วันจันทร์ ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
หนังสือการประดิษฐานพระบรมโกศ
ร.10พระราชทาน
พร้อมพระอภิธรรมภาษาบาลี
เริ่มรับได้6-10มหราคม2569
ปชช.ถวายอาลัยพระพันหลวง
'ในหลวง'พระราชทานหนังสือการประดิษฐานพระบรมโกศและพระอภิธรรมภาษาบาลีและคำแปลภาษาไทย ในโอกาสพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร (7 วัน) ขณะที่ ประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้าถวายสักการะและลงนามถวายความอาลัย “สมเด็จพระพันปีหลวง” ขณะที่ บขส. เตรียมพร้อมรถโดยสาร-จัดพื้นที่จอดรถสถานีขนส่งฯ 4 แห่ง อำนวยความสะดวกประชาชนในการเดินทางเข้าถวายสักการะพระบรมศพ กทม.ยืนยันความพร้อมอย่างเต็มที่ในการดูแลประชาชนทุกคนที่มาร่วมถวายความอาลัย
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานหนังสือการประดิษฐานพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง และพระอภิธรรม ภาษาบาลีและคำแปลภาษาไทย โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานในโอกาสพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร (7 วัน) ถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พุทธศักราช 2568 ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง
ทั้งนี้ รับหนังสือได้ระหว่างวันที่ 6-10 มกราคม 2569 (ในวันและเวลาราชการ) ณ ห้องสมุด กรมราชเลขานุการในพระองค์ สำนักพระราชวัง ศาลาลูกขุนใน ชั้น 1 พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร โทร.02-220 7200 ต่อ 6404
พสกนิกรเข้าถวายสักการะเนืองแน่น
สำหรับบรรยากาศการเข้าถวายสักการะและลงนามถวายความอาลัย เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ พระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. ที่อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ศาลาสหทัยสมาคมฯ และเต็นท์สนามหญ้าข้างอาคารลูกขุนใน พระบรมมหาราชวัง
โดยเช้าวันนี้ถึงมีจะมีฝนโปรายปรายลงมาทุกคนไม่ย่อท้อ มีบุคคลสำคัญ คณะบุคคล หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิ องคกรการกุศล นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปทั้งที่มาเป็นครอบครัวและมาเป็นหมู่คณะแต่งกายด้วยชุดสีดำไว้ทุกข์ เข้าถวายสักการะพร้อมลงนามถวายความอาลัยเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ พระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อย่างเนืองแน่นด้วยความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อความผาสุขของพสกนิกรชาวไทยตลอดมา
อาทิ ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมคณะฯ, ดร.คุณหญิญกัลยา โสภณพาณิชย์ ประธรรนพรรคไทยก้าวใหม่ และคณะ เข้าถวายสักการะพร้อมลงนามถวายความอาลัยเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ พระบรมศพ
ขับเคลื่อนสืบสานพระราชปณิธาน
ดร. ลาลีวรรณ กาญจนจารี ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวว่า สภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ก่อตั้งมา 69 ปีแล้ว ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ให้รางวัลแก่สตรีไทยดีเด่น ประจำทุกๆปี โดยปีนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีสุทธิดา ทรงเป็นประธาน พระราชทานรางวัลให้
สมเด็จพระพันปีหลวง พระราชทาน 4 ข้อ เป็นข้อที่พึงปฏิบัติ คือเป็นแม่บ้านที่ดี เป็นภรรยาที่ดีรักษาและอนุรักษ์วัฒนธรรม จริยธรรม และพึงพัฒนาตนเองให้ดีตลอดไป ซึ่งตรงนี้พวกเรารู้สึกทราบซึ่งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ซึ่งทางสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ ทำงานหลากหลายมาก ตนพึ่งมารับหน้าที่ในปีนี้ แต่สิ่งที่คาดหวังและอยากจะทำคือ “กองทุนเพชรน้ำหนึ่ง” ในการให้ทุนแก่องค์กร เพื่อที่เขาจะได้ไปทำงานต่อยอดใน โครงการพระราชดำริ ของ สมเด็จพระพันปีหลวง แล้วเราก็จะให้รางวัล
สำหรับภาพความทรงจำที่มีต่อ “สมเด็จพระพันปีหลวง” ส่วนตัวได้ทำงานถวายพระองค์ท่านอย่างใกล้ชิด คือ “มูลนิธิกฤตานุสรณ์” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา เพื่อให้ทุนการศึกษากับบุตรและธิดาของตำรวจทหารชายแดนที่เสียชีวิต
“สมัยที่เป็นรองประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯฝ่ายต่างประเทศ ก็ได้พบกับองค์กรสภาสตรีทั่วโลก ได้มีโอกาสเผยแพร่งานของพระองค์ท่านและงานของสภาสมาคมสตรีฯให้ชาวโลกได้เห็น และเผยแพร่กิจกรรมอีกมากมาย เช่น ให้ทุนการศึกษาแก่โรงเรียนที่อยู่ต่างจังหวัด ตามภาคต่างๆ รวมถึงสืบสานต่อยอดเกี่ยวกับผ้าไหม ซึ่งเป็นงานของ “สมเด็จพระพันปีหลวง” ทางสภาสมาคมฯมีสมาชิกอยู่ 185 องค์กร ที่ทำงานเกี่ยวกับสตรี วัฒนธรรมหญิง สตรีอาสารักษาดินแดน องค์กรผู้หญิงอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ทางสภาสมาคมฯ จึงมอบหมายให้ทุกองค์กรขับเคลื่อนสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ต่อไป”
ทรงเป็นแบบอย่างการทำเพื่อส่วนรวม
ด้าน นางสาวพจนมาศ รักมณี ชาวศาลายา จ.นครปฐม กล่าวว่า เดินทางมาถวายสักการะและลงนามแสดงความอาลัยพร้อมกับครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ น้องชาย รวม 4 คน สมเด็จพระพันปีหลวงทรงเป็นแรงบันดาลใจและแบบอย่างในการทำเพื่อส่วนรวม พระราชกรณียกิจของพระองค์มีมากมาย เสด็จเยี่ยมราษฎรทุกหนทุกแห่งในถิ่นทุนกันดาร รวมถึงมีกองทุนแม่แห่งแผ่นดินช่วยดูแลชุมชน แก้ปัญหายาเสพติด ช่วยบำบัดผู้ติดยา กลับมามีชีวิตที่ดีอีกครั้ง อยากชวนให้พสกนิกรทุกคนยึดพระองค์เป็นแบบอย่าง ร่วมกันทำความดีเพื่อแผ่นดินนี้
ขณะที่ นายฐิติวัชร์ ชยกรอธิพันธ์ ครูผู้กำกับสถานศึกษาโรงเรียนานาชาตินอริชกรุงเทพ กล่าวว่า วันนี้ครูและตัวแทนนักเรียนวิชาทหาร กลุ่มโรงเรียนนานาชาติจำนวน 22 คน เดินทางมากราบถวายสักการะและลงนามถวายความอาลัยเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระพันปีหลวง เพื่อให้เด็กๆ เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพระราชวงศ์และประเพณีไทย เนื่องจากหลักสูตรการเรียนการสอนภายในโรงเรียนมุ่งเน้นหลักสูตรตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ การที่เด็กๆ ได้สัมผัสประสบการณ์จริง นับเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว ควบคู่กับการทำหน้าที่เป็นจิตอาสา ทำความดีด้วยหัวใจ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในด้านต่างๆ อีกด้วย
อำนวยความสะดวกประชาชน
ก่อนหน้านี้นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมศูนย์ประสานและอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เปิดเผยว่า ได้มีการการพูดคุยหารือกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงการให้บริการประชาชนที่กำลังเดินทางเข้ามาที่กรุงเทพมหานคร เพื่อถวายสักการะพระบรมศพ และเตรียมการในหลายๆส่วน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ประสงค์จะเดินทางมา โดยมอบหมายให้แต่ละจังหวัดและแต่ละอำเภอไปจัดตารางเวียนคิวว่าสามารถเข้ามาในแต่ละวันได้จำนวนเท่าใด
ขณะเดียวกันในบริเวณพื้นที่สนามหลวง จะจัดเป็นศูนย์อำนวยการฯ ในด้านต่างๆ อาทิ บริการด้านอาหาร การรักษาพยาบาล สุขภาพ และฉุกเฉิน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนได้มากที่สุด
ประชุมติดตามงานอีกรอบ
นายภราดร กล่าวว่า ขณะที่กระทรวงคมนาคม จะประสานงานในเรื่องจราจร และการเคลื่อนย้ายคนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด เพราะการนำรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาในงานพระราชพิธีทำได้ยาก จึงจำเป็นต้องหาพื้นที่จอดรถบริเวณด้านนอกพระบรมมหาราชวัง และหารถขนส่งมวลชน พาประชาชนเข้ามายังพระบรมมหาราชวัง
นอกจากนี้ รัฐบาลจะมีการประสานงานจิตอาสาต่างๆ เพื่อเข้ามาช่วยบริการพี่น้องประชาชนด้วย ซึ่งเบื้องต้นที่ประชุมได้ขอให้หน่วยงานที่เป็นคณะกรรมการฯ กลับไปดูภารกิจและหน้าที่ของตัวเอง โดยใช้พระราชพิธีตอนในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นตัวอย่าง และในวันที่ 3 พ.ย.นี้ จะประชุมติดตามความคืบหน้าร่วมกันอีกครั้ง
บขส.ดูแลประชาชน
นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม มอบหมายให้ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ในฐานะเป็นผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะ จากพื้นที่กรุงเทพฯ เชื่อมต่อต่างจังหวัดในเส้นทางทั่วประเทศ และระหว่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนในการเดินทางถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้ได้รับความสะดวก ปลอดภัย และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามนโยบายของรัฐบาล
นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า บขส. ดำเนินการอำนวยการความสะดวกประชาชน ตามมาตรการ 4 แนวทาง ดังนี้
เพิ่มเที่ยวรถ/ปลอดภัย
1.จัดเตรียมรถโดยสาร (รถ บขส. และรถร่วมฯ) ให้บริการเที่ยวไป – กลับ เฉลี่ยวันละ 6,000 – 7,000 เที่ยววิ่ง เพื่อรองรับประชาชนในการเดินทางเที่ยวไป – กลับ เฉลี่ยวันละ 90,000 – 120,000 คน รวมทั้งเตรียมเพิ่มเที่ยววิ่ง เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนให้เพียงพอต่อความต้องการในการเดินทาง และไม่มีประชาชนตกค้าง เน้นความปลอดภัย สะดวก และตรงต่อเวลา
2.ประชาชนที่เช่าเหมารถโดยสารไม่ประจำทาง (ทะเบียน 30) และรถยนต์ส่วนบุคคล สามารถใช้พื้นที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (ปิ่นเกล้า) เป็นจุดจอดรถ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยสามารถรองรับรถได้ประมาณ 50 คันต่อวัน เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางกับรถโดยสาร (รถเมล์) ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)
3.ประชาชนที่ใช้บริการรถโดยสารประจำทางของ บขส. และรถร่วมฯ บขส. จัดเจ้าหน้าที่ประจำทุกสถานีขนส่งฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง และให้ข้อมูลแก่ผู้โดยสารตลอดช่วงเวลาการเดินทาง
ให้บริการจอดรถส่วนบุคคล
4.อำนวยความสะดวกด้านการจอดรถยนต์ส่วนบุคคล ประชาชนสามารถนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาจอดได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ 1.สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 2.สถานีขนส่งฯ เอกมัย และ 3.สถานีขนส่งฯ บรมราชชนนี (สายใต้ใหม่)
อย่างไรก็ดี บขส. พร้อมปฏิบัติภารกิจด้วยความระมัดระวัง รอบคอบ และเต็มกำลัง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดินทางร่วมถวายสักการะฯ อย่างปลอดภัยและเรียบร้อย
นอกจากนี้ บขส. จัดพิธีลงนามถวายความอาลัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และจัดกิจกรรม บขส. รวมใจ ถวายความอาลัยฯ โดยได้จัดทำริบบิ้นดำ ซึ่งให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำริบบิ้นดำด้วย รวมทั้งได้มอบให้แก่ประชาชนและผู้โดยสาร ที่ใช้บริการ ณ สถานีขนส่งฯ หมอชิต 2
กทม.อำนวยความสะดวกการเดินทาง
กรุงเทพมหานคร ประชาสัมพันธ์ อำนวยความสะดวกการเดินทางให้กับประชาชนที่เดินทางเข้าร่วมสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดย กระทรวงคมนาคม ร่วมกับ ขสมก. จัดรถ Shuttle Bus บริการ รับส่ง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใน 15 เส้นทาง
กรุงเทพมหานคร ประชาสัมพันธ์ อำนวยความสะดวกการเดินทางให้กับประชาชนที่เดินทางเข้าร่วมสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดย กระทรวงคมนาคม ร่วมกับ ขสมก. จัดรถ Shuttle Bus บริการ รับส่ง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใน 15 เส้นทาง
โดยบริการรถรับ-ส่ง เชื่อมต่อสถานีขนส่งและระบบขนส่งสาธารณะ ในเส้นทาง อนุสาวรีย์ชัยฯ (ฝั่งพญาไท) – สนามหลวง, สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สนามหลวง, สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ – สนามหลวง, สถานีกรุงเทพหัวลำโพง – สนามหลวง, สถานีขนส่งเอกมัย – สนามหลวง , สนามศุภชลาศัย – สนามหลวง, บางใหญ่ – สนามหลวง, สนามราชมังคลากีฬาสถาน – สนามหลวง, สถานีขนส่งหมอชิต 2 – สนามหลวง, MRT ท่าพระ – สนามหลวง, MRT สนามไชย – สนามหลวง, MRT สามยอด – สนามหลวง, BTS สยาม – สนามหลวง, BTS วงเวียนใหญ่ – สนามหลวง, ท่าเรือโดยสารสะพานผ่านฟ้า - สนามหลวง
พร้อมดูแลประชาชนเต็มที่
กรุงเทพมหานครประกาศความพร้อมในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางมาร่วมถวายความอาลัยแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยขณะนี้ได้จัดเตรียมพื้นที่รองรับอย่างครบถ้วน ทั้งที่พัก ห้องน้ำ และจุดพักคอยบริเวณโดยรอบท้องสนามหลวง เพื่อให้การถวายความอาลัยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมพระเกียรติ
นายไทวุฒิ ขันแก้ว รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ปัจจุบันสามารถรองรับประชาชนได้กว่า 3,000 คนต่อรอบ พร้อมจัดเตรียมจุดพักคอยบริเวณ อุโมงค์หน้าพระลาน ซึ่งมีห้องน้ำหญิง 50 ห้อง และห้องน้ำชาย 20 ห้อง รองรับประชาชนได้เพิ่มเติมอีกกว่า 2,000 คน นอกจากนี้ยังได้เตรียมแผนรองรับในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนเดินทางมาร่วมถวายความอาลัยเป็นจำนวนมาก
สำหรับการเดินทางกลับของประชาชน กรุงเทพมหานครได้จัดรถรางให้บริการจาก ประตูเทวาภิรมย์ จำนวน 3 คัน เพื่อเชื่อมต่อไปยังจุดขึ้นรถโดยสารกลางสนามหลวง พร้อมประสานงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ หน่วยแพทย์ และสำนักต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานคร โดยจะมีการประชุมประสานงานทุกเช้าเวลา 08.30 น. และช่วงเย็นเวลา 16.30 น. ของทุกวัน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
จัดระเบียบพื้นที่ให้เป็นระเบียบมากขึ้น
ขณะเดียวกัน กรุงเทพมหานครได้จัดระเบียบพื้นที่ ครัวพระราชทานและจุดแจกอาหาร ให้เป็นระบบมากขึ้น โดยจัดทำ บ่อดักไขมันและจุดล้างจานรวม เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและต้นมะขามรอบสนามหลวง พร้อมอยู่ระหว่างพิจารณา แยกจุดแจกอาหารพระราชทาน ไปยังบริเวณ อนุสาวรีย์ทหารอาสา เพื่อไม่ให้ปะปนกับประชาชนที่เข้ามาสักการะ
ในส่วนของ นักท่องเที่ยวต่างชาติ กรุงเทพมหานครได้จัดเจ้าหน้าที่อาสาสมัครและเจ้าหน้าที่จากสำนักการต่างประเทศประจำ 4 จุดหลัก ได้แก่ ศูนย์อำนวยการกลางสนามหลวง อุโมงค์ใต้พระลาน ท่าช้าง และบริเวณใกล้กระทรวงกลาโหม เพื่อให้ข้อมูลและอำนวยความสะดวกด้านการสื่อสาร รวมถึงจัดพื้นที่รองรับสำหรับ บุคคลไร้บ้าน อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
กรุงเทพมหานครยังขอความร่วมมือประชาชนที่เดินทางมาร่วมถวายความอาลัยให้ ใช้ระบบขนส่งสาธารณะเป็นหลัก โดยสามารถเดินทางทางเรือได้จาก ท่าช้าง ท่ามหาราช และท่าพระจันทร์ เพื่อความสะดวกและลดความแออัดของพื้นที่จอดรถโดยรอบสนามหลวง
ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า หม่อมเจ้าฑิฆัมพร ยุคล เสด็จฯ ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง วันเดียวกันเวลา 11.00 น. และ เวลา 17.00 น. ท่านผู้หญิงพลอยไพลิน เจนเซนเสด็จฯ ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง
ผู้ต้องขังประดิษฐ์ริบบิ้นแสดงความอาลัย
ที่เรือนจำอำเภอเบตง จังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำผู้ต้องขังหญิงและผู้ต้องขังชายร่วมกิจกรรมประดิษฐ์ริบบิ้นสีดำเพื่อใช้ประกอบการแต่งกายไว้ทุกข์ แสดงความอาลัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
นายอนุชา นวลไทย ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอเบตง เปิดเผยว่า เรือนจำได้จัดกิจกรรมจิตอาสาประดิษฐ์ริบบิ้นสีดำแสดงความอาลัย น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังได้ร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดีและแสดงความอาลัยต่อพระองค์ท่าน ทั้งยังเป็นการปลุกฝังจิตสำนึกแห่งความดี ความกตัญญูและการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาจิตใจและเตรียมความพร้อมให้ผู้ต้องขังกลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีคุณค่า
โดยในระยะเริ่มต้น เรือนจำอำเภอเบตงได้ตั้งเป้าผลิตริบบิ้นสีดำจำนวน 3,000 ชิ้น เพื่อมอบให้ประชาชน หน่วยงานราชการและองค์กรต่าง ๆ ในพื้นที่ โดยหากหน่วยงานหรือภาคเอกชนประสงค์จะร่วมสนับสนุน สามารถจัดส่งริบบิ้นสีดำและเข็มกลัดมาให้ผู้ต้องขังช่วยผลิตเพิ่มเติมได้
ด้านผู้ต้องขังหญิงรายหนึ่ง เปิดเผยด้วยความซาบซึ้งใจว่า รู้สึกปลาบปลื้มที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ ตนและเพื่อนผู้ต้องขังต่างตั้งใจทำด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยความรักและศรัทธา พร้อมตั้งมั่นจะประพฤติตนเป็นคนดีของสังคม เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง