ความเคลื่อนไหวการแข่งขัน ฟุตบอลชาย ในศึก เอเชี่ยนเกมส์ 2018 ที่ประเทศ อินโดนีเซีย ซึ่งจะทำการแข่งขันกันระหว่างวันที่ 14 ส.ค.-1 ก.ย.นี้ ล่าสุดจะต้องมีการจับสลากแบ่งสายกันใหม่อีกครั้ง

โดยปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ สหรัฐ อาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และ ปาเลสไตน์ ได้ขอยื่นคำร้องต่อ สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) เนื่องจาก “เจ้าภาพ” อินโดนีเซีย ไม่ยอมใส่ชื่อของทั้งสองชาติลงในการจับสลากครั้งที่ผ่านมา แม้ว่าจะส่งเอกสารการแข่งขันถูกต้องทุกอย่างก็ตาม

ซึ่งล่าสุดสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือเอเอฟซี แจ้งมายังสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และแจ้งไปยังทุกชาติที่เข้าร่วมแข่งขันในกีฬาฟุตบอลเอเชี่ยนเกมส์ จะมีการจับสลากแบ่งสายกันใหม่ และจะเพิ่มจาก 24 เป็น 26 ทีม ซึ่งการจับสลากในครั้งใหม่นี้จะจับกันเฉพาะในฟุตบอลชาย โดยตอนแรกจะมีการจับกันในวันศุกร์ที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ทางเอเอฟซีแจ้งมาล่าสุดเลื่อนไปเป็นวันจันทร์ที่ 23 ก.ค. แทน

ทั้งนี้ ทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย จากเดิมอยู่ในกลุ่ม บี ร่วมกับ อุซเบกิสถาน, กาตาร์, บังกลาเทศ จะถูกจับสลากใหม่ทั้งหมด โดยจะเลื่อนจากโถ 2 มาอยู่ในโถ 1 จากผลงานอันดับ 4 เอเชี่ยนเกมส์ครั้งล่าสุด ซึ่งการแบ่งโถใหม่จะแบ่งออกเป็น 4 โถ ดังนี้

โถ 1 : อินโดนีเซีย (เจ้าภาพ : กลุ่ม เอ), เกาหลีใต้, เกาหลีเหนือ, ไทย, อิรัก, ญี่ปุ่น, ซาอุดีอาระเบีย, ยูเออี/โถ 2 : อุซเบกิสถาน, ฮ่องกง, เวียดนาม, ปาเลสไตน์, จีน, คีร์กีซสถาน, มาเลเซีย, บังกลาเทศ/โถ 3 : อิหร่าน, ปากีสถาน, ลาว, ติมอร์-เลสเต, เนปาล, กาตาร์, บาห์เรน, ซีเรีย/โถ 4 : ไต้หวัน และ เมียนมา

สำหรับรูปแบบการแข่งขันรอบแรกจะมีทั้งหมด 8 สาย สายละ 3 ทีม (มีสองสายที่มี 4 ทีม) และจะมีทีมเข้ารอบสายละ 2 ทีม รวมเป็น 16 ทีมสุดท้าย ในรอบน็อกเอาท์ต่อไป