ในหลวง พระราชทานรางวัล แข่งเรือใบภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า พระราชินี ทรงรับถ้วยรองชนะเลิศอันดับ 1

ในหลวง พระราชทานรางวัล แข่งเรือใบภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า พระราชินี ทรงรับถ้วยรองชนะเลิศอันดับ 1

วันเสาร์ ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 17.21 น.

‘ในหลวง‘ พระราชทานถ้วยรางวัลนักกีฬาเรือใบ“ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่37  “พระราชินี” ทรงรับถ้วยรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง

วันที่  6 ธ.ค.68  เวลา   08.22 น.  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี     เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขันเรือใบนานาชาติชิงถ้วยพระราชทาน “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 ประจำปี 2568 ณ โรงแรมบียอนด์ กะตะ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต โดยมี พลเรือเอก ไพโรจน์  เฟื่องจันทร์ ผู้บัญชาการทหารเรือ  พลเรือเอก สมประสงค์  นิลสมัย  นายกสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์  นายประมุขพิสิฐ และนางธันยรัศม์  อัจฉริยะฉาย ประธานกรรมการบริหาร เครือกะตะกรุ๊ป รีสอร์ท  คณะกรรมการจัดการแข่งขัน ฯ  และนักกีฬา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ

 จากนั้น เสด็จไปยังห้องบรรยาย ทรงรับฟังการบรรยายสรุปข้อมูลการแข่งขันเรือใบ เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปยังบริเวณชายหาดกะตะ หน้าโรงแรมบียอนด์ กะตะ เพื่อประทับเรือพระที่นั่ง ไปส่งเสด็จ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ยังเรือใบหมายเลขใบเรือ THA72 เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันเรือใบนานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทาน “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 ประจำปี 2568

เมื่อสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ประทับเรือใบ THA72 เรียบร้อยแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินกลับโรงแรมบียอนด์ กะตะ ที่ประทับ

จากนั้นเวลา 10.25 น. สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงร่วมการแข่งขันเรือใบ นานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทาน “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 ประจำปี 2568 ในทีมเรือใบวายุ รุ่น ไออาร์ซี ซีโร (IRC Zero) หมายเลขใบเรือ THA72  โดยในวันนี้เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ  โดยทรงทำหน้าเป็นเนวิเกเตอร์ หรือนักกลยุทธ์ของเรือ  ด้วยทรงมีพระปรีชาสามารถด้านการบินจึงทรงทำให้สามารถคำนวณทิศทางลมอันแปรเปลี่ยนในทะเลได้อย่างแม่นยำ เพราะ หัวใจสำคัญของการแข่งขันกีฬาเรือใบ คือ ต้องใช้ลม เพื่อดันใบเรือให้แล่นไปในทิศทางที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย 

ด้วยพระปรีชาสามารถ และพระวิริยะอุตสาหะ อีกทั้งยังทรงเป็นมิ่งขวัญและกำลังใจของสมาชิกบนเรือทุกคน จึงทำให้ เรือวายุเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1  ในเรซที่ 8 รวมการแข่งขัน 8 เรซ ทีมวายุมีคะแนนรวมเป็นอันดับที่ 2 

ทั้งนี้สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงเข้าร่วมการแข่งขันเรือใบนานาชาติชิงถ้วยพระราชทาน “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 ประจำปี 2568  นับเป็นเกียรติประวัติอันสำคัญยิ่ง เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงพระราชปณิธาน ที่ทรงสืบสานกีฬาเรือใบของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับชาติ และระดับนานาชาติ ซึ่งกีฬาเรือใบถือเป็นกีฬาระดับสากล ที่ทรงส่งเสริมและสร้างแรงบันดาลใจแก่นักกีฬาเรือใบรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเยาวชนให้ได้ฝึกฝนทักษะ และพัฒนาต่อยอดการเล่นเรือใบสู่การแข่งขันในระดับสากลที่จะทำให้กีฬาเรือใบมีความเจริญก้าวหน้าต่อไป

โดยในปีมีนักแข่งขันเรือใบจากทั่วทุกมุมโลก และเข้าร่วมการแข่งขันเป็นจำนวนมาก ประกอบด้วยเรือใหญ่ เรือเล็ก และเรือคนพิการ จำนวนรวม 120 ลำ และมีผู้เข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 450 คน จากประเทศต่าง ๆ อาทิ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สวีเดน เบลเยี่ยม จีน เยอรมนี สิงคโปร์ มาเลเซีย ฝรั่งเศส เป็นต้น 

เมื่อจบการแข่งขัน  สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ประทับเรือพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับมายังชายหาดกะตะ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับรอ ณ ที่นั้น ในโอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับคณะนักกีฬาเรือใบ THA72 และคณะทำงานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า 

ต่อมาเวลา  15.16  น.  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ ห้องกานดา ฮอลล์ โรงแรมบียอนด์ กะตะ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายกสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรการจัดงาน ฯ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  พลเรือเอก กรวิทย์  ฉายะรถี ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรการจัดงาน ฯ แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ฯ กราบบังคมทูลรายงาน
วัตถุประสงค์การจัดงาน ฯ และพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลเรือเอก ไพโรจน์  เฟื่องจันทร์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย 

เสร็จแล้ว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายธอมัสอาร์เตอร์  วิทคร๊าฟท์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลรายงานผลการแข่งขัน และพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานถ้วยรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง

จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ผู้ชนะการแข่งขันประเภทต่าง ๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานรางวัล และผู้ให้การสนับสนุนการแข่งขัน ฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานโล่ที่ระลึก ตามลำดับ สมควรแก่เวลา จึงเสด็จออกจากห้องกานดา ฮอลล์ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานภูเก็ต อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร

การแข่งขันเรือใบนานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทาน “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2530 ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  ทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษาโดยสโมสรเรือใบราชวรุณ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กองทัพเรือ สมาคมกีฬา   แข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และจังหวัดภูเก็ต 
และการแข่งขันกีฬาเรือใบนานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทาน 

โดยการจัดการแข่งขัน “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 ประจำปี 2568 ในครั้งนี้จัดขึ้น พื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงเป็นนักกีฬาเรือใบ ทรงพระปรีชาสามารถ และทรงประสบความสำเร็จในระดับสากล อันเป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติ และเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ที่ทรงสืบสานกีฬาเรือใบของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับชาติ และระดับนานาชาติ
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top