"ในหลวง-พระราชินี"เสด็จฯ วางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9 ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ และทรงปลูกต้นรวงผึ้งเป็นปฐมฤกษ์ ประชาชนเฝ้ารับเสด็จเนืองแน่น พร้อมร่วมปลูกต้นไม้ 104 ต้น ในอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ
เมื่อเวลา 16.34 น.วันที่ 5 ธันวาคม 2564 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี โดยเสด็จในการนี้ด้วย
เมื่อเสด็จฯ ถึงอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ร.9 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงกราบ ทรงศีล สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถวายศีล จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังมณฑลพิธีวางศิลาฤกษ์ฯ ทรงจุดเทียนทอง เทียนเงิน และธูป แล้วทรงจุดธูปหางปักที่เครื่องบวงสรวงสังเวย โหรหลวงลั่นฆ้องชัย พราหมณ์เป่าสังข์ พนักงานภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ชาวพนักงานประโคมแตร ดุริยางค์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตั้งพระราชสัตยาธิษฐานถวายเครื่องราชสักการะ ทรงโปรยข้าวตอก ดอกไม้ ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวงสังเวย แล้วทรงพระดำเนินไปยังแท่นวางศิลาฤกษ์ฯ ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมแผ่นอิฐทอง นาก เงิน และแผ่นศิลาฤกษ์ แล้วทรงวางลงในหลุมศิลาฤกษ์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์
เสร็จแล้ว เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายสมเด็จพระสังฆราช และพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ ต่อจากนั้น เสด็จออกจากพลับพลาพิธี ไปทอดพระเนตรนิทรรศการอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ จัดแสดงผังแม่บทโครงการ แนวคิดหลักการออกแบบโครงการ การจัดเส้นทางการสัญจรในโครงการ และทัศนียภาพในโครงการ
เสร็จแล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังบริเวณที่ทรงปลูกต้นไม้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปลูกต้นรวงผึ้งเป็นปฐมฤกษ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงปลูกต้นคำมอกหลวง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงปลูกต้นโมกหลวง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงปลูกต้นรัตนพฤกษ์ (คูณสายรุ้ง) เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ปลูกต้นสุพรรณิการ์ เสร็จแล้ว ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระบรมมหาราชวัง
อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ร.9 เกิดขึ้นจากพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงตั้งพระราชหฤทัยเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้เป็นแหล่งเรียนรู้แนวพระราชดำริของทั้งสองพระองค์ ผ่านองค์ความรู้ เรื่อง "ป่าและน้ำ" ซึ่งเป็นแนวคิดหลักในการออกแบบสวน และเป็นสถานที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ได้พระราชทานไว้ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของมนุษย์กับธรรมชาติ เสริมสร้างคุณภาพชีวิตทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เป็นสถานที่ศึกษาเรื่องสิ่งแวดล้อมเพื่อเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป
อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ สร้างบนพื้นที่อดีต "สนามม้านางเลิ้ง" เป็นที่ดินในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานให้เป็นสวนสาธารณะเพื่อประโยชน์สุขแก่ปวงชน ครอบคลุมพื้นที่ 279 ไร่ โดยเริ่มพัฒนาแบบตั้งแต่พุทธศักราช 2561 คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในพุทธศักราช 2567 อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ แห่งนี้ เป็นที่ตั้งของพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งเป็นหัวใจและศูนย์กลางของอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ มีแนวคิดการออกแบบที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อาทิ สระน้ำรูปเลข ๙ และสวนป่าธรรมชาติ ที่สอดรับกับแนวคิดเรื่องป่าและน้ำ สะพานหมายเลข ๙ เป็นเส้นทางเดินภายในนำสู่พระบรมราชานุสาวรีย์ ฯ สะพานหยดน้ำพระทัย น้ำพระราชหฤทัยดั่งสายน้ำที่หล่อเลี้ยงคนไทยมาตลอด 70 ปี สะพานไม้เจาะบากง จำลองสะพานไม้จากบ้านเจาะบากง อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เคยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงงานเมื่อพุทธศักราช 2524 และแก้มลิง พื้นที่รองรับน้ำในยามที่เกิดวิกฤตอุทกภัย บริเวณของอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ร.9 ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ กว่า 4,500 ต้น จัดวางคล้ายคลึงป่าธรรมชาติ ปลูกไม้ที่มีความหมายและมีประโยชน์ อาทิ การปลูกพืชกรองฝุ่น การปลูกไม้โตเร็ว เพื่อสร้างร่มเงา ต้นไม้ประจำจังหวัด ไม้หายาก และพืชบำบัดน้ำ สร้างระบบนิเวศ ที่สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน นอกจากจะให้ความรู้หลากมิติที่เข้าถึงได้ง่าย ผู้คนยังได้รับความสุขจากธรรมชาติ
ภายในสวนยังมีเส้นทางเดินและวิ่ง ทางปั่นจักรยาน มีสนามออกกำลังกายกลางแจ้ง ลานกิจกรรมและนันทนาการ ลานริมน้ำ ร้านค้าจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ลานจอดรถ และส่วนอำนวยความสะดวก มีการใช้พลังงานทดแทน รวมถึงการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาบริหารจัดการเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน
ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในครั้งนี้ มีราษฎรจำนวนมากมารอเฝ้าฯรับเสด็จด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ภายในบริเวณพื้นที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ และตลอดสองฝั่งถนนที่เสด็จพระราชดำเนินผ่าน โดยราษฎรต่างพร้อมใจกัน โบกธงชาติ โบกธงพระปรมาภิไธย "ว.ป.ร." และธงพระนามาภิไธย "ส.ท." พร้อมเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" อย่างกึกก้องด้วยความจงรักภักดี ต่างปลื้มปีติที่ได้ชมพระบารมี
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงโบกพระหัตถ์ และแย้มพระสรวลให้แก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ทั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ กองแพทย์หลวง สำนักพระราชวัง ร่วมกับโรงพยาบาลและหน่วยสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร ออกให้บริการด้านสาธารณสุข ดูแลรักษาพยาบาลเบื้องต้นแก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ กับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทาน เจลแอลกอฮอล์กับพิมเสนน้ำ และให้ตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกใหม่ ถูกสุขอนามัยพระราชทานเลี้ยงแก่ราษฎรที่มาเฝ้าฯรับเสด็จ ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการ เอกชน และประชาชนที่เข้าร่วมในพิธีฯ ได้ร่วมมือช่วยกันปลูกต้นไม้เพิ่มเติม อีกจำนวน 104 ต้น 50 พันธุ์กล้าไม้ ภายในอุทยานเพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมให้อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ แห่งนี้ เป็นสถานที่ศึกษาเรื่องสิ่งแวดล้อม เสริมสร้างคุณภาพชีวิต พัฒนาร่างกายและจิตใจ เป็นปอดแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งได้เรียนรู้พระราชกรณียกิจและแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ต่อไป
หมายเหตุ นิทรรศการอุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่จัดแสดงที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ (สนาม้านางเลิ้ง) จะเปิดให้ประชาชน ได้เข้าชมจนถึงวันที่ 6 ธันวาคม 2564
สำหรับเนื้อหานิทรรศการอุทยานเฉลิมพระเกียรติ ร.9 จัดแบ่งเป็น 12 โซน โซนที่ 1 Interactive ผังแม่บทโครงการ ประกอบด้วยพื้นที่น้ำ 47 ไร่ พื้นที่สีเขียว 105 ไร่ พื้นที่จอดรถยนต์ 700 คัน ที่จอดรถบัส 9 คัน โซนที่ 2 แนวคิดการออกแบบพระบรมราชานุสาวรีย์ เสนอเรื่องราวพระบรมราชานุสาวรีย์ ถือเป็นหัวใจและศูนย์กลางของสวนแห่งนี้ โดยพระบรมรูปรัชกาลที่ 9 มีสัดส่วนสูง 5.19 เมตร ซึ่งมีขนาดเป็นสามเท่าของพระองค์จริง ฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ มีความสูง 18.7 เมตร จากระดับถนนศรีอยุธยา ตั้งอยู่ในลานรูปไข่ มีพื้นที่ 2,173 ตารางเมตรบนเนินสูง 7 เมตร โอบล้อมด้วยสวนป่าผสมผสานแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 9 ตั้งอยู่บนผังแปดเหลี่ยม ตามคติพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ อันเป็นสัญลักษณ์เบื้องแรกแห่งการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
โซนที่ 3 Interactive แนวคิดหลักการออกแบบโครงการ ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ โซนที่ 4 แนวคิดการบริหารจัดการน้ำ ประกอบด้วยแก้มลิงแห่งใหม่ , บ่อน้ำเลข 9, กังหันน้ำชัยพัฒนา: เปรียบเสมือนหัวใจของแหล่งน้ำ ที่ทั้งคน สัตว์ และพืชพรรณธรรมชาติอันอุดมได้อยู่ร่วมกันในระบบนิเวศ เช่น ฝ่ายและป่าต้นน้ำ ,โซล่าเซลล์ลอยน้ำ หรือ Floating solar เพื่อนำพลังงานที่ได้มาใช้ในพื้นที่บางส่วนของโครงการ สูบน้ำจากปลายน้ำหมุนเวียนกลับขึ้นไปยังต้นน้ำ การเลี้ยงปลา เช่น กระโห้ ตะเพียนขาว ตะพาก กระแห พึ่งพิงกันเป็นระบบนิเวศ รวมถึงพืชชุ่มน้ำเพื่อให้มีความหลากหลายทางธรรมชาติและกรองน้ำที่ไหลสู่บ่อน้ำเลข 9
โซนที่ 5 Interactive แนวคิดการออกแบบพรรณไม้ในโครงการ ประกอบด้วยหลักการจัดวางพรรณไม้ การวางตำแหน่งต้นไม้ อัตราการเจริญเติบโต โซนที่ 6 Interactive ไม้มงคลพระราชทาน ประจำจังหวัด 77 จังหวัดโซนที่บอร์ดที่ 7 และ 8 เส้นทางการสัญจรในโครงการ ประกอบด้วยเส้นทางจักรยาน 3.5 กิโลเมตร กว้าง 5 เมตร เส้นทางวิ่ง 3.5 กิโลเมตร กว้าง 6 เมตร เส้นทางเดิน
โซนที่ 9 Interactive วิดีทัศน์โครงการ โซนที่ 10 นันทนาการและสนามกีฬา ประกอบด้วยลานออกกำลังกายกลางแจ้ง ลานกิจกรรมกลางแจ้ง โซนที่ 11 ภาพในอดีตและโครงการที่กำลังเกิดขึ้น และ โซนที่ 12 Interactive วิดีทัศน์แสดงความคืบหน้าโครงการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 07.00 น.กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดบริการตรวจ ATK ให้กับประชาชนทุกหมู่เหล่า ทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ จิตอาสา ประชาชน รวมทั้งสื่อมวลชน ทยอยเดินทางมาตรวจ ATK ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดตรวจ ATK ไว้ 2 จุด คือ กรมทางหลวง ถนนศรีอยุธยา และโรงเรียนราชวินิตมัธยม ถนนพิษณุโลก โดยจัดเตรียมชุด ATK ไว้จำนวน 14,000 ชุด รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน 10 คัน และรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษพระราชทาน 1 คัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคีก ตลอดทั้งวันมีประชาชนเดินทางมาตรวจคัดกรองเชื้อโควิดอย่างต่อเนื่อง หลังจากฟังผลการตรวจแล้ว ประชาชนได้แสดงบัตรประจำตัวประชาชน บัตรแสดงตน หนังสือเดินทาง ผ่านเครื่องตรวจเพื่อบันทึกภาพ ตรวจวัดอุณหภูมิ สวมหน้ากากอนามัย จากนั้นมี รถ Shuttle Bus นำเข้าสู่อุทยานฯร่วมพระราชพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9
ด้าน นางมณีรัตน์ วิสุทธิ์ อายุ 52 ปี อาชีพค้าขาย จากชุมชนริมทางรถไฟสายเป็ดริ้ว เขตดุสิต กทม. กล่าวว่า ตนเดินทางมากับเพื่อบ้านในชุมชนเพื่อมารับเสด็จและร่วมในพระราชพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ในหลวง ร.9 วันนี้รู้สึกปิติยินดีอย่างมาก 5 ปีแล้วที่ในหลวง ร.9 เสด็จสวรรคต แต่ก็ยังระลึกถึงและกราบไหว้พระบรมฉายาลักษณ์พระองค์ท่านทุกวันขอพรให้ลูกอยู่เย็นเป็นสุข และได้นำคำสอนของพ่อมาปฏิบัติเสมอ รู้สึกดีใจที่มีอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ร.9 เป็นจุดศูนย์รวมใจประชาชนที่มาใช้อุทยานของพ่อเพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรง และมีความสะดวกปลอดภัย และยังได้รับความรู้เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ทุกวันนี้ก็ปฏิบัติตามคำสอยของพ่อในหลายๆเรื่อง วันที่ 5 ธ.ค.เป็นวันพ่อก็จะออกมาร่วมกิจกรรมทุกปี หรือวันสำคัญของในหลวงรัชกาลที่ 10 ก็จะออกมาร่วมกิจกรรมทุกครั้ง ทำให้รู้สึกอุ่นใจเพราะเรามีพระมหากษัตริย์เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
- 006