(บน) อังกฤษ ชุดรอบคัดเลือก หายไปหลายคนในบอลโลกหนนี้ (ล่าง) แฮร์รี่ เคน กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กลายเป็นกำลังสำคัญในชุดนี้

เหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 เดือน “ฟุตบอลโลก 2018” กำลังจะเดินทางมาถึง

แฟนกีฬาสามารถติดตามแบบเกาะติด “ก่อนใคร” อันนี้ยืนยันจริงๆ เพราะ “แนวหน้า” ระเบิดความมันส์เกี่ยวกับมหกรรมนี้อย่างเป็นทางการ ผ่านทาง www.naewna.com ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

หลายทีมขยับตัวกันค่อนข้างต่อเนื่อง แต่ที่พอขยับแล้ว มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดคงไม่พ้น “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ

ที่คุณอาจจะใช้คำว่า “ทีมมหาชน” หรืออาจจะเป็น “ทีมใกล้ตัว” ก็ได้ทั้งนั้น

แต่ไม่ใช่ในฐานะ “ทีมเต็งแชมป์”

การเปิดโผของ แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือของทีมหนนี้ ถามว่าเซอร์ไพรส์หรือไม่ อันนี้ก็ตอบว่าได้ในหลายตำแหน่ง แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้เกินคาดเท่าไหร่นัก

เพียงแต่โดนวิพากษ์วิจารณ์ยับที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว!

เซาธ์เกต เลือกนักเตะตามแบบฉบับของตัวเอง เลือกจากอุดมคติ และเลือกจากฟอร์มการเล่นอย่างชัดเจนสุดๆ

แม้บางตำแหน่งจะซับซ้อนยิ่งกว่าแผลกดทับ อาทิ เรียกมาทำไม “แบ๊ก 6 คน”

เซาธ์เกต กล่าวว่า คือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับตัวผม ในฐานะผู้จัดการทีม และเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเช่นกันกับตัวนักฟุตบอล มันเป็นเรื่องยากมากที่ผมจะพูดกับนักบอลที่ไม่ได้ติดทีมไปฟุตบอลโลก มันเป็นสิ่งที่ยาก หากคุณต้องบอกข่าวร้ายกับใคร แต่ผมเชื่อว่าความเป็นมืออาชีพทำให้ทุกคนเข้าใจได้ เพราะผมได้พยายามเคารพพวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

“ผมกำลังมุ่งหน้าสู่ซัมเมอร์นี้อย่างเต็มกำลัง” เซาธ์เกต กล่าว “นี่คือเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ของผม ในฐานะตัวแทนของประเทศ ที่จะเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลโลก ฟุตบอลที่สำคัญที่สุดในโลก และในฐานะที่เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่จะทำในฐานะผู้จัดการทีม”

เขาเลือกที่จะโทรศัพท์ไปบอกนักเตะที่จะไม่ได้ไปร่วมโม่แข้งในบอลโลกครั้งนี้ ตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ที่โชคร้ายนั้นมีชื่อของ แจ็ค วิลเชียร์ กองกลางตัวกลั่นของ อาร์เซนอล ที่จะถูกตัดออกจากทีมชุดนี้ด้วย เนื่องจาก กุนซือสิงโตคำราม ยังไม่มั่นใจในอาการบาดเจ็บของเจ้าตัว รวมไปถึงฟอร์มช่วงท้ายฤดูกาลที่ตกลงไปด้วย

ขณะเดียวกัน อดัม ลัลลาน่า กองกลางของลิเวอร์พูล ที่เพิ่งได้กลับมาลงสนามกับ “หงส์แดง” ได้อีกครั้งในเกมนัดปิดฤดูกาลที่เอาชนะ 4-0 ก็หลุดจากทีมด้วยเช่นกัน

แกเร็ธ เซาธ์เกต ยืนยันว่า การเลือกทีมชุดนี้ไม่ได้เสี่ยงโชค แต่มาจากฝีเท้าล้วนๆ

สาเหตุอาจจะบอกได้ว่า วิลเชียร์ กับ ลัลลาน่า โชคร้ายไม่ติดทีมชุดนี้ ก็เพราะอาการบาดเจ็บ และยังไม่สามารถเล่นได้เหมือนเดิม

กรณีนี้ ลัลลาน่า ถือว่าโชคร้ายสุดๆ เพราะช่วงคัดบอลโลกเขาคือหัวใจหลักของทีม แต่เมื่อไม่ฟิตก็ต้องทำใจ

ทนดูอยู่กับบ้านเหมือนกับที่ใจแตกสลายไปก่อนหน้านี้อย่าง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน กับ โจ โกเมซ ที่บาดเจ็บพักยาว

“ลัลลาน่า ใกล้เคียงมากกับการติดทีมไปหนนี้ แต่ผมมองว่า เขาควรมีเวลามากกว่านี้ในการลงสนาม และในการฟื้นตัว แน่นอนเขาโชคร้ายที่บาดเจ็บไป และมีความฟิต
ที่ไม่เพียงพอ ผมหวังว่าเขาจะมุ่งมั่นกลับมาในการติดธงครั้งต่อไป” เซาธ์เกต กล่าว

อีกคนที่หลายคนอาจจะรู้สึก และหลายคนอาจ “ไม่รู้สึกรู้สา” นั่นคือ โจ ฮาร์ท เพราะผลงานชัดเจนมาก กลายเป็น “อีซี่ย์ ฮาร์ท” กับการไม่ควรไปฟุตบอลโลกหนนี้ แต่นั่นหมายความว่า 3 นายประตูของทีมที่ติดไปเล่น

เป็นประเภทประสบการณ์น้อยด้อยศึกษาทั้งนั้น นาทีนี้ติดทีมชาติรวมกันแค่ 9 เกม

โดยเฉพาะ นิค โป๊ป จอมหนึบจาก เบิร์นลี่ย์ มาติดทีมร่วมกับ จอร์แดน พิคฟอร์ด และ แจ็ค บัตแลนด์ แทนที่ ฮาร์ท หากใครไม่ได้ติดตามก็ถือว่า “แปลกมาก” แต่ถ้าเห็น “พี่โป๊ป” ที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการเป็นพระเอกของออเจ้าทั้งประเทศ

อันนี้ต้องยอมพี่โป๊ปจริงๆ

12 ปีที่แล้วเขาโดนเขี่ยทิ้งจาก อิปสวิช ก่อนจะไปเป็น “พนักงานส่งนม” อยู่เลย!!!!!

กระทั่งได้เล่นพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ เพราะ ทอม ฮีตัน โกล์ตัวจริงเจ็บ แล้วเขาก็แจ้งเกิดทันที ได้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ เบิร์นลี่ย์ เซฟจนพาทีมไปบอลยุโรป และได้ไปฟุตบอลโลก

“กรณีของ โจ ฮาร์ท เหมือนกับ ลัลลาน่า แม้ว่าจะเขาจะไม่ได้ไปฟุตบอลโลกครั้งนี้ แต่เขาก็ยังมีโอกาสที่จะกลับมาติดทีมชาติอีกครั้งในอนาคต ส่วน 3 คน ที่ผมเลือกมาทั้ง บัตแลนด์, พิคฟอร์ด และโป๊ป นี่คือผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดของประเทศในตอนนี้”

ขยับที่แผงหลัง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เป็นอีกคนที่ “ไม่เคยติดทีมชาติ” แต่ได้ไปฟุตบอลโลกทันที น่าสนใจก็คือ เขาคือตัวเลือก “ลำดับสุดท้าย” ในตำแหน่ง “แบ๊กขวา” ของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ต้นสังกัด

แต่ยังไม่ทันซีซั่นจะเริ่ม นาธาเนี่ยล ไคลน์ แคนดิเดตที่จะเบียดกับ ไคล์ วอล์คเกอร์ ในการเป็น “แบ๊กขวาตัวจริงทีมชาติ” ก็มาโชคร้ายสุดๆ เจ็บหนักที่บริเวณแผ่นหลังต้องพักยาวมากว่าครึ่งปี

ขณะที่ โจ โกเมซ ที่แม้จะมีรูรั่วให้เห็นบ่อยครั้ง แต่ก็ได้รับความไว้วางใจให้ยึดเป็น “แบ๊กขวาตัวจริง” ของสโมสร ก่อนจะก้าวมาติดทีมชาติ และได้รับการยกย่องอย่างมากในการไล่ประกบ เนย์มาร์ จูเนียร์ ได้อย่างเนียนตา

แต่ โจ ก็มาเจ็บ ในระหว่างกำลังเบียดตำแหน่งกับ เทรนท์ ทำให้ เทรนท์ ยึดตัวจริงได้ทันที แม้ โกเมซ จะกลับมาแต่ เทรนท์ เร่งฟอร์มเหนือกว่าไปแล้ว

โดยเฉพาะการเปิดบอลโค้งจากด้านกว้าง ซึ่งเป็นมิติการบุกจากแนวลึกของทีม ทำให้ เทรนท์ เป็นอาวุธสำคัญในเกมรุกของทีมอีกด้วย

นิค โป๊ป อดีตพนักงานส่งนม ก้าวไปเล่นฟุตบอลโลก ได้อย่างน่ายกย่อง

จึงเป็นคำถามครั้งสำคัญว่า เทรนท์ รวมไปถึง รูเบน ลอฟตัส-ชีค ว่า ประสบการณ์น้อยถึงน้อยมากเกินไปหรือไม่

เซาธ์เกต อธิบายว่า ที่จริงแล้วเรามีนักเตะดาวรุ่งที่เราอยากให้มาร่วมทีมมากมาย อาทิ ยาดอน ซานโช่ จากดอร์ทมุนด์ และไรอัน แซสเซยอง จากฟูแล่ม ก่อนที่เราจะเลือก เทรนท์ กับ รูเบน มาอยู่ในทีม หากว่าคุณเห็นฟอร์มของเขาแบบที่ผมกับทีมงานได้เห็น ก็คงไม่แปลกใจว่าทำไมต้องเลือก

“การเรียกตัว เทรนท์ กับ รูเบน ไปบอลโลก ไม่ใช่ความเสี่ยง เพราะจะอย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนนี้ก็ต้องติดทีมชาติอยู่ดี มันจะเกิดขึ้นแน่นอนไม่วันนี้ หรือไม่ก็อีก 6 เดือน, 12 เดือน หรือ 18 เดือนข้างหน้า”

น่าสนใจก็คือประเด็นที่สร้างความสับสนอย่างมากให้กับแฟนบอลหลายคน เพราะว่า เซาธ์เกต แกเรียกแบ๊กมาทำไมถึง 6 คน

แบ๊กขวา ประกอบด้วย คีแรน ทริปเปียร์, ไคล์ วอล์คเกอร์ และเทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

แบ๊กซ้าย ประกอบด้วย แดนนี่ โรส, แอชลี่ย์ ยัง และ ฟาเบียน เดลฟ์

จุดนี้ กุนซือสิงโต บอกว่า มันเป็นไปตามแท็กติก!!!

เราลองมาไล่กันดูทีละคน

ทางขวาก่อน ทั้ง 3 คน คือ “แบ๊กอาชีพ” เมื่อ วอล์คเกอร์ ย้ายไป แมนฯซิตี้ ทำให้ ทริปเปียร์ ขึ้นมายึดตัวจริงที่สเปอร์ส ส่วน เทรนท์ อย่างที่บอกไป ทุกอย่างมาพร้อมกันจริงๆ

นอกเหนือจากตำแหน่งนี้ เทรนท์ สามารถขยับเล่นมิดฟิลด์ได้ ซึ่งเขาเคยเล่นมาก่อนทั้งตำแหน่งกองกลาง, แบ๊กขวา และวิงแบ๊กขวา

ทางซ้ายบ้าง ถ้านับแบ๊กอาชีพจริงๆ มีแค่ โรส เท่านั้น แต่ว่า ยัง คืออดีตปีกอาชีพ ส่วน เดลฟ์ คือกองกลางกลายพันธุ์ แต่ปีนี้ทั้งคู่เล่นได้อย่างสุดยอดชนิดที่แบ๊ก
อาชีพยังตกงาน

ดาร์เมี่ยน, ดาเลย์ บลินด์, ลุค ชอว์ และมาร์กอส โรโฮ เบียด อ.ยัง ที่แมนฯยูไนเต็ด ไม่ได้แม้แต่รายเดียว ส่วน เดลป์ นี่ทำให้ทุกคนในแมนฯซิตี้ ลืมสองแบ๊กค่าตัวรวมกันเกือบ 100 ล้านปอนด์ไปเลยทั้ง เบนฌาแม็ง เมนดี้ ที่เจ็บยาว และ ดานิโล่ ที่เบียดสู้ เดลป์ ไม่ได้

เมื่อพิจารณากันตรงนี้แล้ว “เป็นไปได้” ที่ เซาธ์เกต อาจเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ 3 คน แล้วเดินเกมด้วยระบบ 3-4-3 หรือ 3-4-2-1 เนื่องจากตัวเลือกในแดนกลางมีน้อย

“4” ตรงนั้นแบ่งเป็น สองห้องเครื่องกับ สองวิงแบ๊ก

ส่วน “3” ล่างสุด เป็นไปได้เหมือนกันที่ วอล์คเกอร์ จะได้ยืนเหมือนกับการเล่นให้ แมนฯซิตี้ แล้วอีกสองก็วัดดวงกันระหว่าง เคฮิลล์, สโตนส์, โจนส์ หรือ แม็คไกวร์

เพราะเวลาเล่นเกมรุก ก็ปรับเซ็นเตอร์เหลือสองคนแล้วให้ วอล์คเกอร์ ขึ้นมาเล่น กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง หรืออาจใส่ ทริปเปียร์ กับ เทรนท์ แล้วแต่สถานการณ์

เพียงแต่ว่า ลงท้ายแล้ว ผมว่าเรียกแบ๊กมาเยอะไป

ยิ่งไปกว่านั้น อังกฤษ ชุดนี้น่าจะเป็นทีมที่ “เรียกเสียงยี้” ได้มากที่สุดอีกครั้ง เมื่อคุณภาพ และปริมาณสู้บรรดายักษ์ใหญ่ที่ประกาศออกมาแทบจะไม่ได้

อันนี้คงต้องยอมจริงๆ แต่บอกได้เลยว่า ถ้าตกรอบแรกนี่ไม่รู้จะพูดคำไหน

“สลาก” อุตส่าห์ช่วยราษฏร์เสริมรัฐ ด้วยการมี ตูนิเซีย กับ ปานามา อยู่ในกลุ่มมาให้ถือแล้ว จะหนักก็ เบลเยียม ทีมเดียว แถมได้เจอกันในนัดสุดท้ายด้วย

ถ้าผ่านไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง เพราะโอกาสกับดวงอยู่ในมือของพวกเขาตั้งแต่จับสลาก

อย่างน้อยรอบแรกไม่น่าพลาดแต่อย่างใด

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ติดทีมชาติครั้งแรก ก็ได้ไปฟุตบอลโลกทันที

ส่วนรอบต่อไป.....ละไว้ในฐานที่เข้าใจ

เพราะอังกฤษไม่ได้ไปในฐานะทีมลุ้นแชมป์นานแล้ว!!!

บี แหลมสิงห์