องภายในที่กองทัพบกต้องแก้ไข หลังจากได้ชี้แจงไปแล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้น แต่ทุกคนก็ต้องพร้อมรับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป
เปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียน17ก.พ.
พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่าในวันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์นี้จะพยายามเปิดศูนย์คอลเซ็นเตอร์ให้ได้ โดยได้สั่งการให้ไปหาระบบมา และควบคุมโดยสำนักงานผู้บัญชาการทหารบก โดยจะจัดเจ้าหน้าที่ทำงานตามวันเวลาราชการ 08.00 น.-16.30 น. ส่วนนอกเวลาราชการจะเป็นระบบตอบรับอัตโนมัติเพื่อบันทึกเป็นข้อมูลไว้ แต่รับรองว่ามีเจ้าหน้าที่มอนิเตอร์อยู่แน่นอน ยืนยันว่าสิ่งที่กำลังพลทุกนายถูกเอาเปรียบต้องมีการรายงาน ยศ ชื่อ ตำแหน่ง และสังกัด รวมถึงหมายเลขประจำตัว รับรองว่าทุกอย่างจะเป็นความลับ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี แต่ถ้าโกหกต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ถือว่าเป็นการให้ข้อมูลเท็จ
เตรียมทำเอ็มโอยูกับคลัง
เมื่อถามถึงกรณีการลงนามกับกระทรวงการคลังในเรื่องทรัพย์สินราชพัสดุกับกระทรวงการคลัง พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ในส่วนของขั้นตอนจะนำเรื่องที่เป็นสวัสดิการดั้งเดิมของกองทัพบก เช่น สนามกอล์ฟ โรงแรม และสนามมวย ไปหารือกับกระทรวงการคลัง ซึ่งขณะนี้ได้ข้อยุติแล้วว่าจะเริ่มดำเนินการที่ใดบ้าง เพราะต้องเริ่มเป็นเฟส หรือระยะ โดยเฟสที่1 เริ่มต้นที่โรงแรมสวนสนประดิพัทธ์ สนามกอล์ฟ และสนามมวย โดยจะมีการบันทึกเอ็มโอยูกับกระทรวงการคลังเพื่อใช้สวัสดิการเชิงพาณิชย์และเป็นไปตามกฎหมาย หมายความว่าได้รับที่ไหนมาก็ต้องแบ่งให้กระทรวงการคลัง จากนั้นกระทรวงการคลังก็จะพิจารณาสัดส่วนคืนให้เป็นสวัสดิการของกองทัพบก ซึ่งก็จะทำไปเข้ากองทุนสวัสดิการต่อไป การบริหารจัดการทั้งหมดจะให้เอกชนเข้ามาดำเนินการมากกว่าจะใช้ทหาร เพราะมีความเป็นมืออาชีพ
ครอบครัวต้องปิดโซเชียลมีเดีย
เมื่อถามว่ามองภาพรวมผลตอบกลับจากการแถลงข่าวอย่างไร พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่าตนไม่มีอินสตาแกรมและเฟซบุ้ค ได้รับแต่ข้อความจากโทรศัพท์มือถือ ในส่วนของภริยาและบุตรก็ต้องปิดโซเชียลมีเดียไปเลยเป็นผลกระทบจากตนที่ทำให้บุคคลใกล้ชิด ครอบครัวได้รับผลกระทบด้วยก็เป็นเรื่องธรรมดาซึ่งตนมองว่าวิกฤตินี้ไม่ควรลืมไปง่ายๆเราควรหันมารักใคร่กลมเกลียวสามัคคีกัน หันหน้าเข้าหากัน มองผลประโยชน์ของประเทศชาติและความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก อย่างมุ่งแต่คนนั้นดี คนนั้นเก่งคนโน่นไม่ดีสิ่งไม่ดีก็ช่วยกันแนะนำแก้ไขตอนนี้มีกำลังใจดีเมื่อวานได้ผ่อนคลายในสิ่งที่ตนเองรู้สึกตั้งแต่วันเกิดเหตุและได้แสดงความรับผิดชอบ ตนพูดจากใจ อาจจะมีคนไปตีว่าเป็นemotionalบ้าง อะไรบ้างแต่ทุกอย่างมาจากใจ
“ผมเป็นคนมีอารมณ์อ่อนไหวกับเรื่องที่ละเอียดอ่อน เพราะสิ่งที่เสียใจที่สุดคือการสูญเสียผู้ปฏิบัติหน้าที่โดยเฉพาะพลทหารเมธา เลิศศิริที่ไม่มีใครกล่าวถึงว่าเขาเสียชีวิตระหว่างยืนยามรักษาการณ์แต่ไปมองว่ากองทัพหละหลวม ผมถามว่าถ้าหละหลวมจะมียืนยามรักษาการณ์อยู่ไหม เพราะคนที่เห็นหน้ากันทุกวันใครจะรู้ว่าจะเดินเข้ามาแล้วเอาปืนมายิง คนทำงานด้วยกันเห็นหน้ากันทุกวันใครจะไปรู้ ใครจะไปเฉลียวใจ” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว
ยกสุนัขรู้บุญคุณ-ไม่เห่าพร่ำเพรื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากพล.อ.อภิรัชต์ได้พบกับสุนัขทหารพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดชื่อ“ซีบร้า”อายุ3ปี จากหมวดสุนัขทหารกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ก่อนเข้าร่วมทดสอบร่างกายประจำปีงบประมาณ2563นั้น ภายหลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบร่างกาย พล.อ.อภิรัชต์ได้ขึ้นไปยังห้องทำงานและเขียนข้อความเป็นบทความสั้นๆ แสดงความรู้สึกส่งต่อให้คนใกล้ชิดและสื่อมวลชนได้อ่าน หลังจากถูกกระแสโซเชียลมีเดียแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก สืบเนื่องจากกรณีที่ร้องไห้ระหว่างแถลงรายละเอียดเหตุการณ์กราดยิงโคราช
พล.อ.อภิรัชต์ระบุว่า“สุนัขทหารยังรู้จักสำนึกบุญคุณกองทัพบก รู้สึกรัก และหวงแหน มีความรับผิดชอบในสิ่งที่ถูกฝึกมาให้ปฏิบัติหน้าที่ เช่น ตรวจหาวัตถุระเบิด ค้นหายาเสพติด เฝ้าสถานที่สำคัญ หรือปกป้องเจ้านาย เขาจะดุจะเห่าคนแปลกหน้า หรือหากพบสิ่งผิดสังเกต เพื่อนๆ ของซีบร้าเคยเสียชีวิต จากการปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ และซีบร้า เขาก็รู้ว่าผมคือผู้บังคับบัญชาเขา ถึงแม้เราจะพบกันเป็นครั้งแรก ซีบร้าเขาไม่เห่าพร่ำเพรื่อ มีมารยาท และมีความรับรู้ ถึงความรู้สึกของมนุษย์ เช่น ทหารที่เลี้ยงดูเขาเป็นอย่างดี ถ้าเจ้าซีบร้า สุนัขทหารตัวนี้พิมพ์ทวิตเตอร์เป็น เล่นเฟซบุ๊ก เล่นไอจีได้คงสนุกแน่ ถ้าเจ้าซีบร้าอ่านหนังสือออก มันคงมองเห็นพวกที่โพสต์ข้อความที่สร้างให้เกิดความเกลียดชังกันในระหว่างเพื่อนมนุษย์ โพสต์ข้อความชังชาติ และเจ้าซีบร้าก็คงอยากเป็นซีบร้าเหมือนเดิม คงกลัวที่จะกลายเป็นมนุษย์พวกนั้น”
แจงเหตุไม่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ตอบกระทู้ถามสดถึงเหตุกราดยิงที่โคราชว่าเหตุใดรัฐบาลไม่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อระงับความรุนแรงที่เกิดขึ้น และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ รวมทั้งความบกพร่องในการดูแลอาวุธที่มีความหละหลวม โดยชี้แจงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานสถานการณ์เหตุการณ์ตลอด และหารือหลายฝ่ายว่าควรประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือไม่ และเตรียมกำลังสำหรับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่หากประกาศออกมาอาจทำให้สถานการณ์บานปลาย ขยายวงกว้าง อีกทั้ง ผบ.ตร.สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ การดำเนินการของเจ้าหน้าที่มีการวางแผนให้ประชาชนปลอดภัยมากที่สุด ส่วนการรักษาอาวุธนั้น ผู้ก่อเหตุเป็นกำลังพล เป็นผู้บังคับกองรักษาการย่อมรู้ดีว่า แต่ละหน่วยมีอาวุธและกระสุนอยู่ตรงไหน ใครเป็นผู้เฝ้าเวรยาม ประกอบกับมีทักษะการใช้อาวุธ ทั้งนี้กระทรวงกลาโหมจะเพิ่มมาตรการดูแลรักษาอาวุธมากขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นบทเรียนนำไปสู่การสร้างการเรียนรู้เพื่อหาทางป้องกันปัญหาต่อไป
นัดแถลงกลับมาเปิดเทอร์มินอล21
ขณะที่ ศูนย์การค้า เทอร์มินอล21 โคราช ได้เชิญชวนชาวโคราช พร้อมสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน ทำบุญตักบาตรและแถลงความพร้อมในการกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งของเทอร์มินอล21 โคราช ในวันพฤหัสบดีที่ 13กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 8.00–12.00 น. โดยจะมีการทำบุญตักบาตร ที่ชั้น G ไอเฟล สแควร์ และแถลงข่าว ความพร้อมในการกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งของศูนย์การค้า เทอร์มินอล21โคราช ที่Terminal Hall 2 ชั้น 4