สกู๊ปพิเศษ : ปลูกเมล็ดพันธุ์ความรู้ ต้านปัจจัยเสี่ยง

สกู๊ปพิเศษ : ปลูกเมล็ดพันธุ์ความรู้ ต้านปัจจัยเสี่ยง

วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 07.49 น.

เด็กคือผ้าขาวสะอาด การได้รับการสั่งสอนในสิ่งที่ถูกต้องตั้งแต่เด็กจึงเป็นเสมือน “วัคซีน” ที่ป้องกันอันตราย หรือปัจจัยเสี่ยงที่เข้ามากระทบกับชีวิตไม่ให้ซวนเซได้โดยง่าย และถึงแม้ก้าวพลาดก็ยังมีโอกาสที่จะตั้งหลัก กลับตัวเป็นคนใหม่ได้เสมอ

ดังนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ มูลนิธิขวัญชุมชนร่วมกับมูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงร่วมกันจัดกิจกรรม “ค่ายพัฒนาแกนนำเด็กเยาวชนร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลง” ณ ศูนย์ฝึกอบรมมูลนิธิพัฒนาอีสาน ตำบลตาอ๋อง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยมีแกนนำนักเรียนจาก 3 โรงเรียน ในพื้นที่ 43 คน เข้าร่วม เพื่อสร้างความตระหนักรู้ เท่าทันปัจจัยเสี่ยง เหล้า บุหรี่ไฟฟ้า ยาเสพติด ผ่านการทำกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อให้เด็กๆ ได้ซึมซับ รับรู้ เข้าใจ ได้อย่างสนุกสนาน


ทั้งนี้ นางสุภาพร ทองสุข ผู้อำนวยการมูลนิธิขวัญชุมชน ผู้รับผิดชอบโครงการเสริมพลังสหอาสาเพื่อเด็กเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยงจากสารเสพติดโดยฐานครอบครัวและชุมชน บอกว่า มูลนิธิขวัญชุมชนได้รับงบประมาณจากสสส. ดำเนินโครงการนี้ในอำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ดำเนินงานในพื้นที่ตำบลทับใหญ่ ตำบลธาตุ และตำบลเบิด และได้จัดค่ายพัฒนาแกนนำเด็กเยาวชนร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมบทบาทแกนนำเด็กเยาวชนในชุมชนในสถานศึกษา ประกอบด้วยโรงเรียนทับโพธิ์พัฒนวิทย์ โรงเรียนธาตุศรีนคร และโรงเรียนเบิดพิทยาสรรค์ รวมจำนวน 43 คน

โดยค่ายนี้ไม่มีการบรรยาย การสอนสั่ง การท่องจำหรือวัดผลคะแนนใดๆ ทุกการเรียนรู้ถูกออกแบบให้เป็นกิจกรรม การเล่น การทดลอง การ์ดเกม การสร้างบรรยากาศแห่งความไว้วางใจเป็นพื้นที่ปลอดภัยของเด็กๆ รวมถึงการนำอดีตเยาวชนจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก มาเล่าประสบการณ์ชีวิตช่วงที่ก้าวพลาดจนลุกขึ้นยืนใหม่ได้ ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ตระหนักถึงโทษภัยของสิ่งเสพติด เหล้าบุหรี่ ความรุนแรง ให้ได้เห็นถึงเส้นทางชีวิตที่ยากลำบากเพื่อเป็นวัคซีนชีวิตให้กับเยาวชน

“การทำงานกับเยาวชนจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนความคิดใหม่ การสั่งสอน การห้ามหรือทำให้กลัว ใช้ไม่ได้อีกต่อไป การให้เด็กๆได้สัมผัส ได้เห็นได้พบเจอของจริง และเปิดโอกาสให้ได้คิดได้พูด แสดงออกแบบไม่ต้องกลัวถูกจับผิดหรือมีผลต่อคะแนน ข้อค้นพบอย่างหนึ่งของค่ายนี้คือการสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กๆ ภายในโรงเรียน ซึ่งมีความจำเป็นมาก และจะเป็นการทำงานระยะต่อไปของโครงการนี้” นางสุภาพร กล่าว

ด้าน นางรัชดาภรณ์ ศรีทอง ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเบิดพิทยาสรรค์ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า การพาเด็กๆ มาเข้าค่ายนี้เพราะคิดว่า เด็กๆ น่าจะมีทางออกหรือวิธีการที่ดีกว่าที่เคยทำมา พอมาถึงจริงๆ ก็พบว่า ค่ายนี้มีหลายวิธีที่โรงเรียนเรายังไม่เคยทำ ซึ่งวิธีการที่เราเคยทำมาอาจยังเข้าไม่ถึงเด็กๆ ทั้งนี้ที่ผ่านมา เด็กบางคนอาจจะมีจุดพลาดไปบ้าง แล้วยังต้องเผชิญกับสายตาของผู้ใหญ่ที่มองแล้วตัดสินว่า “เป็นเด็กมีปัญหา” แต่การเข้าข่ายครั้งนี้จะช่วยจุดประกายพวกเขาได้ สิ่งสำคัญคือ ต้องเริ่มต้นจาก “เด็กมีความเข้าใจ” ไม่ใช่ “จำใจ” เพราะคำบ่น ตำหนิ ต่อว่า เพราะความเข้าใจจะเกิดขึ้นได้ก็มาจากกระบวนการคิด อย่างไรก็ตามเราไม่ได้คาดหวังว่ามาครั้งนี้แล้วเด็กๆ จะต้องเปลี่ยนทันที เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลา ที่สำคัญค่ายนี้คือพื้นที่ปลอดภัยของเด็กๆ ที่จะเล่าจะพูดเรื่องราวของตัวเองที่ต้องเผชิญ และการที่นำเคสตัวอย่างของคนที่เคยก้าวพลาด แต่ลุกขึ้นยืนใหม่ได้มาแบ่งปันประสบการณ์ให้เด็กๆ ฟัง เป็นเรื่องที่ดี ไม่ใช่การชี้โพรงให้กระรอก

ทั้งนี้ ทุกคนเคยก้าวพลาดหมด เพียงแต่มันจะใหญ่หรือจะเล็กแค่นั้นเอง อยากให้เด็กมองว่าในเมื่อตอนนี้เรายังไม่พลาด เราก็ควรเรียนรู้จากบทเรียนคนอื่น หรือหากเราพลาดไปแล้วแต่ยังไม่ถึงขนาดนั้น เด็กๆ จะได้มองออกว่าถ้ายังเดินต่อทำต่อมันจะส่งผลกับชีวิตเขายังไง สุดท้ายมันจะเป็นยังไงเขาจะต้องตัดสินใจด้วยตัวเขาเอง

“ตอนนี้ที่โรงเรียนกำลังทำห้องเล็กๆ ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยของนักเรียน ถ้ารู้ตัวว่าพลาด กังวล เศร้า ล้ม อยากให้เขารู้ว่าเขายังมีพวกเรานะ ไม่ใช่มีแค่ตัดสินพวกเขาด้วยผลการเรียน พวกเขาต้องมีที่ให้ได้หยุดพักใจจริงๆ ได้ทบทวนตัวเอง ได้ระบายกับคนที่ไว้ใจได้ หลังจากนี้เขาอาจจะค่อยๆ ได้สติ และรู้ตัวเองว่าควรไปทางไหน ที่ตรงนี้ไม่ต้องการคาดคั้นอะไรจากเขาเลยแค่อยากให้เขาได้พักจริงๆ และจากการที่ครูไปดูงานที่บ้านกาญจนาภิเษกมา เป็นสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับครู คือคำพูดที่ว่า ถ้าประตูโรงเรียนปิด ประตูคุกก็จะเปิดของป้ามล-ทิชา ณ นคร คำคำนี้ยังอยู่ในใจของครูเสมอ ครูจึงทำทุกทางให้เด็กได้เรียนได้ไปต่อ หลังจากนี้คงต้องขบคิดมากขึ้น ให้เด็กได้รับการป้องกัน ได้รับวัคซีนชีวิตที่ดี” นางรัชดาภรณ์ กล่าว

ข้ามมาฟังความคิดเห็นของน้อง ที่เข้าค่ายร่วมกันในครั้งนี้ เริ่มที่ ด.ญ.กาญจนา เหลาเลิศ นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนเบิดพิทยาสรรค์ เปิดเผยความรู้สึกว่า ดีใจ และมีความสุขมากที่ได้มาค่ายนี้ ทำให้มีีความรู้เริ่มขึ้นในเรื่องผลกระทบของบุหรี่ไฟฟ้า กัญชา กระท่อม สารเสพติด และเหล้า รวมถึงกฎหมาย และประสบการณ์จากพี่ๆ ที่เคยผิดพลาด ทำให้เราได้คิด ดังนั้น จึงจะนำความรู้จากค่ายนี้ไปบอกต่อเพื่อนๆ ที่อาจกำลังก้าวไปในเส้นทางที่ไม่ดี หรือยุ่งกับสารเสพติด จะได้ช่วยกันเตือนเพื่อนๆ ด้วยความห่วงใยว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นทั้งผิดกฎหมาย และไม่ดีต่อสุขภาพ นี่คือการเปลี่ยนมุมมองจากการมาเข้าค่ายนี้

ด้าน ด.ญ.ปาริชาติ สุระชัย นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนทับโพธิ์พัฒนวิทย์ ก็แสดงความรู้สึกในทำนองเดียวกันว่า ดีใจ ตนและเพื่อนๆ คุยกันว่าอยากมาเข้าค่ายอีก เพราะนอกจากได้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งเสพติด เหล้า บุหรี่ ทั้งยังสนุก อบอุ่น ทำให้ทุกคนกล้าแสดงออก มีพื้นที่ให้ระบายความรู้สึก ความในใจที่ไม่เคยหรือไม่กล้าพูดกับใครมาก่อน ถือว่าเป็นประสบการณ์ความรู้ที่สามารถนำไปใช้ในชีวิต การเรียนต่อไปได้ ทั้งความกล้าแสดงออก เรื่องความอดทน ความสามัคคี ทั้งนี้ตนอยากให้กำลังใจเพื่อนๆ ที่เคยทำผิดพลาด ตนเชื่อว่าทุกคนสามารถผ่านไปได้เสมอ ขอเพียงสู้ ที่กล้าพูดเช่นนี้ เพราะตนก็เคยผิดพลาดมาก่อนจึงเข้าใจดีว่ามันต้องสู้ขนาดไหน และถ้าย้อนเวลากลับไปแก้ไขเรื่องในอดีตได้ ตนอยากให้ตัวเองกล้าแสดงออกมากขึ้น เพราะบางครั้งตนพลาดโอกาสดีๆ เพียงเพราะการไม่กล้าแสดงออก

เช่นเดียวกับ นางสาวสุริษา จิตรงาม นักเรียนชั้น ม. 6 โรงเรียนธาตุศรีนคร เปิดใจว่า การมาเข้าค่ายครั้งนี้ทำให้ตนเข้ากับเพื่อนๆ และทำกิจกรรมร่วมกันอย่างมีความสุข รู้สึกได้จริงๆ ว่า นี่คือพื้นที่ปลอดภัย เพราะส่วนตัวเป็นคนที่ชอบพูดแต่ไม่กล้าแสดงออก พอได้รวมกลุ่มได้ฟังเรื่องที่ทุกคนเล่า ทำให้เราเองพร้อมที่จะเล่าเรื่องปัญหาของตัวเองออกมาเช่นกัน ต่างฝ่าย ต่างรับฟัง และเข้าใจกัน ถือว่าเป็นอีกรูปแบบประสบการณ์ ความรู้ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน รวมถึงบอกต่อหรือช่วยเตือนคนรอบตัวที่กำลังทำผิดอยู่

“อยากบอกเพื่อนๆ ที่อาจจะพลาดไป มันไม่มีคำว่าสายเกินไปเราสามารถกลับตัวและแก้ไขทุกอย่างได้เสมอ”

ด้าน นายอภิรัฐ สุดสาย อดีตเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก ผู้ประสานงานกลุ่มผู้ถูกเจียระไน เล่าว่า ตนอยู่กับความรุนแรงมาตั้งแต่เด็ก ทำให้มองว่าการทะเลาะ การใช้ความรุนแรงถือเป็นเรื่องปกติ ตอนอยู่บ้านจึงค่อนข้างเก็บตัวเงียบๆ ในบ้าน แต่มาแสดงออกถึงความเกเรข้างนอก มีเรื่องทะเลาะวิวาทแทบทุกวันจนต้องย้ายโรงเรียน แต่ก็ยังมีพฤติกรรมเช่นเดิม สุดท้ายครอบครัวก็ส่งมาอยู่กับพี่ชายที่กรุงเทพฯ ซึ่งตนก็ยังทำตัวเหมือนเดิมและเริ่มหากลุ่มเพื่อนที่มีพฤติกรรมเหมือนๆ กัน ที่เรียกกันว่า “ผีเห็นผี” มีการรวมกลุ่มกิน เที่ยว และเข้าวงจรยาเสพติด และสุดท้ายก็ชวนกันไปปล้นจนถูกจับ ตนเข้าไปอยู่ในคุกเด็ก ซึ่งก็ต้องทำทุกอย่างให้ตัวเองอยู่รอดในสถานที่แห่งนั้นที่มีแต่อำนาจ ความรุนแรง และความกลัว แต่ไม่ได้ช่วยเปลี่ยนความคิดของตน จนกระทั่งตนขอมาอยู่ที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน(ชาย)บ้านกาญจนาภิเษก ที่มี “ป้ามล-ทิชา ณ นคร” เป็นผู้อำนวยการ

“ที่นี่ผมได้รับการกอดที่ไม่เคยได้สัมผัสเลยทั้งชีวิต ป้ามลพูดกับผมแบบเข้าใจ ไร้ซึ่งอำนาจ และกระบวนการต่างๆ ที่เปลี่ยนความคิดผมก็ค่อยๆ เริ่มต้น เช่น การมีสิทธิกำหนดกฎกติกาในการอยู่ร่วมกัน การเคารพในสิทธิเนื้อตัวร่างกาย การไม่ใช้ความรุนแรง วิเคราะห์ข่าว วิเคราะห์ภาพยนตร์ ทำกิจกรรมกลุ่ม กิจกรรมอาสา เขียนบันทึกก่อนนอน ฯลฯ ทุกอย่างค่อยปรับความคิดผมอย่างไม่รู้ตัว จนออกมาจากที่นั่น และพยายามรวมกลุ่มเพื่อนที่เคยก้าวพลาด ให้มาทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์เพื่อสังคม เช่นเป็นวิทยากร กิจกรรมจิตอาสา ให้คำปรึกษาน้องๆ รุ่นหลัง เป็นต้น วันนี้ผมขับรถมาจากกรุงเทพฯเพื่อมาเจอน้องๆ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ประสบการณ์ผมจะช่วยเป็นวัคซีนชีวิตที่ดีให้กับน้องๆ ได้บ้าง” นายอภิรัฐ ระบุ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top