วันพฤหัสบดี ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / สกู๊ปพิเศษ
ต่ออายุทำงาน‘ผู้สูงวัย’ ทำได้ถ้า‘สังขาร’พร้อม!!

ต่ออายุทำงาน‘ผู้สูงวัย’ ทำได้ถ้า‘สังขาร’พร้อม!!

วันศุกร์ ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558, 02.00 น.
Tag :
  •  

ประเทศไทยของเรา ณ วันนี้ได้เข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” เรียบร้อยแล้ว ดังที่มีการประมาณว่า ปัจจุบันเรามีผู้สูงอายุ (วัย 60 ปีขึ้นไป) ราว 6-6.5 ล้านคน หรือร้อยละ 10 ของประชากรทั้งประเทศ และคาดว่าอีก 20 ปีข้างหน้า เราจะเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุอย่างสุดยอด” หรือมีประชากรผู้สูงอายุมากถึงร้อยละ 25 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งหากไม่มีมาตรการรองรับ ก็จะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม แนวคิดหนึ่งที่น่าสนใจ คือการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุที่ “สุขภาพยังดี-สังขารยังอำนวย” สามารถทำงานต่อไป หรือการ “ยืดอายุเกษียณ”ซึ่งหลายประเทศเริ่มใช้นโยบายนี้แล้ว สำหรับประเทศไทย ศูนย์สำรวจความคิดเห็น สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA Poll) สำรวจกลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุในหัวข้อ “ผู้สูงอายุไทยกับการทำงาน” จำนวน 1,250 คน เมื่อ 8-9 เม.ย. 2558 ที่ผ่านมา

พบว่า ผู้สูงอายุร้อยละ 46.24 ระบุว่า ยังทำงานอยู่ โดยส่วนใหญ่ ร้อยละ 67.13 ให้เหตุผลเพราะว่า สุขภาพยังดีอยู่ รองลงมา ร้อยละ 57.96 ระบุว่า ต้องการรายได้ ร้อยละ 23.01 ระบุว่า เกื้อกูลลูกหลานได้ ร้อยละ 15.05 ระบุว่า ไม่เหงา มีเพื่อนฝูง ร้อยละ 0.35 ระบุว่า อื่นๆ ได้แก่ ทำงานให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม และเป็นการทบทวนความรู้

“ถ้าลูกๆ มองว่าการที่ให้พ่อแม่ทำงานอยู่เป็นการไม่ดูแลพ่อแม่ จะบอกลูกว่าอย่างไร? ก็จะบอกลูกว่าเป็นความสุขของแม่ พอเราเองก็อยู่พอได้พอประมาณแล้วพอเห็นเพื่อนๆ พูด ผู้สูงวัยด้วยกันมีความเดือดร้อนค่ารายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย แล้วครอบครัวก็ไม่มีเงิน เราทำตรงนี้ ได้ทำเพื่อสังคมด้วยเราก็เกิดการมีความสุขกับการทำตรงนี้ แต่ถ้าถามว่าตอนป้าอายุ 40 กว่าปี ป้าเย็บเสื้อผ้าไม่ค่อยสวยนะ ไม่เก่ง แต่ ณ ปัจจุบันนี้เก่งละ เพราะว่าสอนเด็กได้แล้วเด็กก็เชื่อเรา ก็รู้สึกว่าตัวเองยังใช้ได้อยู่นะ 60 กว่าปียังใช้ได้อยู่”

นางทองล้วน น้อยบุตร อาชีพช่างตัดเย็บเสื้อผ้า บอกเล่าด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ในงานเสวนา “มาตรการส่งเสริมการทำงานต่อเนื่องของผู้สูงอายุ” เมื่อปลายเดือนเมษายน 2558 ณ โรงแรมเซนทรา ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. เนื่องจากทุกวันนี้แม้ตนจะอายุ 65 ปีมาแล้ว แต่ยัง “สนุกกับการทำงาน” แม้ว่าลูกจะส่งเงินมาให้ใช้อยู่บ่อยๆ

นางทองล้วน เล่าต่อไปว่า ปัจจุบันเป็นวิทยากรสอนตัดเย็บเสื้อผ้า เพราะการอยู่เฉยๆ กลับรู้สึกเบื่อหน่าย ตรงข้ามกับการได้ทำงาน ถือเป็นการออกกำลังกายและผ่อนคลายจากความเหงา แม้จะเหนื่อยในบางครั้ง แต่ก็มีความสุขในการทำสิ่งที่ตนเองรัก แม้จะมีปัญหาสุขภาพอยู่บ้างก็ตาม และยินดีที่จะทำงานหาเลี้ยงตนเอง ดีกว่าไปเป็นภาระลูกหลานเพียงอย่างเดียว

“จริงๆตอนนี้ก็ค่าใช้จ่ายเพียงพอเพราะลูกก็ให้อยู่ แต่เราไม่มีความสุข คือถ้าเราได้ทำงาน เราก็ได้ออกกำลังกายด้วย บางครั้งก็เหนื่อยเหมือนกันนะ เหนื่อยแต่มีความสุขในการทำงาน แต่บางครั้งร่างกายเราก็ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไร บางทีมันมีอุปสรรคเรื่องสายตา สุขภาพ ทีนี้ก็ต้องไปหาคุณหมอบ่อยๆ อุปสรรคเกี่ยวกับสุขภาพ มีบ้างแต่ก็ทำไหวอยู่ ไม่เครียดเลย ชีวิตมีความสุขมาก ถ้าจะเครียดขอวันละ 20 นาทีแล้วกัน นอกนั้นมีความสุขหมด” คุณป้าทองล้วน ระบุ

สอดคล้องกับเรื่องเล่าของฝ่ายผู้ประกอบการ นายสนธยา อินขำ ผู้จัดการฝ่ายบุคคล บริษัท โรงเส้นหมี่ชอเฮง จำกัด กล่าวว่า สำหรับบริษัทของตนนั้นต้องขอชื่นชมผู้บริหาร ที่มีนโยบายเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุที่ยังมีความพร้อมได้ทำงาน โดยเฉพาะพนักงานฝ่ายผลิตที่มีความชำนาญงานสูงให้ช่วยเป็นพี่เลี้ยงสอนงานพนักงานใหม่ หรือเป็นแม่บ้านดูแลความสะอาด นอกจากนี้ยังมีการติดตามสำรวจเพื่อเปรียบเทียบระหว่างผู้สูงอายุที่ยังทำงานอยู่ กับผู้สูงอายุที่ออกไปอยู่บ้าน พบว่าผู้สูงอายุกลุ่มแรก ค่อนข้างมีสุขภาพจิตที่ดี มีความสุขกว่าผู้สูงอายุกลุ่มหลังด้วย

“เราอยากเน้นให้เขามาทำงาน มีเพื่อน ได้มาคุยกับลูกกับหลาน ได้มาออกกำลังกาย บางทีก็ให้อยู่ในสายผลิต มีทักษะ ประสบการณ์ มาทำงานได้ไหม คอยสอนเด็กๆ ลูกๆ หลานๆ หรือถ้าไม่ไหวจริงๆ มาเป็นแม่บ้านได้ไหม ทำความสะอาดได้ไหม เพราะอย่างน้อยที่เขามาทำงานก็เป็นการออกกำลังกาย เป็นมุมมองที่บริษัทมอง การปัดกวาดถู เป็นการออกกำลังกายไปในตัว มันไม่ได้เป็นเรื่องผลผลิตว่าต้องสะอาด เนี้ยบเหมือนโรงแรม มันก็ไม่ขนาดนั้น

พนักงานที่ลาออก ประสงค์จะออก หรือว่าเรามองจากหลายๆ ที่ ก็จะสังเกตว่าสังคมไทย ลูกหลานทำงานเป็นส่วนมาก ผู้สูงอายุกลับไปบ้านไม่ได้ทำงาน ส่วนมากก็อยู่คนเดียวที่บ้าน ปลูกต้นไม้ เลี้ยงสัตว์ คุยกับสุนัข คุยกับแมวไป ลูกหลานไม่อยู่บ้าน ไม่รู้จะสนทนากับใคร เพราะฉะนั้นคนพวกนี้ค่อนข้างจะทรุดเร็ว ในส่วนของร่างกาย เพราะเรามีการติดตามอยู่เคสหนึ่งอายุ 70 กว่าแล้วก็ออก ออกไปได้ประมาณ 2 ปี เสียชีวิตเพราะอยู่บ้าน ไม่ได้ทำไรเลย วันๆ ก็นั่งๆ นอนๆ ไม่ก็ดูทีวี. คุยก็ไม่รู้จะคุยกับใครลูกก็ไปทำงาน หลานก็ไปเรียน เจอกันอีกทีตอนเย็น” นายสนธยา กล่าว

ด้าน รศ.ดร.วรเวศม์ สุวรรณระดา อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความเห็นว่า เรื่องนี้ถือเป็นความท้าทายมาก เพราะขณะที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว แต่ทัศนคติของคนไทยยังมองการทำงานของผู้สูงอายุในทางที่ไม่ดีอยู่ ทั้งในมุมลูกหลานที่อาจถูกตำหนิได้ว่าทอดทิ้งไม่ดูแลพ่อแม่ และในมุมของผู้ประกอบการที่ไม่มั่นใจว่าหากจ้างผู้สูงอายุทำงาน จะมีศักยภาพคุ้มค่ากับค่าแรงที่จ่ายไปหรือไม่?

“อุปสรรคเกี่ยวกับการทำงานต่อเนื่องของผู้สูงอายุ ถ้าเราดูในเรื่องของผู้สูงอายุเองประเด็นหลักๆ คงเป็นเรื่องของสุขภาพ เรื่องสมรรถนะ ทักษะ ความสามารถการเรียนรู้หรือทักษะในเรื่องของเทคโนโลยีใหม่ ครอบครัวเองก็เป็นอีกอุปสรรคหนึ่งในเรื่องของทัศนคติที่จะให้พ่อแม่เราไปทำงาน บางครั้งบางบ้านพ่อแม่ทำงานแล้วรู้สึกเหมือนกับว่าไม่เลี้ยงดูพ่อแม่ ตัวลูกหลานเองก็อาจจะเกิดปัญหา อีกส่วนหนึ่งในฝั่งของนายจ้าง บางครั้งอาจมีนายจ้างที่คิดว่าถ้าเราไม่จ้างคนที่สูงอายุ เงินเดือนแพงแล้วเขาจะทำงานคุ้มไหม

คือเปรียบเทียบค่าจ้างกับศักยภาพของผู้สูงอายุอาจจะเสียมากกว่าได้เลยไม่จ้าง ส่วนหนึ่งผมคิดว่าหลายคนก็คงทราบกรณีของคนที่มีอายุมาก หรือผู้สูงอายุในเรื่องประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของงานก็น่าคิดเหมือนกัน เวลาเราชั่งด้านต้นทุนเป็นอย่างไร ที่เราจ่ายให้ผู้สูงอายุ ว่าสิ่งที่เราได้กลับมาท่านอาจจะทำงานได้ไม่เต็มศักยภาพเลย แต่ว่าด้วยความเชี่ยวชาญทักษะของท่านที่สะสมมานานมันก็อาจจะทำให้คุ้มค่าก็ได้” อาจารย์วรเวศม์ ฝากทิ้งท้าย

ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าผู้สูงอายุไม่น้อยยังต้องการทำงานต่อแม้เลยวัยเกษียณ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่าหลายรายมีเรื่องของสุขภาพเป็นอุปสรรคสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับการสำรวจของนิด้าโพลล์ข้างต้น ที่ระบุว่าร้อยละ 46.00 ตอบว่าเห็นด้วยกับการต่ออายุการทำงาน ในจำนวนนี้ร้อยละ 73.57 ให้เหตุผลว่าสุขภาพยังดีอยู่ ในทางกลับกัน ร้อยละ 31.28 ตอบว่าไม่เห็นด้วย ในจำนวนนี้ร้อยละ 50.38 ให้เหตุผลว่ามีปัญหาสุขภาพ

ดังนั้นการรับมือสังคมผู้สูงอายุ..นอกจากการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้ทำงานแม้เลยวัยเกษียณแล้ว ยังควรส่งเสริมให้ประชาชนรักษาสุขภาพตั้งแต่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาวด้วย เพื่อที่จะได้มีสภาพร่างกายและจิตใจพร้อมที่จะพึ่งตนเองต่อไปอย่างยั่งยืน!!!

ชนัดดา บุญครอง

SCOOP@NAEWNA.COM

 


เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'กองทัพภาคที่2' ยันไม่มีเหตุยิงปืนใหญ่ใส่ฐานตาควาย คาดเสียงทหารเขมรเหยียบกับระเบิดตัวเอง

จำคุก830ปี! นายหน้าสาวแสบอ้างเป็นทูตตุ๋นแรงงาน 166 คนไปออสเตรเลีย สูญกว่า 10 ล้าน

'มาริษ'เตรียมเยือนสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยานการจัดซื้อ'กริพเพน'

พี่ชายที่แสนดี! 'เป็ก สัณณ์ชัย'รับยื่นมือช่วย'ดิว อริสรา' ลั่นคนล้มไม่น่าข้าม

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved