‘อังกฤษ’พร้อมลุย

จัดสูตรแชมป์พรีเมียร์ลงบู๊

อึ้งลีกไอซ์แลนด์ด้อยกว่าไทย

เซอร์เบียทุบกล้วยหอม1-0

การแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งที่ 21 ที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นการดวลแข้งวันที่ 5 ของการแข่งขันในวันจันทร์ที่ 18 มิถุนายนนี้ มีการดวลแข้งทั้งหมด

3 คู่ โดยที่ “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ ที่ถูกจับตามองจากแฟนบอลชาวไทย จะประเดิมสนามเกมแรก กลุ่ม จี เจอกับ ทีมชาติตูนีเซีย จากแอฟริกา ในเวลา 01.00 น.ที่โวลโกกราด ถ่ายทอดสดทางช่อง 5 และทรูวิชั่นส์ ช่อง 668 คู่นี้เคยเจอกันในบอลโลก นัดเปิดสนามปี 1998 ครั้งนั้น อังกฤษ ชนะ 2-0

เกมนี้ แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซืออังกฤษ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์พอสมควร เกี่ยวกับเลือกตัวมาเล่นบอลโลกครั้งนี้ จะยึดระบบ 3-4-3 ลงเล่น โดยมอบตำแหน่งด่านสุดท้ายให้กับ จอร์แดน พิคฟอร์ด เฝ้าเสา ขณะที่เกมรับ ไคล์ วอล์คเกอร์ จะยืนกับ จอห์น สโตนส์ และอีกคน แฮร์รี่ แม็คไกวร์ จะเบียด แกรี่ เคฮิลล์ คุมแนวรับ ส่วนแดนกลาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เบียด เอริค ดายเออร์ ลงเล่นกับ เดเล่ อัลลี่ โดยมี เจสซี่ ลินการ์ด, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ทำเกมริมเส้นให้กับ แฮร์รี่ เคน กัปตันทีมรอปิดบัญชี

ฝั่ง “อินทรีขาวแห่งคาร์เทจ” มาแข่งบอลโลกเป็นสมัยที่ 5 แต่ก่อนหน้านี้ 4 ครั้งตกรอบแรกทั้งหมด ไร้เงา ยูซุฟ เอ็มซัคนี่ จอมทัพตัวกลั่นเจ้าของฉายา “เมสซี่ตูนีเซีย” ที่บาดเจ็บหัวเข่าอย่างรุนแรง จนชวดมาเล่นรอบสุดท้ายไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อบาดเจ็บระหว่างการลงเล่นสโมสรต้นสังกัด ทำให้ ซาอิฟ-เอ๊ดดิน คาอุย จอมทัพจาก ทรัวส์ ในฝรั่งเศส เป็นตัวความหวัง แต่ยังมีข่าวดีตรงที่ วาห์บี้ คาซรี่ ปีกตัวกลั่นที่เจ็บยาวมาตั้งแต่เดือนเมษายน ผ่านความฟิตพร้อมลงลากเลื้อย

ขณะที่เกมคู่แรกประจำวัน “ไวกิ้ง” ทีมชาติสวีเดน จะดวลกับ “โสมขาว” ทีมชาติเกาหลีใต้ แข่งขันเวลา 19.00 น.ที่นิซ์ห์นี่ย์ นอฟโกร๊อด ถ่ายทอดสด ช่อง 5 และทรูวิชั่นส์ ช่อง 668

แข้งสวีดิช ผู้คว่ำ อิตาลี แชมป์โลก 4 สมัยให้กลายเป็นผู้ชมในบอลโลกหนนี้ ในการเตะรอบเพลย์ออฟโซนยุโรป นำทัพมาโดย แยนน์ แอนเดอร์สัน จัดระบบ 4-2-2-2 ลงสู้ ด้วยการอาศัยเกมรับที่เหนียแน่นไว้ก่อน และมี เอมิล ฟอร์สเบิร์ก จอมทัพจาก อาร์แบ ไลป์ซิก ที่มีการจ่ายบอลที่เด็ดขาด ส่วนคู่หัวหอก โอล่า ตอยโวเน่น กับ มาร์คุส เบิร์ก ลุ้นพังประตู

ฝั่งของ เกาหลีใต้ ผ่านเข้ารอบมา 9 สมัยติดต่อกัน แต่มีการเปลี่ยนตำแหน่งกุนซือจาก อูลี่ สตีลิเก้ ของเยอรมนี โดนปลดและ ชิน แต-ยอง อดีตนักเตะทีมชาติยุค 90 เข้ามาทำงานแทน แกนหลักสำคัญอยู่ที่แข้งดังอย่าง ซอน ฮึง-มิน ที่มีซีซั่นที่ยอดเยี่ยมกับ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส ในพรีเมียร์ลีก ที่จะเล่นเกมรุกกับ ฮวาง ฮี-ชาน หัวหอกจาก ซัลซ์บวร์กขณะที่แดนกลาง คู จา-โชล จาก เอาก์สบวร์ก กับ คี ซุง-ยอง จาก สวอนซี ซิตี้ คือหัวใจในการปั้นเกม และมี อี ซึง-วู จากเวโรน่า เป็นอีกคนที่จะช่วย ซน ฮึง-มิน ทะลุทะลวง

สำหรับคู่นี้เจอกันมาทั้งสิ้น 3 นัด ปรากฏว่า สวีเดน ยังไม่เคยแพ้ สถิติชนะ 1 และเสมอ 2 ครั้ง

อีกคู่เป็นการเตะของกลุ่ม จี “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยี่ยม พบกับ ทีมชาติปานามาเวลา 22.00 น.ที่โซชิ ถ่ายทอดสดทางทรูโฟร์ยู และทรูวิชั่นส์ ช่อง 668 โดยคู่นี้เจอกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ทั้งสองประเทศอีกด้วย

ทีมของ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มทีมที่มีโอกาสลุ้นแชมป์ รอเช็คความฟิตของกัปตันทีม แวงซองต์ ก็องปานี และโธมัส แฟร์มาเล่น สองปราการหลัง แต่โอกาสถือว่าค่อนข้างน้อย ทำให้ แยน แฟร์ตองเก้น กับ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ เป็นกำลังสำคัญ ขณะที่แดนกลางขับเคลื่อนโดย เควิน เดอ บรอยน์ อัจฉริยะลูกหนังจากแมนฯซิตี้ เป็นตัวขึ้นบอล ส่วนแนวรุก 3 คนวาง เอแดน อาซาร์ ลุ้นพังสกอร์กับ ดรีส์ เมอร์เทนส์ และโรเมลู ลูกาคู

ขณะเดี่ยวกัน “แข้งแสงเหนือ” ทีมชาติไอซ์แลนด์ ที่ผ่านเข้ารอบบอลโลก ครั้งแรก ก็สร้างความฮือฮาด้วยการเสมอกับ “ฟ้าขาว” ทีมชาติอาร์เจนติน่า 1-1 พร้อมกับมีการนำเสนอเรื่องราวประวัติต่าง ๆ ของทีมนี้กันอย่างกว้างขวาง และได้รับนิยมพร้อมกับชื่นชมอย่างสูงในโลกออนไลน์ ในฐานะเป็นชาติที่มีประชากรน้อยที่สุดแต่ได้ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก

สถิติที่น่าสนใจก็คือ ไอซ์แลนด์ มีฟุตบอลลีก5ระดับ ไล่จาก ไอซ์แลนด์ดิก พรีเมียร์ลีก หรือลีกสูงสุด12ทีม, ต่อด้วยดิวิชั่น 1 มี 12 ทีม, ดิวิชั่น 2 มี 12 ทีม และดิวิชั่น 3 รวม 10 ทีม จากนั้นเป็นระดับดิวิชั่น 4 แบ่งเป็น 4 ลีก ๆ ละ 7 ทีม 3 ลีก และ 6 ทีม 1 ลีก น้อยกว่าไทยลีกของไทยด้วยซ้ำไป แถมชื่อของนักเตะทีมนี้ลงท้ายด้วยคำว่า “สัน” ที่แปลมาจากคำว่า “son” หรือบุตรถึง 22 จาก 23 คนเลยทีเดียว

ทางด้าน การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 คู่แรก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี ระหว่าง ทีมชาติ เซอร์เบีย ดวลกับ ทัพ “กล้วยหอม” ทีมชาติ คอสตาริก้า ที่สนาม ซามาร่า อารีน่า ประเทศรัสเซีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ผลปรากฏว่าเกมนี้ เซอร์เบีย มาได้ประตูชัยในครึ่งหลังนาที นาที 57 จากลูกตั้งเตะหน้ากรอบเขตโทษระยะ 28 หลา และเป็น อเล็กซานเดอร์ โคลาลอฟ แบ็กซ้ายกัปตันทีม ที่ปั่นโค้งด้วยซ้ายเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงาม

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เซอร์เบีย เอาชนะ คอสตาริก้า 1-0 ประเดิม 3 แต้มแรกในฟุตบอลโลกครั้งนี้ได้สำเร็จ สำหรับเกมนัดต่อไป เซอร์เบีย จะดวลกับ สวิสเซอร์แลนด์ ส่วน คอสตาริก้า จะดวลกับ บราซิล ในวันที่ 22 มิ.ย. นี้