หนังสือวางจำหน่ายแล้วที่ B2S และที่ facebook fanpage:Move Publishing

มีนักฟุตบอลอยู่หนึ่งคนที่โด่งดังแทบจะตลอดเวลาในปีปฏิทิน ค.ศ.2015

หนึ่งในนั้นจะมีชื่อของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันผู้ยิ่งใหญ่ และจงรักภักดีต่อสโมสร “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล

ที่ประกาศอำลาทีมไปเมื่อ 2 มกราคม ที่ผ่านมา แน่นอนว่า สร้างความเสียใจ และเสียดายให้แฟนบอลเดอะ ค็อป ทั่วทั้งโลก เพราะศูนย์รวมแห่งจิตวิญญาณของลิเวอร์พูลในยุคของ โมเดิร์นฟุตบอล

เจอร์ราร์ด คือ คนคนนั้น

ในโลกลูกหนังภาค “เงินใช้ผีโม่แป้ง” ไม่สามารถมาฟาดซื้อตัว เจอร์ราร์ด ไปไหนได้ กระทั่งสุดท้ายเขาลาแอนฟิลด์ไป สหรัฐอเมริกา ทำให้ทุกอย่างที่เป็น “สตีเว่น เจอร์ราร์ด” ยิ่งมีคุณค่า และถูกจับตามองเป็นพิเศษ

ทุกอย่างขายหมดเกลี้ยงเป็นปรากฏการณ์ ทั้งหนังสือประจำแมทช์การแข่งขันนัดส่งท้ายกับ คริสตัล พาเลซ, ผ้าพันคอประจำแมทช์ฯ, ผ้าพันคอแฟนซีนของแฟนบอลลายเจอร์ราร์ด และทุกสิ่งอย่างประดามีกลายเป็นสินค้าขายดีประจำเมืองเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

ตั๋วเข้าชมเกมราคาทะลุไปกว่าใบละ 3 หมื่นบาท ในนัดส่งท้ายแอนฟิลด์

กระทั่งมีการออกหนังสือ “Steven Gerrard My Story” ออกมาหลังจากเขาไปอยู่กับ แอลเอ แกแล็คซี่ ทำให้โลกจับตามองเขามากขึ้นอีกครั้ง

หนังสือเล่มนี้เป็นที่ต้องการจากแฟนบอลทั่วโลก และในภาคภาษาไทย ภายใต้ชื่อ “สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานตลอดกาลแห่งแอนฟิลด์”

คุณจีรวรรณ ด้วงนาม แฮร์เรียต

ภายใต้การดูแลของ Move Publishing

พร้อมกับผู้แปลคือ จีรวรรณ ด้วงนาม แฮร์เรียต และคณะ

ซึ่งปัจจุบัน คุณจีรววรณ หรือ “จีราร์ด” เป็นบรรณาธิการเว็บไซต์ลิเวอร์พูล ภาคภาษาไทย ตั้งแต่วันแรกของการเปิดตัวในภาษาบ้านเรา เป็นเวลากว่า 2 ปีครึ่ง

เรานำท่านไปดูมุมมองของเธอเกี่ยวกับ เจอร์ราร์ด และหนังสืออัตชีวประวัติที่แฟนบอลทั่วโลกเฝ้ารอคอย.....................................

l ช่วงที่มีข่าวว่า เจอร์ราร์ด จะยุติบทบาทตัวเองในแอนฟิลด์ มีความเชื่อกับข่าวนั้นหรือไม่ และวงในมีข่าวกรองบ้างหรือเปล่า

“ในฐานะแฟนบอลเชื่อว่า น่าจะมีโอกาสที่จะอำลาทีม เพียงแต่ข่าววงในนั้นไม่มีอะไรเล็ดลอดออกมาเลย แต่เมื่อเราติดตามอย่างใกล้ชิดแล้วจะเห็นว่า เจอร์ราร์ด น่าจะไปแน่ เนื่องจากเขาไม่มีความสุขเหมือนกับที่ผ่านมา”

l แรงบันดาลใจในการแปลหนังสือเล่มนี้

การที่เราเป็นแฟนลิเวอร์พูล และเป็นแฟนเจอร์ราร์ด การได้แปลเล่มนี้ถือเป็นเกียรติยศส่วนตัว ซึ่งตัวเองเป็นแฟนบอลลิเวอร์พูล มาตั้งแต่ยุคสไปซ์บอย ปี 1995 เมื่อก่อนนี้ชอบ สตีฟ แม็คมานามาน มากๆ จนกระทั่งได้เห็น เจอร์ราร์ด คิดว่า คนคนนี้น่าจะมีอะไรที่มาช่วยให้ทีมเราแข็งแกร่งขึ้น

ที่สำคัญ เจอร์ราร์ด นี่แหละที่ทำให้ต้องการที่จะมาทำงานทางสายนี้

สตีเว่น เจอร์ราร์ด ถือเป็นไอดอลของหลายคน รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจของผู้แปลเล่มนี้ด้วย

l ทัศนคติที่มีต่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด

วินาทีแรกที่เห็น เจอร์ราร์ด คิดว่า คนนี้จะเป็นคนที่ทำให้แดนกลางลิเวอร์พูลมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพราะในตอนนั้นมีแต่นักเตะประเภทบอบบาง อาทิ สตีฟ แม็คมานามาน หรือ เจมี่ เร้ดแนปป์ เราขาดความดุดัน พอเห็นเด็กคนนี้ ดูท่าจะเกรียนๆดี น่าจะทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น

“เจอร์ราร์ด จะมีความเชื่อว่า เราจะไม่แพ้ เป็นความเชื่อที่ส่งผ่านมาถึงแฟนฟุตบอลทุกคน มีหัวใจความมุ่งมั่นในชัยชนะ ทำให้เรามีความเชื่อมั่นในทีมว่า เมื่อมีกัปตันคนนี้อยู่ในสนามเค้าจะทำได้ทุกสิ่งทุกอย่าง”

l ไฮไลท์ของเล่มนี้อยู่ตรงไหน

ไม่อยากจะพูดว่า บทที่เขาลื่นล้มในเกมกับ เชลซี แล้วทีมไม่ได้แชมป์ แต่มันเป็นการลื่นล้มที่มีอะไรมากกว่านั้น มันแสดงให้เห็นถึงผู้ชายคนนี้ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะคว้าแชมป์ มาให้แฟนๆของเขา ถึงแม้เขาจะทำไม่สำเร็จ สุดท้ายเขาก็ยังมีความพยายามอยู่ ที่สำคัญไม่อยากให้มองว่า จุดที่ลื่นทำให้พลาดแชมป์ เพราะบอลมันเตะ 38 นัด ไม่ใช่พลาดนัดเดียวแล้วไม่ได้แชมป์

l บทไหนที่คุณแปลแล้วชอบที่สุด

ชอบทุกบท ชอบตั้งแต่หน้าแรกตั้งแต่อารัมภบท อ่านแว่บแรกแล้วน่าตกใจมาก กัปตันลูกผู้ชายอกสามศอก แบกทีมเอาไว้บนสองบ่า แล้วไปนั่งร้องไห้อยู่ในรถ เห็นความอ่อนแอของผู้ชายคนหนึ่งที่เราไม่คิดว่าจะได้เห็นเขาเป็นแบบนี้ และการนำเรื่องจากวันที่แพ้ เชลซี เป็นบทนำ ถือเป็นดราม่าตั้งแต่หน้าแรก เพราะจุดนี้เป็นแผลในใจของเขา เป็นจุดตำหนิในใจของเขามากๆ นี่คือจุดต่ำสุดของเขา เขากลับมาได้ยังไง เขามีวิธีรับมือยังไง

l กดดันหรือไม่ที่ต้องมาแปลหนังสือที่หลายคนจับตามอง

กดดันมาก เหมือนเราลงสนามไปลงเล่นเกมใหญ่อย่างการเจอกับ แมนฯยูไนเต็ด, แมนฯซิตี้, เชลซี, อาร์เซนอล เลยก็ว่าได้ ทุกบทในเล่มนี้เป็นเกมใหญ่ทุกบท มีความกดดัน แต่ทางสำนักพิมพ์ก็ช่วยเหลือ ทีมงานก็เต็มที่

l ผู้หญิงมาแปลหนังสือเจอร์ราร์ด นักบอลที่มีสไตล์การเล่นดุดัน มันจะแปลกหรือไม่

ถือว่าไม่แปลก ตั้งแต่ทำงานทวิตเตอร์ให้กับสโมสร ทีมงานส่วนใหญ่ผู้หญิง มีผู้ชายเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น เพราะเราถือคติที่ว่า “เราคือแฟนบอล ไม่มีเพศ”

สำหรับคนที่ชื่นชอบในสตีเว่น เจอร์ราร์ด เป็นเรื่องราวที่ถ่ายทอดด้วยตัวของเขาเอง ถ้าคุณต้องการอยากจะทราบเรื่องราวต่างๆ คุณจะต้องไม่พลาดเล่มนี้

l ถ้ามีโอกาสได้พบกับ เจอร์ราร์ด คุณจะบอกอะไรกับเขา

ต้องการบอกกับเขาว่า ที่มีอาชีพวันนี้ได้เพราะ เจอร์ราร์ด กับสโมสรลิเวอร์พูล เนื่องจากการทำงานด้านสื่อสารมวลชน ก็เพราะอยากจะได้บัตรนักข่าวเพื่อเข้าไปทำข่าวตอนที่ ลิเวอร์พูล มาทัวร์เมืองไทยเมื่อปี 2001 ที่เราได้ 3 แชมป์ แต่สุดท้าย เจอร์ราร์ด บาดเจ็บและไม่ได้มา จากวันนั้นถึงเวลานี้ยังคงทำงานในสายอาชีพนี้และยังคงรอโอกาสในที่จะได้สัมภาษณ์ เจอร์ราร์ด เป็นการส่วนตัวสักครั้ง

“เพราะนั่นจะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต!”

บี แหลมสิงห์ สัมภาษณ์/เรียบเรียง