วันอังคาร ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ปชช.เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ
ถวายพระพันปี
หลั่งไหลจากทั่วสารทิศ
รำลึกพระมหากรุณาธิคุณ
รัฐมนตรีกลาโหมอิตาลี
เข้าร่วมถวายสักการะ
“กรมสมเด็จพระเทพฯ” เสด็จฯบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ“สมเด็จพระพันปีหลวง”ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพหน้าพระโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เป็นวันที่ 2ชาวปัตตานีซาบซึ้งพระมหากรุณาธิคุณ‘พระพันปีหลวง’พระราชทานโครงการฟาร์มตัวอย่างช่วยผู้ด้อยโอกาสมีอาชีพ กทม.เผยยอดปชช.เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท วันแรก 8,370คน
เมื่อเวลา 07.40 น.วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปในการบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
สำหรับพระพิธีธรรม สวดพระอภิธรรมรับพระราชทานฉันเช้า เป็นพระสงฆ์ จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และวัดสุทัศนเทพวราราม
ตามที่สำนักพระราชวังได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ หน้าพระโกศ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เป็นวันที่ 2โดยเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคม ทุกวัน เวลา 08.00 - 21.00 น. โดยจะเปิดเป็น 4 ช่วงเวลาดังนี้ ช่วงที่ 1 เวลา 08.00 น.-10.45 น.ช่วงที่ 2 เวลา 12.00 น.-16.45 น. ช่วงที่ 3 เวลา 17.45 น.-18.30 น. และช่วงที่ 4 เวลา 19.45 น.-21.00 น.
เมื่อเวลา 06.00 น. นายไทวุฒ ขันแก้ว รองปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมนายโกศล สิงหนาท ผู้อำนวยการเขตพระนคร และนายปริญญา จันทร์บัว ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตพระนคร ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมบริเวณ ท้องสนามหลวง และพื้นที่โดยรอบ เพื่อเตรียมการอำนวยความสะดวกประชาชนที่เดินทางมาถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ซึ่งวันนี้มีประชาชนจากภูมิภาคต่างๆ เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพฯ เป็นจำนวนมาก ทั้งที่เดินทางมาเองและเป็นหมู่คณะ คาดว่ายอดกราบถวายบังคมพระบรมศพฯ อาจถึงหลักหมื่นคน
ทั้งนี้ เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ขอความร่วมมือทุกท่านแต่งกายชุดสุภาพไว้ทุกข์ ตามที่กำหนด ข้อแนะนำการแต่งกาย สุภาพบุรุษ ชุดสุภาพไว้ทุกข์ (งดกางเกงยีนส์) ส่วนสุภาพสตรี ชุดสุภาพไว้ทุกข์ (สวมกระโปรงหรือผ้านุ่งยาวคลุมเข่าเท่านั้น)
สำหรับบรรยากาศวันนี้ ตั้งแต่เช้าได้มี ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด แต่งกายด้วยชุดสุภาพชุดสีดำไว้ทุกข์ ผ่านจุดคัดกรองที่ท้องสนามหลวง แล้วเดินทางเข้าประตูมณีนพรัตน์ เดินตรงมาแล้วเลี้ยวซ้ายหน้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม นั่งพักภายในระเบียงคต ออกประตูศรีรัตน์ เลี้ยวขวาผ่านพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย และพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท แล้วเดินตรงเข้าประตูพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เข้าไปนั่งยังจุดพัก ก่อนทยอยขึ้นกราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ด้วยความอาลัยยิ่ง โดยมีเจ้าหน้าที่และจิตอาสาฯคอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง
ภายหลังเสร็จพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม พระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รับพระราชทานภัตตาหารเช้าเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ได้เปิดให้ผู้สูงอายุและผู้พิการเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพก่อนตามด้วยประชาชนทั่วไป
ด้านนางศรีเวียง จันทร์แก้ว อายุ 69 ปี ชาว ต.ลำนาว อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า เดินทางมากับเพื่อนบ้าน ตั้งใจมากราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระพันปีหลวง
“ตอนอายุประมาณ 15 ปี เคยรับเสด็จ ในหลวงรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระพันปีหลวง กรมสมเด็จพระเทพฯ และเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ เสด็จฯไปทรงวางศิลาฤกษ์ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง ในตอนนั้นรู้สึกดีใจที่ได้เฝ้ารับเสด็จฯ สมเด็จพระพันปีหลวงท่านสวยงามมาก พูดเพราะ ทรงมีพระเมตตากับประชาชน เป็นภาพที่อยูในใจตลอดมา แต่วันนี้รู้สึกเศร้าใจที่ไม่ได้เห็นสมเด็จพระพันปีหลวงอีกแล้ว ก็ขอให้พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัยได้ไปอยู่กับในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ผ่านมาท่านทรงงานเหนื่อยเสด็จฯไปคอยช่วยเหลือประชาชนทุกหนแห่งที่เดือดร้อน พระองค์ท่านเหยียบผืนแผ่นดินตรงไหน ประชาชนก็มีความอุดมสมบูรณ์มีความสุข“ นางศรีเวียง กล่าวด้วยน้ำตาแห่งความอาลัย
ขณะที่ ดร.ประภัสสร ขวัญตะโผะ ปลัด อบต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี กล่าวว่า เดินทางมาพร้อมกับคณะนักเรียนผู้สูงอายุ โรงเรียนสูงวัยทักษิณานาเขต อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ตั้งใจพาผู้สูงอายุมากราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระพันปีหลวง ที่ผ่านมาในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระพันปีหลวง เสด็จไปเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ภาคใต้บ่อยครั้ง ทรงสอนให้ประชาชนมีอาชีพต่างๆ และทรงพระราชทานโครงการฟาร์มตัวอย่าง ใน อ.สายบุรีและอีกหลายพื้นที่มากมายในจังหวัดภาคใต้ ทำให้ชาวบ้านมีอาชีพมีรายได้จากการปลูกพืชผัก เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ ทอผ้า หลายคนก็ยังยึดเป็นอาชีพหลักโครงการฟาร์มตัวอย่าง ช่วยส่งเสริมให้ประชาชนผู้ด้อยโอกาส ได้มีอาชีพ เช่น การทอผ้า เป็นการอนุรักษ์ผ้าพื้นถิ่นของจังหวัดปัตตานี มีลายผ้าพระราชทาน ทำให้ชาวบ้านที่ไม่มีโอกาส และสตรีหรือหญิงหม้าย ที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบได้รับพระราชทานโอกาสให้ได้มาฝึกอาชีพให้มีอาชีพสร้างรายได้ดูแลตนเองได้ ทำให้คุณภาพชีวิตประชาชนดีขึ้น ก็รู้สึกภูมิใจที่พระองค์ท่านได้ทำสิ่งต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชน มองเห็นถึงปัญหาของบ้านที่เป็นรากหญ้าจริงๆ
“สิ่งที่พระองค์ท่านทำ ชาวบ้านและผู้พิการหลายรายใน จ.ปัตตานี โดยพระองค์รับไว้เป็นคนไข้ในพระอุปถัมภ์ ทำให้ผู้ที่พิการกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ ได้เรียนหนังสือ ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นที่สมเด็จพระพันปีหลวงได้ดูแลประชาชนหาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้ว พวกเราประทับใจในสิ่งที่พระองค์ท่านทำให้กับชุมชนและชาวบ้าน ตั้งใจว่าจะเดินทางมากราบพระองค์ท่านอีกและจะพาคณะอื่นในหมู่บ้านมาอีก ทุกครั้งที่พระองค์เสด็จฯ จ.ปัตตานี ก็จะไปรอรับเสด็จทุกครั้ง วันนี้ได้มากราบสักการะพระองค์ท่านก็น้ำตาไหล ขอให้พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย” ดร.ประภัสสร กล่าว
เพจ“กรุงเทพมหานคร”เปิดเผยว่าสำนักพระราชวังได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายหลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 15 วัน โดยจะเปิดให้เข้ากราบถวายบังคมทุกวัน เวลา 09.00 – 21.00 น. เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 9 พ.ย. 2568 เป็นต้นไป
ตามประกาศของสำนักพระราชวัง ได้มีการจัดระเบียบและอำนวยความสะดวกในการเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ โดยเปิดให้ประชาชนเข้าได้ใน 4 ช่วงเวลา ได้แก่ ช่วงที่ 1 เวลา 08.00 น.-10.45 น. ช่วงที่ 2 เวลา 12.00 น.-16.45 น. ช่วงที่ 3 เวลา 17.45 น.-18.30 น. ช่วงที่ 4 เวลา 19.45 น.-21.00 น.
ทั้งนี้ กทม. เปิดให้ประชาชนเข้าจุดพักคอย ได้ตั้งแต่เวลา 07.30 น. จนถึงเวลา 21.00 น. โดยมีประชาชนเข้ากราบถวายบังคมรวมทั้งสิ้น 8,370 คน (ข้อมูลวันที่ 9 พ.ย. 68 เวลา 21.00 น.)
ในการนี้ กรุงเทพมหานครจัดเจ้าหน้าที่และจิตอาสาร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกอย่างรอบด้าน ทั้งการจราจร การแพทย์ฉุกเฉิน การรักษาความสะอาดและความปลอดภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครประชาสัมพันธ์คอยแนะนำจุดบริการ จุดพักคอย และเส้นทางเข้าออกอย่างเป็นระบบ ซึ่งจุดพักคอยสามารถรองรับประชาชนได้สูงสุด 9,000 คน พร้อมบริการน้ำดื่ม ห้องสุขา และเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดเวลา เพื่อให้การเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ
นอกจากนี้ ยังมีจุดบริการยืม–คืนเครื่องแต่งกายสุภาพ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่แต่งกายไม่ครบถ้วนตามระเบียบ
สำหรับการแต่งกายของผู้ที่จะมากราบถวายบังคมพระบรมศพ ขอความร่วมมือให้ทุกคนโปรดแต่งกายสุภาพไว้ทุกข์ (สีดำ, ขาว) เสื้อคอปก งดแขนกุด ชุดชาวเขาสำหรับชาวเขา ชุดลูกเสือสำหรับลูกเสือ สุภาพสตรีต้องสวมกระโปรงผ้าหรือผ้าถุงเท่านั้น งดสวมกระโปรงยีนส์ หรือกางเกงยีนส์.