วันอาทิตย์ ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ปชช.หลั่งไหลกราบพระบรมศพ
พระพันปีหลวง
ถวายอาลัยช่วงวันหยุดแน่นขนัด
สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
รบ.อำนวยความสะดวกเต็มที่
ประชาชน-คณะบุคคล ใช้โอกาสวันหยุดราชการเดินทางเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ “สมเด็จพระพันปีหลวง” ขณะที่ ภาครัฐ จัดรถอำนวยความสะดวกประชาชนต่างจังหวัด เริ่ม 17 พฤศจิกายนนี้
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 สำหรับบรรยากาศที่พระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นวันที่ 7 ของการเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยประชาชนทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ อาศัยวันหยุดสุดสัปดาห์ซึ่งส่วนใหญ่มาเป็นหมู่คณะและมาเป็นครอบครัว ทยอยเดินทางเข้าถวายความอาลัยด้วยความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานับประการเพื่อช่วยเหลือพสกนิกรให้มีอาชีพมีรายได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ จิตอาสาคอยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ตั้งแต่การจัดระเบียบแถวการให้ข้อมูลดูแลความปลอดภัย บริการที่นั่งพัก บริการน้ำดื่ม รวมถึงช่วยเหลือผู้สูงอายุและผู้ที่มีข้อจำกัดด้านร่างกาย เพื่อให้ประชาชนทุกคนที่ตั้งใจเดินทางมาสามารถเข้ากราบถวายบังคมฯอย่างเรียบร้อยและสมพระเกียรติฯ
พสกนิกรกราบพระบรมศพ
นอกจากนี้ ยังมีคณะบุคคลต่างๆเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ และวางพวงมาลาถวายราชสักการะ อาทิ ราชินิกุลวงศ์ แสง-ชูโต คณะผู้บริหาร ครู โรงเรียนปิยบุตรศึกษากร จ.ตรัง และโรงเรียนมัธยมวัดควนวิเศษมูลนิธิ จ.ตรัง เป็นต้น
ด้าน นายจำลอง มารยาทอ่อน อายุ 74 ปี ประชาชนจาก จ.อุทัยธานี เดินทางมาพร้อมกับ นางอัมพร มารยาทอ่อน และลูกสาว นั่งรถตู้เดินทางมาพร้อมกับเพื่อนบ้าน โดยนางอัมพร กล่าวถึงความรู้สึก ว่า ดีใจที่ได้เดินทางมาเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เคยเฝ้ารับเสด็จในหลวง ร.9 และสมเด็จพระพันปีหลวง เมื่อครั้งเสด็จไปวัดจันทาราม(วัดท่าซุง) จ.อุทัยธานี นานหลายปีมาแล้ว ซึ่ง จ.อุทัยธานี มีโครงการทอผ้าของสมเด็จพระพันปีหลวงท่านส่งเสริมหลายโครงการเพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาและส่งเสริมการทอผ้าพื้นเมือง ผ้าทอลายโบราณที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น มีศูนย์ผ้าทอโบราณบ้านผาทั่ง สืบทอดลวดลายจากกลุ่มชาติพันธุ์ลาวครั่ง และกลุ่มทอผ้าบ้านนาตาโพ เป็นกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองลาวครั่ง มีโครงการของศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงที่พัฒนาผ้าทอมือกลุ่มกะเหรี่ยง นอกจากนี้ ยังมีโครงการผ้าทอพื้นถิ่น “ลายอุทัยสุพรรณิการ์” ที่ได้แรงบันดาลใจจากดอกไม้ประจำจังหวัด
“ประทับใจที่สุดที่ในหลวง ร.9 และสมเด็จพระพันปีหลวง ทรงพระราชทานโครงการทุกอย่างไว้สามารถช่วยเหลือราษฎรได้จริง ตอนในหลวง ร.9 เสด็จสวรรคตตนเดินทางมากราบกว่า 20 ครั้ง วันนี้พร้อมครอบครัวมาเป็นครั้งแรก แต่ตั้งใจจะเดินทางมากราบพระบรมศพอีก เพราะคิดถึงพระองค์ตลอดก็อยากเดินทางมา วันที่รู่ว่าสมเด็จพระพันปีหลวงสวรรคต ตอนนั้นอยู่ที่บ้านก็รู้สึกเสียใจมากร้องไห้ วันนี้พูดถึงพระองค์ท่านก็น้ำตาไหลอีก” นางอัมพร กล่าว
ชาวบ้านเดินทางมาจากปักษ์ใต้
ขณะที่ นางสำรวญ จันทรสุริ อายุ 75 ปี ชาว ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร กล่าวว่า เดินทางมาพร้อมกับเพื่อนบ้านโดยรถบัส 1 คัน ทุกคนตั้งใจเดินทางมากราบพระแงค์ท่าน ชาวบ้านใน จ.ชุมพร ที่ยากจนได้รับควา ช่วยเหลือจากสมเด็จพระพันปีหลวงและในหลวง ร.9 ทรงพระราชทานโครงการแกล้มลิง ทำให้ จ.ชุมพร น้ำไม่ท่วมแล้ว เมื่อปี 2513 จ.ชุมพร ประชาชนลำบากมากเพราะประสบปัญหาน้ำท่วมหนัก แต่หลังจากที่มีโครงการแกล้มลิง มีการขุดคลองระบายน้ำ ตอนนี้น้ำไม่ท่วมแล้ว ทุกคนรู้สึกเสียใจมากที่ทราบว่าพระองค์สวรรคตและตั้งใจจะเดินทางมากราบอีก และจะมางานพระราชทานเพลิงศพพระองค์ด้วย ซึ่งเมื่อครั้งงานสมเด็จย่า สมเด็จพระพี่นางฯ และในหลวง ร.9 พวกเราก็เดินทางมากราบและมางานพระราชทางเพลิงศพด้วย
ส่วนนางกรรณิการ์ ศรีมงคล อายุ 74 พี่คนที่ 2 จากพี่น้องท้องเดียวกัน 11 คน โดยวันนี้พี่น้องเดินทางมา 4 คน กับหลาน 2 คน นั่งรถทัวร์ประจำทางตั้งใจมากราบสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระพันปีหลวง โดยมาเป็นครั้งแรก ตนไม่เคยได้รับเสด็จสมเด็จพระพันปีหลวง แต่เคยเดินทางมากราบสักการะพระศพสมเด็จพระพี่นางฯ และในหลวง ร.9 ด้วย ซึ่งที่ จ.ศรีสะเกษ มีโครงการในพระราชดำริ และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โครงการเกี่ยวกับผ้าไหม สมเด็จพระพันปีหลวงองค์เสด็จไปส่งเสริมการปักเสื้อ(แซวเสื้อศรีสะเกษ)โดยใช้มือปักลวดรายเป็นลายประจำถิ่นของ จ.ศรีสะเกษ และส่งเสริมการเลี้ยงหม่อน-ไหม การทอผ้า ทอเสื่อ การสานเครื่องประดับ ของชำร่วย ประทับใจทุกอย่างที่พระองค์เสด็จไปทรงส่งเสริมให้คนในหมู่บ้านมีได้มีอาชีพเสริม หลังจากทำนาทำไร่เสร็จ เพื่อให้มีรายเพิ่ม พวกเราเสียใจมากที่สูญเสียพระองค์ท่านไป ถ้ามีโอกาสก็อยากจะมากราบอีกครั้งด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการชุมตรวจสอบความพร้อมและตรวจพื้นที่บริการประชาชน ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและจัดการจราจร งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ร่วทกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมอำนวยความสะดวกประชาชนอย่างเต็มที่