วันศุกร์ ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / สกู๊ปพิเศษ
“อวดอุตริ-สะสมทรัพย์สิน”  ประเด็นร้อนวงการสงฆ์ไทย

“อวดอุตริ-สะสมทรัพย์สิน” ประเด็นร้อนวงการสงฆ์ไทย

วันพุธ ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556, 02.00 น.
Tag :
  •  

กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคมไทย โดยเฉพาะพุทธศาสนิกชนขึ้นมาทันที เมื่อปรากฏภาพของพระรูปหนึ่งบนเครื่องบินเจ็ทสุดหรู พร้อมด้วยกระเป๋ายี่ห้อดังจากต่างประเทศ ซึ่งพระรูปดังกล่าวได้ชื่อว่ามีชื่อเสียงมาก มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย และส่วนใหญ่เป็นผู้มีฐานะดี ต่างบริจาคทรัพย์สินให้พระรูปดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เพื่อหวังให้นำไปสร้างวัด ตลอดจนพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความเชื่อว่าเป็นพระผู้บรรลุธรรมขั้นสูง

กระแสดังกล่าวถูกโหมกระพืออย่างต่อเนื่อง ถึงขนาดที่มีชาวต่างประเทศทำการ์ตูนล้อเลียน ทำนองว่าถ้าอยากรวยไม่ต้องทำงาน แต่ให้มาบวชเป็นพระที่เมืองไทย สร้างความวิตกกังวลให้กับผู้ห่วงใยในพระพุทธศาสนาเป็นอันมาก ทั้งนี้ที่ผ่านมาตามสื่อต่างๆ ก็มักปรากฏข่าวของพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอยู่เสมอ ซึ่งไม่นานมานี้ สกู๊ปหน้า 5 มีโอกาสได้รับฟังความเห็นในประเด็นดังกล่าวจากผู้เชี่ยวชาญด้านธรรมวินัย จึงขอนำมาให้ทุกท่านได้รับทราบกัน

“อวดอุตริมนุสธรรม” คืออะไร?


ประเด็นหนึ่งที่มีผู้สงสัยและตั้งข้อสังเกตกันมากเกี่ยวกับพระรูปดังกล่าว คือคลิปที่ปรากฏบนโลกออนไลน์ ซึ่งพระรูปนี้เล่ากับญาติโยมที่มาฟังเทศน์ ว่าตนนั้นมีอดีตชาติเคยเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า และได้รับคำพยากรณ์จากพระองค์ว่าจะเป็นผู้ปกป้องศาสนาพุทธในภายภาคหน้า และเล่าต่ออีกว่าที่ต้องสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ เพราะได้พบและพูดคุยกับเทพชั้นสูงอย่างพระอินทร์ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า..การกระทำนี้เข้าข่ายที่เรียกว่า “อวดอุตริมนุสธรรม” หรือไม่?

“ขณะนี้ถามว่าอวดอุตริมนุสธรรมหรือไม่ อุตริมนุสธรรมคือธรรมะเหนือมนุษย์ ไปรู้ว่าชาติก่อนเป็นญาติโยมกันมา มาเกิดในชาตินี้ฉะนั้นขอรีดไถในชาตินี้ หรือไปเป็นเพื่อนพระอินทร์หรืออะไรก็ตาม อวดอุตริมนุสธรรมทั้งสิ้น แล้วถามว่าปาราชิกไหม? ง่ายนิดเดียว ท่านไปดูในพระวินัยปาจิตตีย์ มุสาวาทวรรคที่ 1 ข้อที่ 8 ห้ามอวดอุตริมนุสธรรมแก่ผู้ไม่ใช่พระภิกษุ

แม้แต่สามเณรก็บอกเขาไม่ได้นะครับ คือพูดได้เมื่อพระมาถามกันตัวต่อตัว ถามว่าท่านบวชมากี่พรรษา แล้วท่านมีอุตริมนุสธรรมเจริญก้าวหน้าแค่ไหน เขากระซิบพูดกัน บอกในที่สาธารณะไม่ได้เลยนะครับ ถ้าบอกนี่อาบัติปาจิตตีย์ แล้วมีหลักง่ายนิดเดียว พระโสดาบันรู้ว่าพระพุทธเจ้าบัญญัติอะไร แม้จะเอาท่านไปฆ่าท่านก็ไม่ละเมิด ที่ละเมิดก็เพราะไม่รู้ สมัยก่อนเดินทางไกล พระพุทธเจ้าบัญญัติ แต่อยู่ห่างไกลหลายร้อยโยชน์ก็ไม่รู้ ซึ่งพระก็ต้องหยุด แต่ถ้าอวดแล้วอวดเล่า นี่ปาราชิกแน่นอน”

เป็นเสียงจาก นายวรเดช อมรวรพิพัฒน์ เลขาธิการสภายุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้ความเห็นถึงประเด็นการอ้างถึงอิทธิปาฏิหาริย์ของพระรูปดังกล่าว ซึ่งใน พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม 1 ภาค 2 - หน้าที่ 458 ว่าด้วยพระอนุบัญญัติ ก็มีบัญญัติความผิดไว้ชัดเจน ความว่า..

อนึ่ง ภิกษุใดไม่รู้เฉพาะ กล่าวอวดอุตริมนุสธรรม อันเป็นความรู้  ความเห็นอย่างประเสริฐ อย่างสามารถ น้อมเข้ามาในตนว่า ข้าพเจ้ารู้อย่างนี้ ข้าพเจ้าเห็นอย่างนี้ ครั้นสมัยอื่นแต่นั้น อันผู้ใดผู้หนึ่ง ถือเอาตามก็ตาม ไม่ถือเอาตามก็ตาม เป็นอันต้องอาบัติแล้ว มุ่งความหมดจด จะพึงกล่าวอย่างนี้ว่า แน่ะท่าน ข้าพเจ้าไม่รู้อย่างนั้น ได้กล่าวว่ารู้ ไม่เห็นอย่างนั้น ได้กล่าวว่าเห็น ได้พูดพล่อย ๆ เป็นเท็จเปล่าๆ เว้นไว้แต่สำคัญว่าได้บรรลุ แม้ภิกษุนี้ก็เป็นปาราชิก หาสังวาสมิได้..

จากความนี้ เห็นได้ชัดเจนว่าและการอวดอุตริมนุสธรรม ถือเป็นการละเมิดพระธรรมวินัยขั้นร้ายแรง เรียกว่า ปาราชิก 4 ประกอบด้วย 1.เสพเมถุน 2.ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้ 3.ฆ่าคน และ 4.อวดอุตริมนุสธรรม หมายถึงต้องขาดจากความเป็นภิกษุทันที และไม่สามารถกลับมาบวชใหม่ได้ 

สอดคล้องกับความเห็นของ นายสันติสุข โสภณสิริ ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการศาสนา คุณธรรมจริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีพระรูปดังกล่าว อ้างว่าชาติก่อนเคยเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าและได้รับคำพยากรณ์ว่าจะได้กอบกู้พระพุทธศาสนานั้น ในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน

“เอาแค่ชุดวีดีโอที่ท่านบอกว่าท่านได้พบกับพระอินทร์ แล้วก็มาให้สร้างวิมาน สร้างพระแก้ว แล้วท่านไม่ได้บอกว่าท่านหลับแล้วฝัน คือท่านทำสมาธิเห็นเป็นนิมิต แต่ข้อนี้ยังไม่ร้ายแรง เท่ากับท่านบอกว่ามีชาติหนึ่งอยู่ในสมัยพุทธกาล อันนี้ไม่ใช่นิมิต ได้เฝ้าพระพุทธเจ้า มีพระสี่ร้อยห้าร้อยรูปเป็นอริยกันหมด ยกเว้นท่านยังไม่บรรลุอรหันต์ แต่มีพุทธพยากรณ์ว่าต่อไปจะได้บรรลุ และได้กอบกู้พระศาสนา

พอท่านพูด ผมก็ไปถามพระผู้ใหญ่ ว่ามีไหมครับ? ในพุทธประวัติ อนุพุทธะ ในเรื่องราวแบบนี้มีไหม? ช่วยค้นให้ผมหน่อย ท่านบอกไม่มีหรอก ไม่มีที่เขาพยากรณ์ ที่ว่ามีใครสักคนในวันข้างหน้า จะได้มาบรรลุธรรมแล้วได้มากอบกู้พระศาสนา อันนี้เป็นการสร้างเรื่องราวในพุทธประวัติเอง เป็นเรื่องที่ร้ายแรง คือไม่ได้ทำผิดศีลธรรมดา แต่มาสร้างพระสุตันตปิฏกฉบับใหม่ อันนี้ผมถือว่าผิดมากนะครับ”

คุณสันติสุข กล่าวถึงประเด็นนี้ว่าร้ายแรงมาก เพราะเป็นการสร้างเรื่องราวใหม่ในพุทธประวัติขึ้นมาเอง ทั้งนี้ยังเสริมว่า จริงๆ แม้เพียงพระรูปใดกล่าวว่าตนได้ละซึ่งกิเลส ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่ายังไม่ได้เป็นเช่นนั้น ก็ถือว่าเข้าข่ายอวดอุตริมนุสธรรมแล้ว

“ทำบุญ” หรือ “ทำลาย” ศาสนา?

เป็นที่ทราบกันดีว่า คนไทยนั้นชอบบริจาค ทำบุญทำทานกันมาก โดยเฉพาะการทำบุญกับศาสนา เพราะเชื่อกันว่าจะได้ผลบุญมากที่สุด ยิ่งถ้าพระรูปใดมีกิตติศัพท์ด้านอิทธิปาฏิหาริย์ หรือมีข่าวว่าบรรลุธรรมระดับสูง ผู้คนก็ยิ่งเลื่อมใสมาก สิ่งที่ตามมาก็คือลาภสักการะก็จะหลั่งไหลเข้ามาด้วย ทำให้อาจมีผู้ที่ต้องการหวังในทรัพย์ดังกล่าว เข้ามาหากินกับความศรัทธาของศาสนิกชนได้

ซึ่งที่ปรึกษา กมธ. ศาสนาฯ วุฒิสภา ให้ความเห็นในประเด็นดังกล่าวอย่างน่าสนใจ ว่าอาจเป็นเพราะคนสมัยใหม่ ไม่มีโอกาสได้บวชและศึกษาธรรมะอย่างจริงจัง ทำให้อาจจะไม่รู้ว่า พระที่ดีควรจะประพฤติตน และแสดงออกอย่างไรจึงอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะที่ควร

“ถ้าเป็นแต่ก่อน คนบวชเรียนกันเป็นปี สองปีสามปีสี่ปี สมัยนี้มันบวชแค่ 7 วัน มันก็เลยไม่รู้อะไร และยิ่งสีกานี่ยิ่งไม่รู้อะไรเลย อย่างเป็นต้นมะม่วง มีอะไรออกมาเป็นอวัยวะเพศ ไปลูบไปคลำ ไปประแป้งขอหวยกัน ผู้หญิงเขาเป็นแบบนั้นจริงๆ พอใจพระหน่อยก็ซื้อเฮลิคอปเตอร์ให้ ซื้อ (กระเป๋า) หลุยส์วิตตองให้ อันนี้เราไปโทษโยมเขาไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้บวชเรียนมาก ยิ่งบางทีไมได้บวชเรียนเลย” คุณสันติสุข กล่าว

ขณะที่คุณวรเดช ให้ความเห็นว่ายิ่งศาสนาพุทธเต็มไปด้วยการทำบุญด้วยวัตถุเงินทอง หรือพระสงฆ์มีใจฝักใฝ่ไปในทางอวดอำนาจอิทธิปาฏิหาริย์มากเท่าไร แนวโน้มที่ศาสนาจะเสื่อมจนอาจถึงกาลล่มสลายก็มีมากขึ้นเท่านั้น

“มีบทความของพระเดชพระคุณ เจ้าคุณพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตโต) ท่านบอกให้คนไทยตื่นผู้วิเศษ ผู้วิเศษไม่ใช่พระอริย ผู้วิเศษก็คือพวกอวดอุตริมนุสธรรม สมัยก่อนเรียกพวกผีบ้าผีบุญ พวกนี้สงสัยไว้ก่อนเลยว่าเป็นคนหลอกลวง สำนักพุทธต้องทำงานเชิงรุก monitor (เฝ้าระวัง) ไปเลยว่าอวดอุตริ สมบัติบ้าบอ สร้างอะไรเนี่ย นี่ประเด็นนึงนะครับ แล้วท่านเตือนว่าพุทธศาสนาในเมืองไทยจะล่มจม เพราะบ้าสร้างวัตถุ ถาวรวัตถุใหญ่ๆ เป็นเครื่องทำลายศาสนา

ตลอดประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา ถ้าที่ไหนสร้างมากๆ อีกไม่นานที่นั่นล่มจม ต้องรักษาที่ศาสนธรรมกับศาสนบุคคล ขณะนี้วัดกว่า 4 หมื่นวัด ร้างไปแล้วเกือบหมื่นวัด ไม่ต้องสร้างอะไรอีกแล้ว ทำนุบำรุงให้อยู่ ชาวอินเดียเขามีพระพุทธรูป เขาไหว้เพื่อเข้าถึงพุทธานุสติ ธรรมานุสติ สังฆานุสติเท่านั้น พวกที่สร้างอะไรใหญ่ๆ โตๆ ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า เขาจะตั้งตัวเป็นผู้วิเศษ สร้างใหญ่ๆ เพื่อจะได้รีดไถเงินเยอะๆ แล้วสร้างไม่มีที่สิ้นสุดพวกนี้” คุณวรเดช ฝากข้อคิดทิ้งท้าย

ปัญหาพระสงฆ์ประพฤติตนไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นพระเสพเมถุน (มีเพศสัมพันธ์) พระทีพัวพันกับยาเสพติด หรือพระที่อวดอ้างคุณวิเศษต่างๆ  ดูเหมือนว่ากำลังบั่นทอนความศรัทธาในพระพุทธศาสนาจากประชาชนโดยเฉพาะจากคนรุ่นใหม่ ถึงขนาดที่บางคนกล่าวว่ารู้สึกไม่แปลกใจที่เด็กรุ่นใหม่ห่างไกลศาสนา เพราะหาแบบอย่างที่ดีงามได้ยากในปัจจุบัน

คำถามคือ..ในเมื่อประเทศไทยประกาศตนว่าเป็น “เมืองพุทธ” แล้วที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำอะไร เพื่อปกป้องสิ่งที่ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 สถาบันหลักของประเทศบ้างหรือไม่?

SCOOP@NAEWNA.COM

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

เรียลไทม์! รายงานเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา 9 จุดสำคัญ

ชาวบุรีรัมย์ผวา!! เร่งอพยพ หลัง'เขมร'ระดมยิงกระสุนปืนใหญ่ตกใส่แล้วกว่า 50 ลูก

ประณามไทย! วุฒิสภากัมพูชาออกแถลงการณ์ 6 ข้อ วอนนานาชาติช่วย

‘จักรภพ’ย้ำไทยยังไม่สูญเสียดินแดน แจงปมวิวาทะ‘น็อต วรฤทธิ์’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved