ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร  ‘ในหลวง-พระราชินี’เสด็จฯ  ถวายพระพันปีหลวง

ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร ‘ในหลวง-พระราชินี’เสด็จฯ ถวายพระพันปีหลวง

วันศุกร์ ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร

‘ในหลวง-พระราชินี’เสด็จฯ

ถวายพระพันปีหลวง

ทั่วปท.ร่วมจัดพิธีทำบุญ

ถวายเป็นพระราชกุศล

“ในหลวง-พระราชินี” ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร (7วัน) ถวายพระบรมศพ“สมเด็จพระพันปีหลวง” ขณะที่ “รัฐบาล” จัดพิธีบำเพ็ญกุศลสัตตมวารครบ 7 วันแห่งการสวรรคต ถวายเป็นพระราชกุศล พร้อมกันทั่วประเทศ  ส่วนที่ศาลาสหทัยสมาคม จุฬาราชมนตรี ทูตต่างประเทศ ประชาชนทุกหมู่เหล่าเดินทางจากทั่วสารทิศเข้าถวายสักการะ-ลงนามถวายอาลัยเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ด้วยความรักเทิดทูนและด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 เวลา 17.24 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศล สัตตมวาร (7 วัน) ถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวังในโอกาสนี้ เจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี โดยเสด็จในการนี้ด้วย

ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์  ท่านผู้หญิงพลอยไพลิน เจนเซน และท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน เฝ้าฯ
รับเสด็จ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

เมื่อเสด็จฯถึงพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงวางพวงมาลาที่หน้าพระโกศพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เจ้าพนักงานประโคมสังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่กลองชนะ ปี่พาทย์ ทหารกองเกียรติยศพระบรมศพถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยาราชาวดี และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยารอง และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้นบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงกราบ แล้วประทับพระราชอาสน์ พระสงฆ์ 30 รูป สวดพระพุทธมนต์ จบแล้ว ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนดูหนังสือเทศน์พระราชทานแก่เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปปักที่โต๊ะข้างธรรมาสน์

ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระโกศ สำหรับพระบรมศพทรงธรรม ทรงศีล สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ถวายศีล และถวายพระธรรมเทศนา เรื่อง “อัคคทานกถา” จบแล้ว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุกที่หน้าพระแท่นมุก พระสงฆ์ 4 รูป สวดธรรมคาถา จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ ทรงทอดผ้าไตรถวายพระสงฆ์ ที่ถวายพระธรรมเทศนา และพระสงฆ์ที่สวดธรรมคาถา พระสงฆ์สดับปกรณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา

เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯไปหน้าเครื่องนมัสการหน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงกราบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯไปหน้าพระโกศพระบรมศพ ทรงกราบ  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุก ที่หน้าพระแท่นเตียงพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมด้านตะวันออก และด้าน
ตะวันตก ณ มุขเหนือพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงคม ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท จากนั้น เสด็จลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ

ก่อนหน้านั้น เวลา 07.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯไปในการบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

จุฬาราชมนตรีลงนามถวายอาลัยพระบรมศพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 08.30-16.00 น. ที่อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ศาลาสหทัยสมาคมฯ และเต็นท์สนามหญ้าข้างอาคารลูกขุนในในพระบรมมหาราชวัง สำนักพระราชวัง
เปิดให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่าเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมลงนามถวายความอาลัย ส่งเสด็จ
สู่สวรรคาลัย โดยมีบุคคลสำคัญ คณะบุคคล ผู้นำศาสนา คณะทูตต่างประเทศ หน่วยงานสังกัดภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิ องค์กรการกุศลและประชาชนทั่วไป เข้าถวายสักการะและลงนามถวายความอาลัยด้วยความรักเทิดทูนและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อความผาสุกของปวงชนชาวไทยตลอดมา อาทิ นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี
และคณะ, เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็กประจำประเทศไทย, CDA สาธารณรัฐคอซอวอ, กงสุลกิตติมศักดิ์ โมนาโก, ผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศ พร้อมคู่สมรส จากธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB), สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ(OCHA), พล.ท.วรยศ เหลืองสุวรรณ  แม่ทัพภาคที่ 1 พร้อมแม่ทัพน้อย และคณะ, สมาคมส่งเสริมบุคลิกสตรี, สมาคมสภาแม่ดีเด่นแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ, สมาคมแม่บ้านกองทัพภาคที่ 1, เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นต้น

นายนพรัตน์ ศิจันทร์ อายุ 25 ปี ปัจจุบันประกอบอาชีพด้านไอที กล่าวว่า ตั้งใจมาร่วมถวายสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ พระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมลงนามถวายความอาลัยเป็นครั้งแรก และตั้งใจมาชมพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถด้วยในพิพิธภัณฑ์มีบางชุดที่เรายังไม่เคยเห็นเพราะอยู่ในช่วงอนุรักษ์ไว้ เลยตั้งใจมาอีกเรื่อยๆ เพื่อมาดูฉลองพระองค์ที่เราอยากเห็น ซึ่งก็คือฉลองพระองค์ที่สมเด็จพระพันปีหลวง เสด็จฯ เยือนต่างประเทศ เพราะสวยงามทุกชุดต่อจากนี้จะประชาสัมพันธ์เรื่องผ้าไทยผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของตัวเองให้มากขึ้น เนื่องจากโซเชียลมีเดียของตนนั้นมีต่างชาติติดตามค่อนข้างมาก ต่างชาติจะได้เห็นถึงความสวยงามของภูมิปัญญาไทย และพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระพันปีหลวง ที่ประจักษ์ชัดต่อสายตาคนทั่วโลก

ขณะที่นางสมนึก พนิชตะโกน อายุ 60 ปี ชาวจ.ปทุมธานี กล่าวว่า แม้จะขาหักดามเหล็กแต่ก็มาด้วยใจเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังช่วยอำนวยความสะดวก นำสมุดลงนามถวายความอาลัย
มาให้ตนลงนาม เพราะเดินไม่สะดวก รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์อย่างหาที่สุดมิได้ เมื่อประชาชนเดือดร้อน น้ำท่วม ดินถล่ม ทรงบรรเทาทุกข์ เป็นขวัญกำลังใจคนไทยเสมอมา เมื่อทรงพระประชวรตนก็ติดตามข่าวด้วยความเป็นห่วง พอทราบข่าวท่านสวรรคตรู้สึกเสียใจมาก วันนี้ครบ 7 วัน รู้สึกใจหาย ทุกอย่างเร็วมาก เราต้องมาถวายอาลัยให้ได้ สมัยในหลวงรัชกาลที่ 9 เข้ากราบพระบรมศพ 4 ครั้ง ด้วยรักและเทิดทูน จากนี้ครอบครัวจะไปเข้าชมพิพิธภัณฑ์ผ้าของพระองค์ด้วย

รบ.จัดพิธีบำเพ็ญกุศลสัตตมวาร7วัน

จากกรณีคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม เห็นชอบจัดพิธีบำเพ็ญกุศลและแสดงความอาลัย ในวาระครบ 7 วัน (สัตตมวาร) 15 วัน (ปัณรสมวาร) 50 วัน (ปัญญาสมวาร)และ 100 วัน (สตมวาร) แห่งการสวรรคต รวมถึงการจัดกิจกรรมรวมพลังแห่งความภักดี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และต่างประเทศ เพื่อให้ประชาชนร่วมบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงนั้น หน่วยงานต่างๆ ได้ร่วมจัดพิธีกันอย่างพร้อมเพรียงทั่วประเทศ

โดย เวลา 07.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล รัฐบาลจัดพิธีบำเพ็ญกุศลสัตตมวาร (7 วัน) เพื่ออุทิศถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมี สมเด็จพระพุฒาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคมเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก และเจ้าอาวาส วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยนายกรัฐมนตรีมอบหมาย
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม เป็นประธานฝ่ายฆราวาสโดยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่
หน่วยงานในทำเนียบรัฐบาล เข้าร่วมพิธีฯ   นอกจากนั้น ยังมีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 10 รูป ที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดยนายพิพัฒน์ เป็นผู้แทนกล่าวแสดงความอาลัยเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์
ผู้เข้าร่วมพิธียืนสงบนิ่งแสดงความอาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นเวลา 1 นาที เป็นอันเสร็จพิธีฯ

ทร.จัดพิธีแสดงความอาลัยครบ7วันสวรรคต

พลเรือเอกไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ผู้บัญชาการทหารเรือ(ผบ.ทร.) พร้อมนางอารียา เฟื่องจันทร์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ เป็นประธานในพิธีแสดงความอาลัยในวาระครบ 7 วัน (สัตตมวาร)
ถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูง พร้อมภริยา ตลอดจนหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ ร่วมในพิธีฯ ที่
บริเวณหน้าอาคารส่วนบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน กรุงเทพมหานคร

กทม.ทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายพระราชกุศลครบ 7 วัน (สัตตมวาร) เนื่องในวันสวรรคต สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  มี นายวิพุธ ศรีวะอุไร ประธานสภากรุงเทพมหานคร นายณรงค์ เรืองศรี  ปลัดกรุงเทพมหานคร นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่า
ราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หัวหน้าหน่วยงาน ข้าราชการ บุคลากรของกรุงเทพมหานคร และประชาชน ร่วมพิธีที่ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) เขตพระนคร

เวลา 07.00 น. ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และถวายสักการะพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เจ้าหน้าที่
อาราธนาศีล พระราชาคณะ 10 รูป ให้ศีลและสวดพระพุทธมนต์บทถวายพรพระ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล จากนั้น คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ตักบาตรพระราชาคณะ 10 รูป และถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระราชาคณะ ทอดผ้าไตรถวาย และกรวดน้ำอุทิศถวายพระราชกุศลหลังเสร็จพิธีสงฆ์ ผู้ว่าฯกทม.พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และบุคลากรกรุงเทพมหานคร และผู้ร่วมพิธี ร่วมตักบาตรพระสงฆ์ 93 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลโดยพร้อมเพรียงกัน บรรยากาศเป็นไปด้วยความสงบ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และความจงรักภักดีอย่างล้นพ้น

ร่างแบบพระเมรุมาศเสร็จสัปดาห์หน้า

นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากรเผยความคืบหน้าการร่างแบบพระเมรุมาศในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพันปีหลวงว่า ขณะนี้กรมศิลปากรอยู่ระหว่างการจัดทำแบบร่างพระเมรุมาศและอาคารประกอบ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เบื้องต้นจัดทำขึ้น 3-4 แบบ คาดว่า จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะนำทูลเกล้าฯ ถวายกรมสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ที่ปรึกษาฯ เพื่อทรงมีพระราชวินิจฉัย โดยเน้นย้ำแนวคิดการออกแบบพระเมรุมาศอย่างงดงาม ทรงคุณค่า และ สมพระเกียรติสูงสุด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top