วันศุกร์ ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2568
ถวายสักการะ-สวดพระอภิธรรมพระบรมศพ
‘กษัตริย์จิกมี-ราชินี’เสด็จฯ
รัฐบาลจัดพิธีบำเพ็ญกุศล
30ต.ค.-ครบ7วันสวรรคต
สมเด็จพระพันปีหลวง
มท.สั่งผวจ.จัดงานใหญ่
“ในหลวง-พระราชินี” เสด็จฯทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ“สมเด็จพระพันปีหลวง”วันที่สี่ โดย “กษัตริย์จิกมี-พระราชินีแห่งภูฏาน” เสด็จฯทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะ ถวายความอาลัย และทรงร่วมบำเพ็ญพระราช กุศลพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพฯ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ขณะที่คณะบุคคล-คณะทูต-องค์กรระหว่างประเทศ ประชาชนทั่วสารทิศยังหลั่งไหล เข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ “พระพันปีหลวง” ด้วยความอาลัยยิ่ง ขณะที่รัฐบาลอัญเชิญพระฉายาลักษณ์ ‘พระพันปีหลวง’ ประดิษฐานหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนจัดพิธีทำบุญตักบาตรในวาระครบรอบ 7 วันแห่งการสวรรคต ถวายเป็นพระราชกุศล 30 ต.ค.
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร และเจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี โดยเสด็จในการนี้ด้วย
ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และท่านผู้หญิงพลอยไพลิน เจนเซนเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง
ครั้นเมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง เสด็จเข้าพระที่นั่งราชกรัณยสภา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงมีพระราชปฏิสันถาร กับสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏาน และสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน ที่เสด็จพระราชดำเนินมาทรงร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ที่หน้าพระโกศพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงกราบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้นบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงกราบ
เสด็จพระราชดำเนินไปยังมุขเหนือพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุกที่หน้าพระแท่นเตียงพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ด้านตะวันออก และด้านตะวันตก ทรงคม แล้วประทับพระราชอาสน์ เมื่อพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมครบ 4 จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงทอดผ้าไตรพระราชาคณะ 1 รูปที่ถวายอดิเรก และพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม 8 รูป พระสงฆ์สดับปกรณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการหน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าพระโกศพระบรมศพ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ
กษัตริย์จิกมี-พระราชินีภูฏาณทรงวางพวงมาลา
โดยก่อนหน้านี้ เวลา 10.10 น. สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก มาทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะหน้าพระโกศพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง พร้อมทั้งทรงลงพระปรมาภิไธยและพระนามาภิไธย ถวายความอาลัย
ทั้งนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน ทรงมีความผูกพันแนบแน่นกับพระราชวงศ์ไทย ทรงเคารพรักและเทิดทูนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันปวงชนชาวไทยต่างเคารพรักสมเด็จพระราชาธิบดี และสมเด็จพระราชินีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน เช่นกัน และรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่เสด็จพระราชดำเนินมาถวายความอาลัยครั้งนี้
ต่อมาเวลา 11.00 น. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จฯไปในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในโอกาสนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ โดยเสด็จในการนี้ด้วย
คณะทูต-ปชช.เข้าถวายสักการะพระบรมศพ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนทั่วไปเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ พระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมลงนามถวายความอาลัยในสมุดหลวง ตั้งแต่เวลา เวลา 08.30 น.- 16.00 น. เป็นวันที่สาม ตั้งแต่เช้ามีบุคคลสำคัญ คณะบุคคล คณะทูต ต่างประเทศประจำประเทศไทย องค์การระหว่างประเทศ ราชสกุล พระภิกษุสงฆ์ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรอิสระ และประชาชนทั่วไปแต่งกายด้วยชุดสีดำไว้ทุกข์ เดินทางผ่านจุดคัดกรองเข้าถวายสักการะและลงนามถวายความอาลัยด้วยความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุุณอย่างหาที่สุดมิได้
อาทิ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์, สมาคมคู่สมรสทหารอากาศ, สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะทูตพร้อมคู่สมรส ประกอบด้วย เอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีน, เยอรมนีฯ, เนปาล, ติมอร์เลสเต, เวียดนาม, ออสเตรีย, อุปทูตสหราชอาณาจักร, อุปทูตยูเครน อุปทูตปานามา, อุปทูตอาเจนตินา, กงสุลกิตติมศักดิ์อาร์เมเนีย, กงสุลกิตติมศักดิ์มอลตา, กงสุลกิตติมศักดิ์คีร์กีซสถาน, กงสุลกิตติมศักดิ์โดมินิกัน, กงสุลกิตติมศักดิ์เอลซัลวาดอร์, กงสุลกิตติมศักดิ์เยเมน
พระสหายชาวเยอรมันร่วมถวายความอาลัย
ผู้แทน องค์การระหว่างประเทศ ได้แก่ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO), คณะกรรมมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก(UNESCAP), องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีนาย Wolfgang Kiessling (โวล์ฟกัง คัสสลิง ) พระสหายชาวเยอรมัน ซึ่งเคยถวายงาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อครั้งเสด็จฯ ไปประทับ ณ เมือง เตเนริเฟ ประเทศสเปน จากนั้นได้มีโอกาสตามเสด็จฯไปในช่วงที่ทรงงานด้านศิลปาชีพในพื้นที่ต่างๆในประเทศไทยหลายครั้ง เมื่อทราบข่าวการเสด็จสวรรคต จึงแจ้งความจำนงในการเข้าถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
รบ.จัดพิธีบำเพ็ญกุศลสัตตมวาร
วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการอัญเชิญพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มาประดิษฐาน ณ หน้าตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมติดตั้งชุดลำโพง บริเวณด้านข้างของสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้เปลี่ยนธงชาติไทยใหม่ เนื่องจากของเดิมมีสีซีดจากการใช้งานมานาน บริเวณรั้วด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ ในวันที่ 30 ตุลาคม เวลา 07.00 น. ที่ทำเนียบฯมีพิธีบำเพ็ญกุศลสัตตมวาร (7 วัน) เพื่ออุทิศถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยสมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ 10 รูป และพิธีทำบุญตักบาตรที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ร่วมพิธี
ตั้งศูนย์ปชส.พระราชพิธีพระบรมศพฯ
ด้านนางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นประธานประชุมคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ฯ ครั้งที่ 1/2568 เพื่อเตรียมความพร้อมและหารือถึงแผนการทำงาน เนื้อหา และรูปแบบการเผยแพร่ข้อมูล เพื่อขับเคลื่อนการประชาสัมพันธ์ เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทั้งหมดเป็นระบบ รอบด้าน ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อให้งานพระราชพิธีครั้งนี้ดำเนินไปอย่างสง่างามและสมพระเกียรติ โดยเน้นย้ำถึงการประชาสัมพันธ์ เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการทันที เพื่อสร้างการรับรู้ให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าใจวงกว้าง และเพื่อแสดงความอาลัยสูงสุดและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ร่วมวางแผนและกำหนดกรอบเวลาการประชาสัมพันธ์ เน้นเผยแพร่พระราชกรณียกิจ พระราชประวัติ และพระจริยวัตรอันงดงามของพระองค์ เตือนใจให้ประชาชนระลึกถึงคุณูปการที่พระองค์ทรงสร้างไว้เป็นแบบอย่าง โดยใช้ช่องทางสื่อสารที่ได้รับความนิยมสูง เช่น TikTok, Facebook นำเสนอเนื้อหาในรูปแบบสร้างสรรค์ ทันสมัย น่าสนใจ เข้าใจง่าย สื่อสารสาระสำคัญของพระราชพิธีและพระมหากรุณาธิคุณได้สมพระเกียรติ ตลอดจนเปิดโอกาสให้เยาวชนมีช่องทางร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ นอกจากนี้ คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ฯ ยังเตรียมใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วย โดยพัฒนา Chatbot ให้บริการข้อมูลประชาชนได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้กรมประชาสัมพันธ์เป็นผู้รับผิดชอบ เปิดเว็บไซต์ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลเป็นทางการ เพื่อให้ประชาชนได้รับคำตอบถูกต้อง รวดเร็วและตั้งศูนย์สื่อมวลชนทุกจังหวัด ช่วงนี้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องได้ทางเว็บไซต์พระลาน (Phralan.in.th) และเพจพระลาน ควบคู่ไปกับ เพจกรมประชาสัมพันธ์
“ภราดร”ถกศปพ.ยึดพระราชพิธีร.9เป็นตัวอย่าง
เช่นเดียวกับ นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมศูนย์ประสานงานการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ครั้งที่ 1/2568 โดยกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการศูนย์ประสานงานการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระพันปีหลวง ซึ่งตนเป็นประธานว่า ทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ อำนวยการและประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานให้เป็นเอกภาพ ตลอดจนประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนทราบ ซึ่งการประชุมวันนี้เตรียมความพร้อม ด้านสถานที่ สนามหลวงรองรับประชาชนที่จะเข้ากราบพระบรมศพที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยกรุงเทพมหานคร ด้านการอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชน โดยกระทรวงคมนาคม ด้านการจราจรและสถานที่จอดรถ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้านการให้บริการดูแลอาหารเครื่องดื่มและการบริจาคสิ่งของสำหรับประชาชน โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ ด้านการจัดจิตอาสาดูแลประชาชน โดยสำนักงานจิตอาสาภาครัฐ สำนักนายกรัฐมนตรี ด้านประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร โดยกรมประชาสัมพันธ์ ด้านการแพทย์และการพยาบาลเพื่อดูแลประชาชน โดยกระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานคร และด้านติดตามสถานการณ์และการข่าว โดยสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
นอกจากนี้ ยังหารือถึงการให้บริการประชาชนที่จะเดินทางเข้ามาที่กรุงเทพฯ เพื่อถวายบังคมพระบรมศพ โดยกระทรวงมหาดไทยวางกติกาให้ไปดูคิวแต่ละจังหวัด แต่ละอำเภอ และลองจัดลำดับการเข้ามาในแต่ละวันจำนวนเท่าไหร่ และในพื้นที่สนามหลวงจะจัดเป็นพื้นที่ศูนย์อำนวยการเพื่อบริการประชาชน อาจมีศูนย์บริการเรื่องอาหาร ศูนย์บริการรักษาพยาบาล และศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉินไว้บริการ ส่วนกระทรวงคมนาคมจะประสานงานเรื่องการจราจร การเคลื่อนย้ายคนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ต้องหาพื้นที่จอดรถใหญ่นอกพื้นที่พระบรมมหาราชวัง และการขนส่งประชาชนเข้ามาในพื้นที่ อาจประสานจิตอาสา ซึ่งศูนย์นี้จะรับสมัครจิตอาสาเข้ามาบริการประชาชนที่เข้ามาถวายสักการะ เบื้องต้นขอให้แต่ละหน่วยงานที่เป็นคณะกรรมการฯไปดูภารกิจหน้าที่ของตน โดยใช้พระราชพิธีเมื่อครั้งสมัยรัชกาลที่ 9 เป็นตัวอย่าง และครั้งถัดไปจะประชุมวันที่ 3 พฤศจิกายน จะมาอัพเดทกันทุกสัปดาห์
สำหรับศูนย์ประสานงานการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (ศปพ.) เป็นศูนย์ประสานงานกลางของรัฐบาล เพื่ออำนวยความสะดวกและประสานงานกับทุกภาคส่วน ติดต่อได้ที่โทรศัพท์ 06 2201 7232 และ 1111 สายด่วนศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ของรัฐบาล รวมทั้งกล่องข้อความเฟซบุ๊ก “สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี” facebook.com/OPM.Society
ปลัดมท.แจ้งผวจ.76จว.จัดบำเพ็ญกุศล4วาระ
ด้านนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติวันที่ 28 ตุลาคมเห็นชอบจัดพิธีบำเพ็ญกุศลและแสดงความอาลัยในวาระครบ 7 วัน (สัตตมวาร) 15 วัน (ปัญรสมวาร) 50 วัน (ปัญญาสมวาร) และ 100 วัน (สตมวาร) แห่งการสวรรคต รวมถึงการจัดกิจกรรมรวมพลังแห่งความภักดี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และต่างประเทศ เพื่อให้ประชาชนร่วมบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ดังนั้น กระทรวงมหาดไทย จึงแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด จัดพิธีบำเพ็ญกุศลฯ ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม ตามกำหนดวันและวาระแห่งการประกอบพิธี ได้แก่ 1.วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม 2568 จัดพิธีบำเพ็ญกุศล ในวาระครบ 7 วัน (สัตตมวาร) 2.วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2568 จัดพิธีบำเพ็ญกุศลในวาระครบ 15 วัน (ปัณรสมวาร) 3.วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม 2568 จัดพิธีบำเพ็ญกุศล ในวาระครบ 50 วัน (ปัญญาสมวาร) และ4.วันเสาร์ที่ 31 มกราคม 2569 จัดพิธีบำเพ็ญกุศลวาระครบ 100 วัน (สตมวาร) สำหรับการจัดกิจกรรม “รวมพลังแห่งความภักดี” ภายใน 100 วัน แห่งการสวรรคต ที่ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่เหมาะสม โดยจังหวัดพิจารณาจัดกิจกรรมรูปแบบที่เหมาะสม เช่น การบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ บำเพ็ญกุศลทางศาสนา