วันพุธ ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / สกู๊ปพิเศษ
2 มุม ‘สิทธิ-ความปลอดภัย’ ‘ตาบอดสี’ ขับขี่ยานพาหนะ

2 มุม ‘สิทธิ-ความปลอดภัย’ ‘ตาบอดสี’ ขับขี่ยานพาหนะ

วันอังคาร ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น.
Tag :
  •  

ตาบอดสี..เป็นภาวะของร่างกายที่มองเห็นสีต่างๆ ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง บทความ “ตาบอดสี” (Color Blindness) เขียนโดย พญ.สกาวรัตน์ คุณาวิศรุต อธิบายว่า โดยปกติแล้วตาบอดสีมักเป็นภาวะผิดปกติตั้งแต่กำเนิด และมีความรุนแรงในหลายระดับตั้งแต่ ระดับรุนแรงที่สุด คือมองไม่เห็นสีเลย เห็นเป็นภาพขาวดำเท่านั้น เพราะไม่มีเซลล์รูปกรวยอันมีหน้าที่แยกแยะสีต่างๆ ซึ่งมีอยู่ 3 สี ประกอบด้วย แดง เขียว และน้ำเงิน แม้แต่สีเดียว

ระดับปานกลาง คือ เซลล์รูปกรวยอันมีหน้าที่แยกแยะสีสันต่างๆ ซึ่งอยู่ 3 สีข้างต้น ขาดหายไปสีใดสีหนึ่ง ทำให้ตามองไม่เห็นสีนั้นๆ และ ระดับต่ำ คือมีเซลล์รูปกรวยครบทั้ง 3 สี แต่เซลล์บางสีมีจำนวนน้อยกว่าเกณฑ์ปกติ ทำให้มีอุปสรรคในการแยกเฉดสีต่างๆ อย่างละเอียดอยู่บ้างในชีวิตประจำวัน


ที่ผ่านมา..ผู้ป่วยตาบอดสีมักไม่ได้รับอนุญาตให้ทำกิจกรรมบางอย่าง ที่เห็นได้ชัดคือ “การขับรถ” เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อผู้อื่นที่ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน เพราะอาจแยกแยะสัญญาณไฟจราจรได้ไม่ชัดเจน ทำให้ไม่สามารถออกใบอนุญาตขับขี่ยานพาหนะให้ได้ แต่อีกด้านหนึ่งก็เกิดคำถามขึ้นเช่นกันว่าเป็นการ “เหมารวม” หรือไม่? เพราะหลายกรณีเป็นการ “กีดกัน” แบบกลายๆ ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยัน

ที่งานสัมมนาเพื่อเผยแพร่ผลงานการศึกษาวิจัยเรื่อง “ปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี” จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เมื่อเดือน ม.ค. 2559 ที่ผ่านมา นายวรากร สุนทรานุรักษ์ ผู้แทนกลุ่มเรียกร้องสิทธิของคนตาบอดสี กล่าวว่า แม้ด้านหนึ่งตนจะเห็นด้วยกับเหตุผลด้านความปลอดภัย แต่อีกด้านหนึ่งก็อยากให้มี “มาตรฐาน” จากจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มาชี้วัดว่าคนตาบอดสีระดับใดขับรถได้หรือไม่ได้ เพื่อไม่ให้เป็นการเลือกปฏิบัติ

“ถ้าเป็นในเรื่องของความปลอดภัย มีความเห็นด้วยกับกรมการขนส่งฯที่ไม่ออกใบอนุญาตขับขี่ให้ แต่ในฐานะผู้แทนกลุ่มคนตาบอดสีมองว่า เป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่ชอบธรรม เพราะไม่สามารถเอาเกณฑ์ไหนมาวัดได้ว่าคนตาบอดสีขับรถไม่ปลอดภัย น่าจะให้มีคนกลางหรือจักษุแพทย์เป็นคนพิจารณารับรองว่าบุคคลเหล่านี้มีความสามารถในการขับรถหรือไม่ ถ้าใช้เกณฑ์ในส่วนนี้ น่าจะมีความชัดเจนกว่า” นายวรากร กล่าว

ขณะที่ นายศิริชัย เจสดุ หัวหน้างานสื่อสารภายใน กองสื่อสารองค์กรการประปาส่วนภูมิภาค ผู้เรียกร้องสิทธิของคนตาบอดสีอีกราย กล่าวเพิ่มเติมว่า ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ได้เคยให้ข้อมูลว่า ผู้ที่มีอาการตาบอดสีจะเห็นสีผิดเพี้ยนไปจากคนปกติ มักมีปัญหาเฉพาะการแยกสีอ่อนๆ ที่อยู่ปะปนกันเท่านั้น แต่ยังสามารถแยกสีสัญญาณไฟจราจรได้ เนื่องจากจะเห็นเป็นสีที่ต่างกัน แม้จะไม่แตกต่างกันอย่างเด่นชัดเช่นคนปกติก็ตาม ฉะนั้นไม่น่าจะมีปัญหากับการขับรถยนต์ส่วนบุคคล หากจะห้ามก็ควรห้ามเฉพาะรถสาธารณะเท่านั้น

“ผู้ที่มีอาการตาบอดสีจะอาศัยประสบการณ์และข้อมูลอื่นๆ มาช่วยในการแยกสีไฟจราจรร่วมด้วย เช่น ตำแหน่งของไฟสีแดง-เหลือง-เขียว และความสว่างของไฟ จึงไม่น่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับความปลอดภัยในการขับรถ แต่ควรให้สิทธิเฉพาะในการขับรถยนต์ส่วนบุคคลเท่านั้น ไม่ควรอนุญาตให้ขับรถยนต์สาธารณะ ถ้ากรมการขนส่งทางบก ยังเห็นว่าจำเป็นต้องตรวจตาบอดสี ควรทำการทดสอบโดยการให้ดูไฟเขียว-เหลือง-แดง แบบเดียวกันกับไฟจราจรตามท้องถนน ถ้าผู้เข้ารับการทดสอบบอกได้ถูกต้องให้ถือว่าสอบผ่าน” นายศิริชัย ระบุ

ตัวแทนของกลุ่มผู้เรียกร้องสิทธิของคนตาบอดสีรายนี้ กล่าวต่อไปอีกว่า ปัจจุบันนี้มีหลายประเทศทั่วโลกที่ไม่ทำการตรวจตาบอดสีในผู้ที่ขอรับใบอนุญาตขับรถยนต์ เนื่องจากมีความเห็นว่าผู้ที่ตาบอดสีสามารถขับรถยนต์ได้ มีเพียงบางประเทศรวมถึงประเทศไทย ที่ยังไม่อนุญาตให้ผู้ที่ตาบอดสีขับรถไม่ว่ากรณีใดๆ โดยอ้างว่าอาจเกิดอุบัติเหตุ

แต่เมื่อไปดูสถิติจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ยกตัวอย่างในปี 2556 ระบุว่า สาเหตุของอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทย ส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรม “ซิ่ง-แว้น” หรือการขับขี่ยานพาหนะด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยสูงถึงร้อยละ 77.48 ส่วนสาเหตุจากพฤติกรรมฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร มีเพียงร้อยละ 1.15 เท่านั้น ซึ่งในข้อนี้หากแยกเฉพาะจากภาวะตาบอดสีก็จะยิ่งน้อยลงไปอีก

“วิธีที่ถูกต้องและเห็นผลได้ดีที่สุดในการลดอุบัติเหตุ คือ การควบคุมการใช้ใบขับขี่เป็นหลัก ไม่ใช่เน้นที่การควบคุมการออกใบขับขี่ เพราะการทดสอบเพื่อขอใบขับขี่ที่ยากขึ้น จะมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชนโดยตรง หรือกระทบต่อผู้ที่มีอาการตาบอดสี จึงควรมีการทดสอบที่น่าเชื่อถือ เหมาะสมเพียงพอ และเป็นธรรม ไม่ควรตัดสิทธิถ้ายังไม่มีข้อพิสูจน์ชัดเจน 100 เปอร์เซ็นต์

ควรใช้การกำหนดเงื่อนไขในการใช้ใบขับขี่จะดีกว่า เพื่อให้เขาได้มีโอกาสฝึกฝนและพิสูจน์ความสามารถในการขับขี่บนถนนจริง ถ้าครบกำหนดแล้วไม่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุก็ยกเว้นเงื่อนไข แต่ถ้าทำให้เกิดอุบัติเหตุก็ต้องลงโทษตามความเหมาะสมต่อไป แบบนี้จึงจะเป็นการควบคุมดูแลที่ถูกต้องและเป็นธรรม” นายศิริชัย ฝากทิ้งท้าย

ในอดีตการห้ามคนตาบอดสีขับขี่ยานพาหนะอย่างเด็ดขาด อาจเป็นสิ่งที่พอเข้าใจได้เพราะในขณะนั้นเทคโนโลยีทางการแพทย์ยังไม่เจริญก้าวหน้า แต่ยุคปัจจุบันที่ค้นพบแล้วว่าภาวะตาบอดสีมีหลายประเภท และบางประเภทอาการก็ไม่รุนแรงถึงขั้นเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวัน

ดังนั้นเกณฑ์การพิจารณาควร “ปรับเปลี่ยน” บ้างหรือไม่?!!!


วิภาดา มาลีหวล
SCOOP@NAEWNA.COM

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ด่วน!!! ตร.อำนาจเจริญเข้ม ‘ห้ามบินโดรน’ ฝ่าฝืนจำคุก1ปี-ปรับ40,000บาท

'อิ๊งค์'ยินดีสภาฯผ่าน พ.ร.บ.ชาติพันธุ์ ก้าวสำคัญของการคุ้มครอง-ส่งเสริมวิถีชีวิต

ฮือฮา!! 'จุรี นุ่มแก้ว' เปิดตัวลงสมัคร สส.เขต 2 สงขลา พรรคภูมิใจไทย

'พิชัย'เผยเจรจา'ภาษีสหรัฐฯ' ยังอยู่ระหว่างคุยรายละเอียด คาดเสร็จภายในเดือนนี้

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved