นับเป็นความปีติยินดียิ่งของปวงชนชาวไทย เมื่อ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะทรงราชย์และเฉลิมพระปรมาภิไธย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกอบการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตามพระราชประเพณี ในห้วงเวลาวันที่ 4-6 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 เพื่อความเป็นสวัสดิมงคลของประเทศชาติและราชอาณาจักร ถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของแผ่นดินไทย เนื่องจากเป็นพระราชพิธีสำคัญเพื่อการเสด็จขึ้นครองราชย์โดยสมบูรณ์ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 10 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ พร้อมทั้งทรงมีพระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระประมุข เป็นศูนย์รวมใจไทยทั้งชาติ ทรงเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท สมเด็จพระบรมราชบุพการีทั้งสองพระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ได้ทรงกระทำบำเพ็ญมาแล้วอย่างบริสุทธิ์บริบูรณ์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพระราชกรณียกิจอย่างต่อเนื่องในการพระราชพิธีสำคัญต่างๆ ตลอดจนการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ราษฎรของพระองค์ ทรงน้อมนำแนวพระราชดำริและพระราชปณิธานของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มาทรงปฏิบัติ ทรงแสดงความมุ่งมั่นพระราชหฤทัยที่จะทรง “สืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” ตามแนวพระราชดำริในสมเด็จพระบรมชนกนาถ ให้เป็นที่ประจักษ์แก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด ทั้งด้วยพระราชดำรัส พระบรมราโชบายแนวพระราชดำริ ตลอดจนพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ทั้งปวง
สืบสาน คือทรงนำองค์ความรู้ของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาสืบสานในการทรงงาน รักษา คือพระราชทานพระราชดำริแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลรักษาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้เกิดความยั่งยืน ต่อยอด คือสานต่อโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรให้สัมฤทธิผลตามพระราชประสงค์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี ทรงใส่พระราชหฤทัยในสุขทุกข์ของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ทรงรับเป็นพระราชภารกิจสำคัญที่จะดูแลประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบากเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือไวรัสโควิด-19 ซึ่งเริ่มรุนแรงขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 นั้นทั้งสองพระองค์ได้พระราชทาน พระมหากรุณาธิคุณและพระราชทานความช่วยเหลือในทุกด้านมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลต่างๆ รถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย ห้องผ่าตัดแรงดันลบที่ใช้แยกผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ออกจากผู้ป่วยรายอื่นในโรงพยาบาล ห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) ภายใต้ “โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน” โดยทรงได้พระราชทานพระราชทรัพย์ให้เอสซีจีดำเนินการก่อสร้างให้20 โรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อเสริมความพร้อมหากมีสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ รวมถึงถุงยังชีพหน้ากากอนามัย และสิ่งของอื่นๆ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดหาและพระราชทานไปยังโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ และชุมชนแออัด ซึ่งประชาชนทุกหมู่เหล่าต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมเป็นล้นพ้น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี ได้เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือไวรัสโควิด-19 และมาตรการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล พร้อมทั้งรับพระราชทานพระบรมราโชบายเพื่อเป็นแนวทางในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยทรงตรัสว่า “โรคระบาดไม่ใช่ความผิดของใคร และรัฐบาลมีหน้าที่ที่จะดูแลแก้ไขให้ดีที่สุดด้วยความเข้าใจ มีระบบบริหารจัดการ และแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ในเวลาเดียวกันก็ต้องให้ประชาชนได้เข้าใจถึงวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง และเหตุผลที่จะต้องปฏิบัติ”
นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี ได้เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ไปทอดพระเนตรโครงการพระราชทานความช่วยเหลือประชาชน ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ณ กรมทหารรักษาวังมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ทอดพระเนตรการทำถุงผ้าพระราชทานสำหรับบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคพระราชทานแก่ราษฎร การผลิตเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ นอกจากนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี ทรงเย็บหน้ากากผ้าสำหรับเป็นตัวอย่างให้กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์นำไปผลิตเพื่อพระราชทานแก่ข้าราชบริพารและราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งโปรดเกล้าฯ พระราชทานหน้ากากฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ให้กับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจขณะปฏิบัติหน้าที่เพื่อคลี่คลายสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์ พระบรมราโชบาย “สืบสาน รักษา และต่อยอด” ปรากฏให้เห็นคือ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในด้านการพัฒนาแหล่งน้ำที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานความช่วยเหลือ เช่น โครงการก่อสร้างฝายบ้านเขาแดงพัฒนาฯ อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำชี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอบ้านเขว้า-หนองบังละเหว จังหวัดชัยภูมิ และโครงการอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลแก่งดินสอ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดโครงการ ท่ามกลางประชาชนที่เดินทางมาเฝ้าฯรับเสด็จ อย่างเนืองแน่น เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พุทธศักราช 2560 เดิมคือโครงการพัฒนาแหล่งน้ำห้วยโสมงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริให้จัดสร้างขึ้นตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2521 เพื่อเป็นแหล่งเก็บกักน้ำ ก่อสร้างเป็นเขื่อนดินความสูง กว่า 32 เมตร ความยาวกว่า 3,967 เมตร นอกจากจะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้งแล้ว ยังช่วยรักษาระบบนิเวศ ผลักดันน้ำเค็ม น้ำเน่าเสียในแม่น้ำปราจีนบุรีและแม่น้ำบางปะกง ซึ่งที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายให้กับพืชผลทางการเกษตรและระบบน้ำประปาในช่วงฤดูแล้งเป็นประจำเกือบทุกปี ที่สำคัญอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นแนวกันชนป้องกันการบุกรุกทำลายป่าไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติทับลานและอุทยานแห่งชาติปางสีดา รวมทั้งเป็นแหล่งน้ำที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในพื้นที่ป่าไม้อีกด้วย
โครงการจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดโครงการหน่วยพระราชทานและประชาชนจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานชื่อของจิตอาสาและภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์จิตอาสาพระราชทาน เพื่อพระราชทานกำลังใจแก่ประชาชนทุกคนที่มีจิตอันเป็นกุศลในการทำความดีเพื่อส่วนรวมและประเทศชาติ โดยเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พุทธศักราช 2562 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานชื่อของจิตอาสาและภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์จิตอาสาใหม่ เพื่อทดแทนชื่อของจิตอาสาและภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์จิตอาสาที่ได้พระราชทานไว้แต่เดิม เพื่อเชิญไปใช้ในกิจกรรมต่างๆอันเกี่ยวเนื่องกับจิตอาสาพระราชทาน โดยพระราชทานชื่อจิตอาสาว่า “จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร.” และให้ใช้ชื่อและภาพการ์ตูนจิตอาสาใหม่ในกิจกรรมอันเกี่ยวเนื่องกับจิตอาสาพระราชทานและในการจัดทำสิ่งของพระราชทานที่เกี่ยวข้องต่างๆ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงคำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนเป็นสำคัญและทรงมีพระราชปณิธานแน่วแน่ที่จะทำให้ประเทศชาติมั่นคงและประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยมีพระราชประสงค์ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและแนวพระราชดำริต่างๆ ในการบำบัดทุกข์และบำรุงสุขให้ประชาชนและพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า และเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2560 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยราชการในพระองค์ร่วมกับหน่วยราชการต่างๆ และประชาชนทุกหมู่เหล่าที่มีจิตอาสาร่วมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วมในเขตชุมชน ปัญหาการจราจร และอื่นๆ เพื่อสืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงห่วงใยปัญหาน้ำท่วมและปัญหาการจราจรในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ อาทิ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดโครงการจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ในขณะนั้นระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม-วันที่ 3 สิงหาคม พุทธศักราช 2560 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อออกปฏิบัติงานสาธารณประโยชน์ เช่น การดำเนินการเก็บผักตบชวา วัชพืช ขยะมูลฝอย สิ่งกีดขวางทางน้ำ และขุดลอกคูคลองระบายน้ำ รวมทั้งทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ วัด และ ตลาดชุมชน เพื่อเป็นแบบอย่างในการพัฒนาสภาพแวดล้อมในชุมชน และขยายไปสู่จังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ อีกทั้ง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานภาพวีดิทัศน์สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติมหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร (ขณะทรงดำรงพระอิสริยยศ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ) ทรงร่วมกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะกิจกรรมด้านกีฬาและกิจกรรมจิตอาสา เพื่อเป็นแบบอย่างแก่เยาวชนด้านการออกกำลังกายและการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวม เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ประจำปีพุทธศักราช 2561 ทั้งนี้ ได้จัดให้มีการลงทะเบียนจิตอาสาจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ ณ อาคารรับรองพระราชวังดุสิต อาคาร 606 สำนักพระราชวัง โดยประชาชนจิตอาสาที่เข้าร่วมกิจกรรมนั้นต่างได้รับสิ่งของพระราชทาน ได้แก่ หมวก ผ้าพันคอและสมุดบันทึกความดี เพื่อเป็นกำลังใจให้ทำความดีต่อไป
กิจกรรม “อุ่นไอรัก คลายความหนาวสายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” จากพระราชปณิธานที่หมายมั่นของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะทรง “สืบสาน รักษา และต่อยอด” พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ที่จะทรงบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับอาณาประชาราษฎร์ให้อยู่รอดปลอดภัยจากภยันตรายนานัปการมีผืนแผ่นดินให้ประชาราษฎร์ได้อยู่อาศัย ประกอบสัมมาอาชีวะอย่างสุจริต และดำเนินวิถีชีวิตอย่างมีความสุข จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยราชการในพระองค์ฯหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน จัดงานฤดูหนาวพระราชทานความสุขความรื่นเริงให้กับประชาชน ภายใต้ชื่องานว่า “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า ระหว่างวันที่ 8 กุมภาพันธ์-วันที่ 11 มีนาคม พุทธศักราช 2561 เป็นครั้งแรก เพื่อเผยแพร่ความรู้ความงดงามของความเป็นไทย ช่วยกันอนุรักษ์ฟื้นฟูและเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมประเพณีไทย ตลอดจนให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการทำบุญและสานต่อบุญไปยังผู้ประสบภัยด้านต่างๆ และปีถัดมาเป็นครั้งที่ 2 ภายใต้ชื่องานว่า “อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม พุทธศักราช 2561 ถึงวันที่ 19 มกราคม พุทธศักราช 2562 ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า โดย พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงานในวันที่ 9 ธันวาคม พุทธศักราช 2561 หลังจากนั้นเวลา 16.00 น. ทรงปั่นจักรยานนำประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรม “ปั่นจักรยาน Bike อุ่นไอรัก” ผ่านตามเส้นทางประวัติศาสตร์ คลองที่สำคัญ เริ่มจากพระลานพระราชวังดุสิตถึงสวนสุขภาพคลองลัดโพธิ์จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นจุดที่เป็นโครงการประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีประชาชนรอเฝ้าฯรับเสด็จ และชื่นชมพระบารมีตลอดเส้นทางทรงปั่นอย่างเนืองแน่น
ภายในงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาวสายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ได้จัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์ที่ให้ความรู้ แสดงความผูกพัน ความรัก ความเทิดทูนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ถึงสมัยรัชกาลปัจจุบันกับประชาชน ที่มาของลำน้ำคูคลองสายต่างๆ วัฒนธรรมประเพณีที่งดงามแห่งสายน้ำ เช่น ขบวนเรือพระราชพิธี งานประดิษฐ์ไทยและอาหารชาววัง บันทึกภาพกับภาพสามมิติแห่งความทรงจำ ร่วมกิจกรรมเสริมสร้างความรู้และส่งเสริมความรักความสามัคคีในครอบครัว การจัดจำหน่ายสินค้าจากร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์และร้านค้ารับเชิญ อิ่มอร่อยกับอาหารในตลาดบกตลาดน้ำ ตลาดเดินชิมริมทาง ประชาชนที่มาร่วมงานนอกจากจะได้รับความสุข สนุกสนานแล้ว ยังได้รับชมการแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทุกวัน ทั่วทุกภูมิภาคทั้งยังได้ร่วมทำบุญลุ้นรับรางวัลมัจฉาพาโชค สลากการกุศล รายได้จากการจัดงานทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่าย นำไปช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อไป
กิจกรรมสวดมนต์ในพิธีมหามงคล บำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย และกิจกรรมพิธีสวดพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย ณ พระลานพระราชวังดุสิต ในการนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้อัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญมาประดิษฐานเป็นพระประธานในพิธี เพื่อให้ประชาชนได้สักการะอันจะเป็นมงคลแก่ชีวิตประเทศชาติ และสืบสานพระราชปณิธาน “ธรรมราชินี” ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพิมพ์หนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์ขึ้นใหม่ จากเดิมมีบทสวดมนต์ 28 บท ทรงให้เพิ่มเติมบทสวดมนต์อีกจำนวน 9 บท รวมเป็น 37 บท โดยพระราชทานภาพวาดฝีพระหัตถ์พิมพ์บนปกหนังสือเจริญพระพุทธมนต์ดังกล่าวเพื่อพระราชทานแก่ผู้มาร่วมพิธี กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร รวมทั้งหน่วยงานต่างๆนำไปมอบให้แก่ประชาชน นักเรียน นักศึกษา อย่างทั่วถึง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี ทรงให้ความสำคัญกับสุขภาพอนามัยและโภชนาการของผู้สูงอายุ เด็ก และเยาวชน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยราชการในพระองค์ เชิญอาหารพระราชทานไปพระราชทานเลี้ยงแก่ผู้สูงอายุเด็ก และเยาวชน เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันคล้ายวันพระราชสมภพและวันคล้ายวันประสูติของพระบรมวงศานุวงศ์มาโดยตลอด ด้วยมีพระราชประสงค์ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่พสกนิกร รวมถึงผู้สูงอายุในสถานสงเคราะห์เหล่านี้ให้ได้รับประทานอาหารที่ดี มีคุณค่าทางโภชนาการ เหมาะสมตามวัย เพื่อให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีจิตใจที่แจ่มใส สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
นับเป็นบุญของแผ่นดินไทยที่มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงเปี่ยมด้วยพระมหากรุณาธิคุณและทรงอุทิศพระองค์เพื่ออาณาประชาราษฎร์ ด้วยพระราชประสงค์ที่จะทรงสืบสาน รักษาและต่อยอด พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ดังพระปฐมบรมราชโองการ “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”