ศึกฟุตบอลโลก คู่เวลา 22.00 น.วันพฤหัสบดีที่ 21 มิ.ย.61 ที่เยคาเตรินเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ถ่ายทอดสด ทาง ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และทรูวิชั่นส์ ช่อง 668 เป็นการดวลแข้งในกลุ่ม ซี "ไก่ทองคำ" ทีมชาติฝรั่งเศส แชมป์โลก ปี 1998 ที่มีอยู่ 3 คะแนน จากการชนะ ออสเตรเลีย 2-1 พบกับ ทีมชาติเปรู ที่แพ้ เดนมาร์ก มา 0-1 ในเกมแรก

ครึ่งแรกทั้ง 2 ทีม เปิดเกมรุกเข้าใส่กันอย่างสนุก นาที 11 ฝรั่งเศส ได้ลุ้นจากจังหวะที่ ปอล ป็อกบา ยิงไกลระยะ 30 หลา บอลถากเสาสองออกไปหวุดหวิด

ผ่าน 20 นาทีแรก ฝรั่งเศส เริ่มทำเกมบุกได้ต่อเนื่องกว่า แต่เป็น เปรู ที่เกือบได้ประตูขึ้นนำในนาที 30 จากจังหวะที่ เปาโล เกร์เรโร่ หัวหอกตัวเก๋า แตะหลบ ซามูเอล อูมติตี้ กองหลังฝรั่งเศส ก่อนจะตะบันไปติดเซฟ ฮูโก้ ญอริส นายด่านฝรั่งเศส

กระทั่งนาที 34 เป็น "ไก่ทองคำ" ที่ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ยิงบอลไปติดกองหลัง บอลทะลักมาถึง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ พุ่งยิงบอลซ้ำโล่งๆหน้าประตูเข้าไป พร้อมกับสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในวัยเพียง 19 ปี 183 วัน ที่ยิงประตูได้ในนามทีมชาติฝรั่งเศส ในการลงเล่นฟุตบอลโลก แซงหน้า ดาวิด เทรเซเก้ต์ เจ้าของสถิติเดิมที่ทำไว้เมื่อตอนอายุ 20 ปี 246 วัน 

ช่วงท้ายครึ่งแรก ฝรั่งเศส ยังบุกเข้าใส่ และได้ลุ้นอีกหลายจังหวะ ขณะที่ เปรู รอจังหวะโต้กลับ แต่ทั้ง 2 ทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรกเป็น ฝรั่งเศส ที่ออกนำ เปรู 1-0    

ครึ่งหลัง เปรู แก้เกมเปลี่ยน 2 คน เอา โยชิมาร์ โญตุน ออก แล้วส่ง เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน หัวหอกตัวเก๋าลงมา และถอด อัลแบร์โต้ โรดริเกวซ ออก พร้อมส่ง อันเดอร์สัน ซานตามาเรีย ลงมาแทน

นาที 51 เปรู เกือบได้ประตูตีเสมอ จากลูกยิงนอกกรอบของ เปโดร อากีโน่ ที่เช็ดสามเหลี่ยมนอกออกไปอย่างน่าเสียดาย

หลังจากนั้นเกมของ เปรู ดูดีขึ้น โดยเฉพาะการฝากบอลไปที่ ฟาร์ฟาน โดยนาที 61 ฟาร์ฟาน จ่ายตัดเข้ากลางให้ อันเดร คาร์ริลโล่ ได้สับไกนอกกรอบ บอลเหินข้ามคานออกไป 

เปรู ยังลุยต่อเนื่อง และมาได้ลุ้นอีกจากลูกยิงนอกกรอบของ หลุยส์ เอ็ดวินคูล่า ในนาที 68 แต่บอลข้ามคานไปอีก 

นาที 74 อันเดร คาร์ริลโล่ เปิดบอลจากด้านขวาเข้าไปในกรอบ 6 หลา บอลเลยไปถึง ฟาร์ฟาน กระโดดวอลเล่ย์ บอลกระทบตาข่ายด้านข้างออกไปนิดเดียว 

นาที 85 เปรู ได้ลุ้นฟรีคิกระยะหวังผล และเป็น เปาโล เกร์เรโร่ ตักบอลข้ามกำแพงไปได้ แต่ไม่มีน้ำหนัก ญอริส รับสบาย 

จากนั้นทั้ง 2 ทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกมเป็น ฝรั่งเศส ที่เฉือนชนะ เปรู 1-0 เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นทีมที่ 3 ต่อจาก รัสเซีย และ อุรุกวัย ส่วน เปรู ตกรอบเป็นทีมที่ 4 ต่อจาก โมร็อคโก , ซาอุดีอาระเบีย และ อียิปต์