วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในพระราชสำนัก
'ในหลวง-พระราชินี'ทรงเปิด2ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ชาวไทยเชื้อสายจีนรวมพลังสามัคคีถวายความภักดี

'ในหลวง-พระราชินี'ทรงเปิด2ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ชาวไทยเชื้อสายจีนรวมพลังสามัคคีถวายความภักดี

วันเสาร์ ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2568, 19.47 น.
Tag : ในหลวง พระราชินี
  •  

“ในหลวง-พระราชินี” ทรงเปิด 2 ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ชาวไทยเชื้อสายจีนรวมพลังสามัคคีถวายความภักดี

25 ม.ค.2568 เวลา 17.12 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรสถิต 72 พรรษา” บริเวณสะพานดำรงสถิต ณ ถนนเจริญกรุง เขตพระนคร และทรงเปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรธำรง 72 พรรษา” บริเวณห้าแยกหมอมี เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ภายใต้โครงการ “เบญจกตัญญุตา บารมีแห่งมังกรสยาม” ณ ถนนเจริญกรุง เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร โดยมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ประธานสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ฯ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย  พร้อมด้วยคณะกรรมการ  และ องค์กรชาวไทยเชื้อสายจีนทั้งประเทศ เฝ้าฯ รับเสด็จ

การนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงศีล ประธานสงฆ์ถวายศีล จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นางจรรย์สมร วัธนเวคิน ที่ปรึกษาโครงการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เข้าเฝ้า ฯ ทูลเกล้า ฯ ถวายสูจิบัตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เข้าเฝ้า ฯ ทูลเกล้า ฯ ถวายสูจิบัตร แด่ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และคุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ประธานสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพ ฯ ประธานจัดงาน ฯ กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ กราบบังคมทูลเชิญเสด็จ ฯ ทรงเปิดซุ้มประตู"วชิรสถิต 72  พรรษา" และซุ้มประตู"วชิรธำรง 72 พรรษา" และเบิกผู้สนับสนุนโครงการ ฯ เข้ารับพระราชทานของที่ระลึกกราบบังคมทูลเชิญทอดพระเนตรการขับร้องเพลงสดุดีทศมราชาและการแสดงชุดเบญจกตัญญุตาบารมีแห่งมังกรสยาม พร้อมทั้งขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับคณะผู้สนับสนุน ตามลำดับ

ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายชื่อซุ้มประตู "วชิรสถิต 72 พรรษา" และ"วชิรธำรง 72 พรรษา" พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ เมื่อเสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก

ทั้งนี้ ซุ้มประตูทั้ง 2 ซุ้มพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานชื่อว่า “วชิรสถิต 72 พรรษา” อันเป็นเอกลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึง พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุอย่างยั่งยืนถึง 72 พรรษา ส่วนซุ้มประตูที่แยกหมอมี พระราชทานชื่อ “วชิรธำรง 72 พรรษา” มีความหมายว่า การเทิดทูนจากพสกนิกรชาวไทยที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว ในวาระเฉลิมพระชม 72 พรรษา และเมื่อวันที่ เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานทรัพย์เป็นทุนประเดิมในการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ฯ เป็นจำนวนเงิน 10 ล้านบาท 

ซุ้มประตู “วชิรสถิต 72 พรรษา” ถือเป็นหัวมังกรตั้งอยู่บริเวณสะพานดำรงสถิต มีช่วงกว้างของเสา 16 เมตร ความสูง 23 เมตร และซุ้มประตู “วชิรธำรง 72 พรรษา”  เป็นหางมังกรตั้งอยู่บริเวณแยกหมอมี ช่วงกว้างของเสา 14 เมตร ความสูง 23 เมตรการออกแบบ ซุ้มประตูทั้ง 2 แห่งเป็น สถาปัตยกรรมแบบจีนภาคเหนือ หรือแบบของกรุงปักกิ่งเป็นหลัก เนื่องจากเป็นสถาปัตยกรรมที่ใช้กับสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นรูปแบบเฉพาะไม่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป โดยแนวคิดโบราณของประเทศจีนซุ้มประตูจะอยู่ในกึ่งกลางของถนนแต่ละสาย เพื่อเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงการเข้าสู่บริเวณสำคัญนั้นๆ ลักษณะตัวอาคารเป็นซุ้มประตูจีนแบบ “ไผฟาง” มีช่องทางเข้าช่องเดียว 2 เสา ด้านบนมีหลังคา 3 หลัง ลักษณะของซุ้มประตูเป็นเสาคู่ ประดับด้วยลวดลายมังกร ซึ่งมังกร 5 เล็บของจีนสื่อถึงองค์ฮ่องเต้ หรือองค์พระมหากษัตริย์ ซุ้มประตูสร้างด้วยโครงสร้างเหล็กกล้า ภายในเป็นเหล็กทั้งหมดภายนอกประดับตกแต่งใช้คอนกรีตเสริมใยแก้ว ซึ่งเป็นคอนกรีตที่มีน้ำหนักเบา ในขณะที่ยังคงความสวยงามและรูปแบบศิลปะถูกต้องตามต้นแบบสถาปัตยกรรมจีน ส่วนสีซุ้มประตูเป็นสีแดงที่ใช้สำหรับอาคารสำคัญต่างๆ 

โดยหลังคาของซุ้มประตูทั้ง 2 แห่งเป็นสีเหลือง อันเป็นสีประจำพระองค์ของสถาบันพระมหากษัตริย์ของจีนโบราณ ด้านบนสุดยอดของหลังคาประดิษฐ์ตราสัญลักษณ์มงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 โดยสองข้างของตราสัญลักษณ์เป็นรูปปั้นมังกรคู่เทิดทูนตราสัญลักษณ์ สื่อถึงการแสดงความจงรักภักดี ร่วมใจของพสกนิกรไทยจีนและคนไทยเชื้อสายจีนทั้งหมด มีการเขียนลวดลายโดยใช้ช่างจากประเทศจีน ที่ฐานซุ้มประตูทั้ง 2 แห่งจะมีฐานที่เป็น กล่องหินแกะสลักจากประเทศจีน 4 คู่ มีช้างแบบไทย 2 คู่ หมายถึง ประเทศไทย และสิงโตแบบจีนโบราณ 2 คู่ หมายถึง ประเทศจีน และรูปกลอง 4 คู่ แกะสลักจากหินพิเศษเรียกว่าหินอ่อนหยกขาวจีน (หินฮั่นไป๋ยู่)  ออกแบบและแกะสลักโดยศิลปินระดับชาติของอำเภอฉวีหยาง มณฑลเหอเป่ย ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นแหล่งกำเนิดประติมากรรมแกะสลักของประเทศจีน โดยได้ใช้เวลาสี่เดือนในการแกะสลักประติมากรรมรูปช้างได้แกะสลักตามรูปแบบช้างพาหนะที่พระมหากษัตริย์ไทยทรงประทับในสมัยโบราณ ซึ่งเป็นช้างทรงเครื่อง ตัวหนังสือที่แกะสลักบนผ้าคลุมหลังช้างทั้งสี่ตัวนั้น เป็นคำว่า จี๋ (สิริ) เสียง (มงคล) หรู (สม) ยี่ (ความปรารถนา) ตามลำดับประติมากรรมรูปสิงโตนั้น แกะสลักตามรูปแบบสิงโตที่จัดวางอยู่ทั้งสองฝั่งหน้าประตูพระที่นั่งไท่เหอ ซึ่งเป็นอาคารที่มียศศักดิ์สูงที่สุดในพระราชวังต้องห้ามของกรุงปักกิ่ง สิงโตแต่ละคู่มีทั้งเพศผู้และเพศเมีย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจบารมีที่น่าเกรงขาม และบุญวาสนาที่สืบทอดกันอย่างไม่ขาดสายประติมากรรมรูปกลองนั้น ได้แกะสลักลวดลายเมฆมงคล ซึ่งตามความเชื่อและประเพณีของชาวจีนหมายถึงความปรองดองสมานฉันท์ ความสมบูรณ์พูนสุข ความเจริญมั่นคงของบ้านเมืองและความสงบสุขของประชาชนตรงฐานเสาใช้หินแกรนิตสีแดงจากประเทศจีน โดยกรมศิลปากรช่วยออกแบบลวดลายไทยเป็นรูปบัวคว่ำบัวหงาย นำมาหุ้มฐานเสา เพื่อความเป็นสิริมงคลยืนยงยาวนาน

การจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ นี้ เกิดจากการรวมพลังความสามัคคี ความจงรักภักดีและความกตัญญูกตเวทิตาของปวงพสกนิกร  เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2567 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความร่มเย็นเป็นสุขเสมอมา ซึ่งซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นสถาปัตยกรรมที่รังสรรค์โดยการผสมผสานทางศิลปวัฒนธรรมชั้นสูงของอารยธรรมไทย-จีน  และในปีพุทธศักราช 2568 เป็นโอกาสครบ 50 ปีแห่งสัมพันธภาพระหว่างราชอาณาจักรไทย กับสาธารณรัฐประชาชนจีน รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยสถานเอกอัครราชทูตสาธารณประชาชนจีนประจำประเทศไทย  ได้ร่วมเทิดพระเกียรติด้วยการมอบประติมากรรมมงคล ช้าง, สิงห์ และกลอง แกะสลักจากหินอ่อนหยกขาว “ฮั่นไป๋ยู่”  มาประดิษฐานบนฐานปัทม์อันเป็นศิลปกรรมไทยซึ่งออกแบบโดยกรมศิลปากร  สะท้อนความมั่นคง-ยั่งยืนแห่งสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน อันจะนำมาสู่การเป็นหมุดหมายแห่งใหม่ที่สำคัญของประเทศในด้านการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม 

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง เสด็จฯ ไปยังวัดมังกรกมลาวาส พระคณาจารย์จีนธรรมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาส นำบรรพชิตจีน 73 รูป สวดถวายพระพร และทูลเกล้าฯ ถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศล ตามพระราชอัธยาศัย และทรงลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธย ในสมุดที่ระลึกของวัดมังกรกมลาวาส เสร็จแล้วประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่งไปยังซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรธำรง 72 พรรษา” โดยมีนายหาน จื้อ เฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย, ศ.ดร.หวาง  ฮวัน ภริยาเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน  ประจำประเทศไทย นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย-จีน นางจรรย์สมร วัธนเวคิน ที่ปรึกษาโครงการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิม พระเกียรติ 72 พรรษา นายชิม ชินวิริยกุล นายกสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย และสมาคมจีนเก้าภาษา  นายกิตติ  อิทธิภากร ประธานสหสมาคมตระกูลแซ่แห่งประเทศไทย และ องค์กรชาวไทยเชื้อสายจีนทั้งประเทศ เฝ้าฯ รับเสด็จ

การนั้นทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และคณะกรรมการดำเนินการจัดสร้างซุ้มเฉลิมพระเกียรติ รวมถึงผู้มีอุปการคุณจำนวน 2 ชุดๆ ที่บริเวณหน้าซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรธำรง 72 พรรษา” 

ตลอดทั้งสองเส้นทางถนนเจริญกรุงตั้งแต่บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรสถิต 72 พรรษา” ไปจนถึงซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรธำรง 72 พรรษา” มีประชาชนชาวไทย ชาวไทยเชื้อสายจีน พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลือง และนักท่องเที่ยวนานาชาติ เฝ้าฯ รอรับเสด็จ อย่างเนืองแน่น พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องอันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นไทย-จีน ใช่อื่นไกลเป็นพี่น้องกัน
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ในหลวง\'พระราชทานสิ่งของ เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ชายแดนจังหวัดจันทบุรี-ตราด 'ในหลวง'พระราชทานสิ่งของ เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ชายแดนจังหวัดจันทบุรี-ตราด
  • ‘ในหลวง-พระราชินี’พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้‘สมเด็จพระสังฆราช’พร้อมคณะเฝ้าฯ ‘ในหลวง-พระราชินี’พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้‘สมเด็จพระสังฆราช’พร้อมคณะเฝ้าฯ
  • \'ในหลวง\'ทรงห่วงใย พระราชทานสิ่งของเป็นกำลังใจให้ทหารปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตย 'ในหลวง'ทรงห่วงใย พระราชทานสิ่งของเป็นกำลังใจให้ทหารปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตย
  • \'ในหลวง-พระราชินี\' ทอดพระเนตรการแสดงดนตรีวงดุริยางค์ราชนาวิกโยธินในพระเจ้าชาลส์ที่ 3 'ในหลวง-พระราชินี' ทอดพระเนตรการแสดงดนตรีวงดุริยางค์ราชนาวิกโยธินในพระเจ้าชาลส์ที่ 3
  • ‘ในหลวง-พระราชินี‘ พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้คณะเอกอัครราชทูต-คณะบุคคล เฝ้าฯ ‘ในหลวง-พระราชินี‘ พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้คณะเอกอัครราชทูต-คณะบุคคล เฝ้าฯ
  • \'ในหลวง-พระราชินี\'ทอดพระเนตรการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 51 \'SEA OF LOVE\' 'ในหลวง-พระราชินี'ทอดพระเนตรการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 51 'SEA OF LOVE'
  •  

Breaking News

ไร้มารยาท! ไทยประท้วงเขมร ปล่อยคลิปเสียง‘อิ๊งค์’ ซัดทำลายความไว้ใจ-ยุยงแตกแยก

(คลิป) ไม่สลด! 'อิ๊งค์' โพสต์เพลง 'ทำด้วยใจ' ดึงคำพูดแม่ทัพภาค2 เป็นเกราะกำบัง

คปท.นัดมวลชนไล่นายกฯ เซ่นปมคลิปเสียงคุยฮุนเซน พร้อมเรียกร้องพรรคร่วมลาออก

จับบริษัทปลอมบัตรฯลวงเหยื่อให้สิทธิพิเศษ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved