วันจันทร์ ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / สกู๊ปพิเศษ
เปิดปมดราม่า‘น้องคาร์เมน’ ‘อุ้มบุญ’ที่กฎหมายไม่รับรอง

เปิดปมดราม่า‘น้องคาร์เมน’ ‘อุ้มบุญ’ที่กฎหมายไม่รับรอง

วันจันทร์ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558, 06.00 น.
Tag :
  •  

ในรอบปีมานี้ เรื่องราวในไทยที่เป็นข่าวไปทั่วโลก นอกจากเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์แล้วยังมีกรณีของ “น้องคาร์เมน” เด็กซึ่งเกิดจากชายชาวต่างชาติ 2 คนที่เป็นคู่รักเพศเดียวกันมาจ้างหญิงไทยรายหนึ่งตั้งครรภ์แทน หรือที่เรียกกันว่า “อุ้มบุญ” กระทั่งเมื่อเด็กน้อยลืมตาดูโลก หญิงที่รับอุ้มบุญกลับไม่ยอมส่งมอบเด็กให้กับผู้ว่าจ้างทั้ง 2 เนื่องจากไม่แน่ใจว่าทั้ง 2 มีเจตนาอื่นแอบแฝงหรือไม่


ขณะที่ความเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดียของไทยก็ “ดุเดือด” ไม่แพ้กัน ชุมชนออนไลน์บางแห่งปั่นกระแส “ดราม่า”เพื่อหวังให้สังคมช่วยกันกดดันให้หญิงรายดังกล่าวคืนเด็กให้กับผู้ปกครองตัวจริง ซึ่งดูเหมือนจะ “ได้ผลบ้าง” เพราะทำให้สามีของหญิงรายนี้ต้องออกมายืนยันกับสื่อมวลชน ว่าไม่ได้มีส่วนสนับสนุนพฤติกรรมดังกล่าวของภรรยา หลังต้องเผชิญ “มรสุมชีวิต” เพราะลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าก็ทยอยหดหาย ขณะที่หุ้นส่วนธุรกิจก็บอกว่าจะไม่ร่วมงานด้วยเนื่องจากเข้าใจว่าตน “ให้ท้าย” ภรรยา

จากสิ่งที่เกิดขึ้น “สกู๊ปหน้า 5” สอบถามไปยัง รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก คณบดีคณะนิติศาสตร์ ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ว่าในแง่กฎหมายเรื่องนี้เป็นอย่างไร โดยเฉพาะขณะนี้ที่ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ.2558 มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งก็มีคำแนะนำในโลกออนไลน์ แนะนำว่าให้ใช้ “บทเฉพาะกาลมาตรา 56” ระบุว่าเด็กที่เกิดก่อนกฎหมายนี้ประกาศใช้ ผู้เป็นสามีหรือภริยาสามารถร้องต่อศาลขอให้รับรองสิทธิความเป็นผู้ปกครองเด็กได้ แม้ความเป็นสามีและภริยาจะไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ตาม

“อาจารย์เจษฎ์” อธิบายว่า สาระสำคัญใน พ.ร.บ.ดังกล่าว ต้องดูตั้งแต่บทนิยาม มาตรา 3 ที่ระบุว่า “การตั้งครรภ์แทน” ในกฎหมายฉบับนี้ หญิงที่รับตั้งครรภ์แทนมีข้อตกลงเป็นหนังสือไว้กับ สามีและภริยาที่ชอบด้วยกฎหมาย ก่อนตั้งครรภ์ว่าจะให้ทารกในครรภ์เป็นบุตรของสามีและภริยาที่ชอบด้วยกฎหมาย แน่นอนว่ากรณีนี้หมายถึง “กฎหมายไทย” เท่านั้น

ส่วนประเด็นมาตรา 56 ในบทเฉพาะกาล ที่ระบุว่าเด็กเกิดก่อนกฎหมายนี้บังคับใช้ ซึ่งน้องคาร์เมนเกิดเดือน ม.ค. 2558 ส่วนกฎหมายนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาในเดือน ก.พ. 2558 ข้อนี้ฝ่ายคู่รักเพศเดียวกันดังกล่าวสามารถยกขึ้นเพื่อร้องขอให้ศาลรับรองความเป็นผู้ปกครองเด็กได้ “อาจารย์เจษฎ์” อธิบายว่า ใช้ได้เฉพาะกับสามีหรือภริยาตามกฎหมายไทย โดยหากไปดู ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (บรรพ 5) ว่าด้วยนิยามของ “ครอบครัว” ก็กล่าวไว้ชัดเจนว่าการสมรสตามกฎหมาย รับรองเฉพาะ “ชายกับหญิง” ไม่มีการรับรองการสมรสของเพศเดียวกัน

เช่นเดียวกับ นายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ทนายความชื่อดัง ที่ยืนยันว่ากฎหมายนี้ให้สิทธิ์การขอให้มีการตั้งครรภ์แทนเฉพาะสามีและภริยาตามกฎหมายไทย หรือก็คือชายกับหญิงเท่านั้น ไม่รวมถึงคู่รักเพศเดียวกัน นอกจากนี้ บทเฉพาะกาลมาตรา 56 การยื่นขอให้ศาลรับรองความเป็นผู้ปกครองเด็กที่เกิดด้วยวิธีอุ้มบุญก่อนกฎหมายนี้ประกาศใช้ ยังย้ำด้วยว่าผู้ที่มีสิทธิ์ดังกล่าวต้องเป็นสามีและภริยาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นกรณีคู่รักเพศเดียวกันจึงไม่เข้าข่ายตามมาตราดังกล่าวด้วย

“คือกรณีที่เป็นข่าวอยู่นี้ เขาไม่ได้เป็นสามีภรรยากันตามกฎหมาย ฉะนั้นเขาก็จะเป็นพ่อเป็นแม่เด็กไม่ได้ หรือเป็นพ่อได้แต่เป็นแม่ไม่ได้ คือคนว่าจ้างต้องเป็นผู้หญิงกับผู้ชาย ฉะนั้นจะมาขอใช้สิทธิ์ทางศาลในไทยก็น่าจะลำบาก หรือจะมาเฉพาะคนที่ใช้เชื้อของตน อันนี้ก็ขาดแม่ คือต้องทั้งพ่อและแม่ครับ อันนี้มีแต่พ่อแต่ขาดแม่ คือกฎหมายนี้เขาคุ้มครองคนเป็นสามีภรรยาแล้วผู้หญิงตั้งครรภ์ไม่ได้ แล้วเขาห้ามทำเป็นการค้า เพื่อให้เด็กเกิดมาแล้วไม่มีปัญหา”ทนายความชื่อดัง ให้ความเห็น

นอกจากมุมมองของนักกฎหมายแล้ว หน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลการทำงานของแพทย์อย่าง แพทยสภา ก็มีความเห็นไปในทางเดียวกัน โดย นพ.เกรียง อัศวรุ่งนิรันดร์ ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา ยืนยันว่า เว้นแต่จะมีกฎหมายรับรองการสมรสของเพศเดียวกันเกิดขึ้นเสียก่อน จึงจะมีสิทธิ์ร้องขอต่อศาลเพื่อให้รับรองความเป็นผู้ปกครองได้

“ยังไงเขาก็ต้องยึดฐานตามกฎหมายไทย คือมีการรองรับว่ามีการจดทะเบียนสมรส แต่หมายถึงว่าเป็นธรรมชาติ กฎหมายตัวนี้ยังไม่รองรับผู้ชายต่อผู้ชาย จนกว่ากฎหมายไทยเรื่องเพศที่ 3 จะเกิด ถ้าเกิดกฎหมายนี้ก็ต้องรองรับไปด้วย แล้วกฎหมายนี้ตัดสิทธิ์คู่เกย์ครับ คือถ้าคนอื่นที่เป็นสามีภรรยาแบบปกติ 
อันนี้ไม่ตัดสิทธิ์

ตรงนี้มีการเถียงกันมาก คดีก็ยังไม่สิ้นสุด คืออ้างมาตรา 56 เป็นข้อยกเว้นก่อนกฎหมายนี้มีผล ตรงนี้คงยังให้คำตอบที่ชัดเจนไม่ได้ แต่ตามหลักแล้วคู่เกย์กฎหมายไทยยังไม่รองรับ คือกฎหมายเรายังไม่รองรับเพศเดียวกันเป็นการจดทะเบียนชอบด้วยกฎหมาย” ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา ระบุ

จากมุมมองของผู้เกี่ยวข้องทั้ง 3 ท่าน บทสรุปค่อนข้างชัดเจนว่าคู่รักเพศเดียวกันไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายอุ้มบุญ 
เนื่องจากขณะนี้กฎหมายไทยยังไม่ให้การรับรองการสมรสของคนกลุ่มดังกล่าว จึงไม่สามารถว่าจ้างให้หญิงคนใดตั้งครรภ์แทนได้

ซึ่งเรื่องของสิทธิการสมรสของคนรักเพศเดียวกัน เคยมีความพยายามผลักดันเข้าสู่รัฐสภามาแล้วในชื่อ ร่าง พ.ร.บ.การจดทะเบียนคู่ชีวิต พ.ศ. ... ในช่วงปี 2556 สาระสำคัญคือรับรองสิทธิหลายประการของคู่รักเพศเดียวกัน เช่น การแบ่งสินสมรสกรณีเลิกราหย่าร้าง การลงนามยินยอมให้แพทย์ทำการผ่าตัดหากคู่รักเพศเดียวกันฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งล้มป่วย การรับมรดกและการทำศพหากคู่รักเพศเดียวกันฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียชีวิต รวมถึงการรับบุตรบุญธรรมด้วย แต่เมื่อเกิดวิกฤติทางการเมืองและมีการเปลี่ยนรัฐบาล ความเคลื่อนไหวของร่างกฎหมายฉบับนี้จึงเงียบหายไป

ปัจจุบันประเทศที่รับรองการจดทะเบียนสมรสของเพศเดียวกันมีอยู่ทั่วโลก ยกเว้นทวีปเอเชีย ได้แก่ อาร์เจนตินา, เบลเยียม, บราซิล, แคนาดา, เดนมาร์ก, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, ไอซ์แลนด์, เม็กซิโก, เนเธอร์แลนด์ (ฮอลแลนด์), นิวซีแลนด์, นอร์เวย์ , แอฟริกาใต้, โปรตุเกส, สเปน, สวีเดน, อุรุกวัย, เวลส์ และสหรัฐอเมริกา

ส่วน เยอรมนี แม้ไม่เรียกว่าการจดทะเบียนสมรสตรงๆ โดยใช้คำว่า “หุ้นส่วนชีวิต” (Partnership) แทน แต่ก็มีสิทธิเท่าเทียมการสมรสของหญิงและชาย ขณะที่เวียดนาม แม้จะยกเลิกกฎหมายห้ามการแต่งงานของเพศเดียวกัน แต่ยังคงระบุในกฎหมายไว้ว่าการแต่งงานดังกล่าวจะไม่ได้รับการรับรองสิทธิใดๆ ตามกฎหมายเหมือนกับการแต่งงานของชายจริงหญิงแท้ ดังนั้นหากประเทศไทยมีกฎหมายให้การรับรองสิทธิการสมรสของเพศเดียวกัน ก็จะถือเป็นชาติแรกในทวีปเอเชียที่เปิดกว้างด้านนี้

ฉะนั้นการที่โลกออนไลน์จะปั่น “ดราม่า” กดดันฝ่าย “แม่อุ้มบุญ” อย่างเดียว คงไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องนัก!!!

การเรียกร้อง “กฎหมายรับรองการแต่งงานของคู่รักเพศเดียวกัน”..น่าจะเป็นหนทางที่ “ดีกว่า” หรือไม่?!!!

SCOOP@NAEWNA.COM

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ทีม'นศ.อาชีวะ'สุดเจ๋ง! คว้า 8 รางวัล แข่งขัน Botok Cup 2025

'ภูมิใจไทย' ขอบคุณทุกคะแนนเสียงชาวศรีสะเกษ ลุยทำงานทันที

'ธรรมนัส-นฤมล' ลงพื้นที่น้ำท่วมพิจิตร เร่งแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน

เล่าครั้งแรก! 'แคทรียา อิงลิช'ถูกแฟนฝรั่งล่มงานหมั้นฟ้าผ่า

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved