เรียกว่าเป็นข่าวกันมาอย่างยาวนานเลยทีเดียวสำหรับ การย้ายทีมของ พอล ป็อกบา จอมทัพทีมชาติฝรั่งเศส ของสโมสร ยูเวนตุส แชมป์ กัลโช่เซเรียอา อิตาลี ซึ่งมีข่าวว่า “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นต้องการตัวดาวเตะรายนี้ไปร่วมทีมด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติโลกถึง 100 ล้านปอนด์(ราว 5,000 ล้านบาท) ซึ่งถึงเวลานี้ก็เป็นช่วงเวลาร่วมเดือนเข้าไปแล้วและมีคำถามเกิดขึ้นว่า เจ้าตัวจะย้ายทีมหรือไม่

นับตั้งแต่ ป็อกบา บอกลา เลอ อาฟร์ มาพัฒนาฝีเท้ากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อช่วงซัมเมอร์ 2009 ฝีเท้าของเขาก็รุดหน้าแบบก้าวกระโดด ทว่ากลับไม่เคยได้รับการเหลียวแลเท่าที่ควร นั่นนำมาสู่การแตกหักไม่ยอมเจรจาต่อสัญญาฉบับใหม่กับ “ปีศาจแดง” ในปี 2012 ก่อนจะเก็บข้าวของออกจากถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปร่วมทัพยูเวนตุส ซึ่งนั่นคือการตัดสินใจครั้งสำคัญของมิดฟิลด์ดาวรุ่งวัยเพียง 19 ปี ที่แทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการย้ายมายูเวนตุส จะเป็นเส้นทางที่สวยงามดั่งที่ตั้งใจไว้ หรือเต็มไปด้วยขวากหนามยิ่งกว่าเก่า

แต่ก็อย่างที่ ทราบดีว่าชีวิตที่อิตาลีของ ป็อกบา นั้นรุ่งโรจน์สุดๆ พร้อมกับสถาปนาตัวเองเป็นกำลังสำคัญของ “ม้าลายตูริน” คว้าแชมป์มาครองได้อย่างมากมาย จนกระทั่งผ่านมา 3 ฤดูกาล เจ้าตัวก็ขึ้นมาเป็นนักเตะระดับโลก และได้รับความสนใจจากสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป โดยเฉพาะ “ปีศาจแดง” ทีมเก่าของเขานั้นเองจนกำลังจะกลายเป็นเจ้าของค่าตัวสถิติโลกคนใหม่

แม้ว่าสถานการณ์เวลานี้ยังคงคลุมเครือเมื่อมิโน ไรโอล่า เอเยนต์ส่วนตัวของ ป็อกบา ดึงเชงกลับมาอีกครั้ง โดยเปรยว่ายังมีโอกาสที่ ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติฝรั่งเศสซึ่งเล่นได้อย่างน่าผิดหวังในฟุตบอลยูโร 2016 จะเลือกค้าแข้งอยู่กับ ยูเวนตุส ต่อไป

อย่างไรก็ดี เชื่อว่าอย่างไรเสีย เราจะได้เห็นนักเตะค่าตัวสถิติโลกคนใหม่ และจะเป็นคนแรกที่มีค่าตัวถึง 100 ล้านปอนด์กันค่อนข้างแน่ ซึ่งจากที่ได้เห็นฟอร์มใน ยูโร ครั้งที่ผ่านมา หลายคนต้องเกิดการตั้งคำถามขึ้นมาแน่นอนว่า ดาวเตะค่าตัวโอเวอร์เรทรายนี้มีความคุ้มค่าตรงไหน

ช่วงที่ค้าแข้งกับ “ม้าลาย” ยูเวนตุส ในอิตาลี นั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
หลัง กวาดแชมป์มาอย่างมากมาย จนก้าวขึ้นเป็นนักเตะระดับท็อปของโลก

ต้องยอมรับว่าในหมู่นักเตะสตาร์ที่เกิดขึ้นมาใหม่นั้น ป็อกบาเป็นหนึ่งในคนที่โดดเด่นที่สุดของโลก โดยเวลานี้จะเป็นรองก็เพียงแค่ เนย์มาร์ เท่านั้น ซึ่งจากที่ทำตามคำสั่งของเอเยนต์อย่าง ไรโอล่าพร้อมเก็บข้าวของย้ายออกจากโอลด์ แทรฟฟอร์ด และไปค้าแข้งกับยูเวนตุส ป็อกบา ได้แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ในตัวอันล้นเหลือ พร้อมพาทีมคว้าแชมป์ได้ทุกฤดูกาลที่เขาลงสนาม

แม้จะไม่ได้เห็นสิ่งเหล่านั้นเลยก็ตามในฟุตบอลยูโร แต่ใครที่ติดตามตลอดจะรู้ว่า ป็อกบา คือนักเตะที่มีความเป็นสตาร์ในตัวเองสูงมาก ไม่ว่าจะด้วยท่วงท่า ลีลา หรือความสามารถในการตัดสินเกม รวมไปถึงตำแหน่ง ที่เคยเล่นกลางรับมาก่อน ค่อยๆขึ้นไปเป็นกลางรุก ริมเส้นก็สามารถทำได้แล้ว และสิ่งเหล่านี้คือ มูลค่าเพิ่มที่ทำให้เพลย์เมคเกอร์ของยูเวนตุสรายนี้ แตกต่างจากนักเตะคนอื่น

อย่างที่เราทราบกันดีก่อนหน้านี้ “ปีศาจแดง” ในยุคของ หลุยส์ ฟานฮาล นั้นน่าผิดหวังแค่ไหน ในยุคของกุนซือชาวดัตช์ นั้นอย่างที่เราทราบดีคือเขาได้คว้าตัวนักเตะในแดนกลางมาหลายต่อหลายคน ไม่ว่าจะเป็น มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน, บาสเตียนชไวน์สไตเกอร์ หรือ อันเดร เอร์เรร่า ซึ่งสุดท้ายผู้เล่นที่ว่ามาต่างสอบตกในการเล่นให้กับ ยูไนเต็ด แทบทั้งหมด

การเล่นที่เคยดุดัน กลับกลายเป็นห่วยแตกสุดๆ ทั้งๆที่มีสตาร์เต็มทีมมากมาย การที่ ยูไนเต็ด ครองบอลเฉลี่ยมากถึง 59.92% แต่การสร้างโอกาส, การยิงเข้ากรอบ, การแอสซิสต์, การผ่านบอล, การเอาชนะในลูกกลางอากาศ ทุกอย่างต่ำกว่ามาตรฐานหมด ซึ่งเชื่อว่าปัญหาทุกอย่างนี้จะหมดไปเมื่อได้ป็อกบา มาร่วมทีม

เดินทางไปพักร้อนหลังจบยูโร 2016 ที่ผ่านมา และก็ได้พบกับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
ดาวยิงตัวใหม่ของ แมนฯยูไนเต็ด ที่ร้านอาหารในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่แน่ อิบราฮิโมวิช
อาจจะชักชวน ป็อกบา ให้ย้ายมาร่วมทีมเดียวกับเขาก็เป็นได้

ในช่วงเวลาที่ค้าแข้งกับ ยูเวนตุส ป็อกบา เล่นได้ทั้งกองกลางตัวรุกและตัวรับ จะถ่างออกมายืนริมเส้นบ้างก็พอไหว แต่ถ้าหากย้ายมาโอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นไปได้ที่ โชเซ่ มูรินโญ่ จะเลือกใช้งานในบทกองกลางตัวรับและขยับ เวย์น รูนี่ย์ ขึ้นไปยืนกองหน้าตัวต่ำได้ หรือหากจำเป็นจะจับไปลงเล่นตรงไหนก็ได้

ด้วยวัยเพียง 23 ปี และพรสวรรค์ที่ มูรินโญ่ สามารถขัดเกลาให้สูงขึ้นไปเป็นระดับโลก เหมือนเช่นที่เคยทำมานักต่อนักก่อนหน้านี้ เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นเหตุผลที่พอฟังขึ้นว่าทำไม พอล ป็อกบาจึงต้องมีค่าตัว 100 ล้านปอนด์ และทำไมทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องการจะทวงคืนความยิ่งใหญ่กลับมาอีกครั้ง

ต้องการเขาเป็นกำลังสำคัญในอนาคตนับจากนี้ไป

กาลอป