“..เพื่อให้การรักษาความสงบ และการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลเข้ามารายงานตัว ณ ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ในวันที่..”
นับจาก “รัฐประหาร” เมื่อ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ “คสช.” ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นหัวหน้าคณะ ก็มีคำสั่งลักษณะข้างต้นออกมาแทบทุกวัน
เป็น “คำสั่ง” ที่อาจมาพร้อมข้อสงสัยของใครบางคนว่า “ขั้นตอน” การรายงานตัวเป็นเช่นไร และทำไมต้อง “ห้องจามจุรี”...???
ว่ากันถึงห้องจามจุรี ที่ในยาม “ไม่ปกติ” เป็นห้องรอรับบุคคลที่ถูกเรียกมารายงานตัว แต่ในยาม “ปกติ” ห้องนี้เป็นหนึ่งในห้องจัดเลี้ยงของสโมสรทหารบก เทเวศร์ อยู่ภายใต้การดูแลของ “กรมสวัสดิการทหารบก” ทหาร ตำรวจ ภาครัฐหรือเอกชน สามารถติดต่อขอใช้เพื่อจัดเลี้ยงต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นงานรื่นเริงหรืองานสัมมนาวิชาการ
แม้แต่ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ก็ยังเคยใช้ห้องจามจุรีในการต้อนรับเยาวชนในโครงการ “เยาวชนหัวใจเดียวกัน รุ่น2” ของสำนักงานศาลยุติธรรม ที่เดินทางมาเยี่ยมคารวะ เมื่อกลางปีที่ผ่านมาด้วย
แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ “งานแต่งงาน” เพราะ “ห้องจามจุรี” ถือเป็นสถานที่ยอดนิยมแห่งหนึ่งของบรรดาคู่บ่าว-สาวที่กำลังมองหาสถานที่ประกาศ “สละโสด”!!!
สำหรับสโมสรทหารบก เทเวศร์ ถือเป็นสถานที่ปิด ง่ายต่อการรักษาความปลอดภัย เข้า-ออกได้หลายทาง เดินทางสะดวก โดยห้องจามจุรี ถือว่าอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่พอดี เพราะตั้งอยู่ด้านในสุด มีตึกส่วนต่างๆของสโมสรทหารบกล้อมรอบ ถ้าไม่สังเกตคนภายนอกจะมองไม่เห็น ลักษณะห้องถูกออกแบบไว้ให้รองรับงานจัดเลี้ยง เป็นห้องโทนสีทอง รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านหน้ายกสูงเป็นเวที บรรจุได้ราว 300 คน
ที่สำคัญ ห้องจามจุรีอยู่ใกล้กองบัญชาการกองทัพบก ที่ คสช.ใช้เป็นสถานที่บริหารราชการแผ่นดิน จึงไม่แปลกที่จะห้องจามจุรีถูกแปรสภาพจากห้องจัดเลี้ยงแสนรื่นรมย์ เป็นสถานที่รายงานตัวของบุคคลกลุ่มต่างๆ กลายเป็น “ด่านแรก” ที่ผู้ถูกเรียกตัวต้องมาเยือน ก่อนเข้าสู่กระบวนการตัดสินว่าจะได้ “อยู่ต่อ” หรือปล่อยตัวไป ถ้าเลือกได้เชื่อว่าในห้วงสถานการณ์เช่นนี้ใครหลายคนคงไม่อยากได้รับ “เทียบเชิญ” ให้มายังสถานที่แห่งนี้
สำหรับห้องจามจุรี เวลานี้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ “ด้านหน้า” ใช้เป็นจุดให้ผู้ที่ถูกเรียกมารายงานตัวนำเอกสารมาแสดงตน ซึ่งจะมีฝ่ายธุรการจากสำนักงานเลขานุการกองทัพบกเป็นหน่วยงานที่คอยรับเรื่อง ส่วน “ด้านหลัง” เป็นที่นั่งรอของผู้ติดตามที่มากับผู้ที่มารายงานตัว หลังจากลงชื่อ ลงเวลาแล้ว จะมีการซักถามประวัติพอสังเขป เสร็จแล้วก็มานั่งรอการเรียกชื่อเข้า “ห้องสอบสวน” ที่แยกออกไปไม่ไกลจากห้องจามจุรีทีละคน
มาต่อที่ “ขั้นตอน” การสอบสวน จะมี พล.ท.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เป็นผู้ดูแล ซึ่งระหว่างนั่งรอ พล.ท.ไพบูลย์ เดินทางมาถึง ไม่ต้องกลัว “หิว” เพราะเจ้าหน้าที่จะมีอาหารว่าง เช่น กาแฟ ขนมปัง ไว้คอยบริการให้นั่งรอกันแบบ “ชิลๆ”
เมื่อ พล.ท.ไพบูลย์ เดินทางมาถึง บุคคลที่มารายงานตัวจะต้องเข้าไปพูดคุยกับ พล.อ.ไพบูลย์ ที่ห้องรับรองชั้น 1 ของกรมสวัสดิการทหารบก หรือห้องพักรับรอง ผบ.เหล่าทัพ ซึ่งใน “ห้องสอบสวน” อย่างกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ “คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” ว่ากันว่ามีคณะกรรมการสอบสวนประมาณ 10 คน นั่งล้อมผู้ถูกสอบเป็นรูปตัว U “เนื้อหา” การสอบสวน เช่น ข้อมูลที่อยู่อาศัย การศึกษา , ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำความผิดต่อความมั่นคง , ทัศนคติเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และทัศนคติเกี่ยวกับการรัฐประหาร
หลังสอบสวนเสร็จผู้ถูกสอบสวนจะถูกนำตัวไปอีกห้องหนึ่ง เพื่อลงชื่อบันทึกการให้ปากคำ ส่วนจะได้รับการปล่อยตัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับ “คณะสอบสวน” ถ้ามีคำสั่งให้ “ปล่อยตัว” ก็จะได้รับอิสรภาพทันที โดยมี “เงื่อนไข” ว่า 1.จะไม่ออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุมัติจากหัวหน้า คสช. 2.จะละเว้นการเคลื่อนไหวชุมนุมทางการเมือง และ 3.หากฝ่าฝืนเงื่อนไขดังกล่าวหรือช่วยเหลือสนับสนุนกิจกรรมทางการเมือง ต้องยินยอมที่จะถูกดำเนินคดีทันทีและยินยอมถูกระงับธุรกรรมทางการเงิน
ถ้าไม่มีคำสั่งปล่อยตัวก็ต้องถูก “กักตัว” อย่างบางกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ “คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” ถูกส่งไปที่เรือนจำทหาร จ.นครปฐม , ค่ายทหารที่ราชบุรี และค่ายทหารที่ปราจีนบุรี ฯลฯ ซึ่ง คสช.หวังว่าจะเป็นการช่วยละลายพฤติกรรมของกลุ่มคนเหล่านี้ได้ โดยผู้ที่ถูกกักตัวจะได้รับอิสรภาพก็ต่อเมื่อ “เข้าค่าย” ครบ 7 วันแล้ว
อย่างไรก็ดี ด้วยความเดือดร้อนของลูกค้าจำนวนมากที่ไม่สามารถใช้ห้องจามจุรีเป็นสถานที่จัดเลี้ยงได้ ทำให้ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา คสช.ได้ตัดสินใจ “เลิกใช้” ห้องจามจุรีเป็นสถานที่รายงานตัวแล้ว โดยเปลี่ยนไปใช้หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ แทน
ถือเป็นการสิ้นสุดหน้าที่ของ “ห้องจามจุรี” ไปโดยปริยาย.....
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี