จังหวะที่ อันเดรส เอสโคบาร์ ทำเข้าประตูตัวเองในเกม โคลอมเบีย เจอกับ สหรัฐอเมริกา 

โศกนาฎกรรมที่น่าเศร้าแห่งฟุตบอลโลก เกิดขึ้นเมื่อปี 1994

อันเดรส เอสโคบาร์ ปราการหลังทีมชาติโคลอมเบีย สังเวยชีวิตเมื่อทีมตกรอบ!

ในเดือนธันวาคมปี 1993 ก่อนหน้าบอลโลก เวอร์ชั่นสหรัฐ จะเริ่มต้นขึ้นไม่ถึงครึ่งปี ปาโบล เอสโคบาร์ พ่อค้ายาเสพติด และธุรกิจนอกกฏหมายชาวโคลอมเบีย โดนตำรวจวิสามัญ ที่เมืองเมเดยิน ตอนนั้น ปาโบล ใส่รองเท้าสตั๊ดอยู่ด้วย!!!

การจากไปของเขาได้ทิ้งช่องว่างที่ต้องถูกเติมเต็มโดยการนองเลือดระหว่างแก๊งค้ายา กับทุก ๆ วงการ เพราะตัวเขาเป็นได้หมดทั้งฆาตกร, คนติดสินบน, พ่อพระ และนักต้มตุ๋น

ปาโบล คือคนบ้าบอล ทำทีมฟุตบอลมากมาย แต่มีอิทธิพลสูงมากในด้านมืดของประเทศ จึงเป็นที่มาของคำว่า อาชญากรผู้คลั่งไคล้ฟุตบอล

มาที่เรื่องของ อันเดรส เขาสกัดบอลพลาดเข้าไปตุงตาข่ายตัวเอง ในเกมกับ สหรัฐ เป็นเหตุให้ โคลอมเบีย ต้องแพ้ 1-2 และตกรอบแรกบอลโลกไปอย่างพลิกล็อค ทั้งที่พวกเขาเป็นเต็งระดับต้น ๆ ของรายการ

อันเดรส เอสโคบาร์ ปราการหลังผู้โชคร้าย

เพื่อนร่วมทีมพยายามเตือน อันเดรส เอสโคบาร์ ว่าอย่าเพิ่งเดินทางกลับประเทศจะเป็นการดีกว่า แต่ อันเดรส ไม่คิดว่าจะมีอะไรร้ายแรง

หลังจากเดินทางกลับบ้านได้ 5 วัน คือวันที่ 2 กรกฏาคม 1994 นักบอลเจ้าของฉายา “The Gentleman” ที่ทำงานต่อสู้เพื่อสังคมของประเทศ ได้นัดกับเพื่อชวนกันไปดื่มที่บาร์แห่งหนึ่งแถบ เอล โปบลาโต้ ชานเมืองเมเดยิน หลังจากแยกกัน ปรากฏว่า มีชาย 3 คนรออยู่ที่รถของ อันเดรส ก่อนจะใช้ปืนขนาด.38 คาลิเบอร์ กระหน่ำยิง 6 นัด

อันเดรส เอสโคบาร์ นอนจมกองเลือดอยู่ที่ลานจอดรถ ก่อนจะไปเสียชีวิตในอีก 45 นาทีต่อมาที่โรงพยาบาล เพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว

ลงท้ายมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยนั่นคือ อุมแบร์โต้ กาสโตร เมนเดซ มือปืนระดับบอดี้การ์ดของแกงค์ค้ายา ที่แค้นเพราะเสียพนันบอล

การเสียชีวิตครั้งนี้ ฟานซิสโก มาตูราน่า กุนซือของโคลอมเบีย บอกว่า อาจไม่ใช่เรื่องการทำเข้าประตูตัวเองในบอลโลก แต่มาจากเหตุผลเรื่องปัญหาภายในประเทศที่วุ่นวายมาก ส่วนแฟนบอลโดยเฉพาะของแอตเลติโก นาซิอองนาล ต้นสังกัดของเขา มีคำกล่าวถึงเหตุการณ์สังหารโหดครั้งนี้ว่า “เรื่องการสังหารนักฟุตบอล จะไม่มีวันเกิดขึ้นหากมันอยู่ในยุคสมัยของ ปาโบล”!!!

ซึ่งที่จริงแล้ว ปาโบล กับ อันเดรส ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน พ้องกันตรงสนามสกุล “เอสโคบาร์”

นี่คือ deadly own goal ที่ถูกจดจำไปตลอดกาล......

บี แหลมสิงห์