“สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่ทำสถิติชนะรวด 5 เกมแรกในพรีเมียร์ลีก จะบุกไปทำศึกดาร์บี้แมทช์ กรุงลอนดอน ดวลแข้งกับ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ลอนดอน สเตเดี้ยม ในเวลา 19.30 น.

ก่อนเกมจะเริ่มต้นขึ้น แกรี่ เคฮิลล์ ปราการหลังกัปตันทีมที่โดนดร็อปเป็นสำรองตั้งแต่เปิดซีซั่น และยังไม่ได้ลงเล่นเลยในยุคของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือคนใหม่ ได้สร้างความปั่นป่วนให้กับทีม ด้วยการให้สัมภาษณ์ว่า เตรียมย้ายออกจากทีมในช่วงเปิดตลาดเดือนมกราคมนี้ ก่อนสัญญาจะหมดลงในซัมเมอร์หน้า เพราะต้องการความแน่นอนกับอนาคตของตัวเอง

อย่างไรก็ตาม ไม่มีผลต่อการจัดทัพเพราะ ดาวิด ลุยซ์ จะปักหลักเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟกับ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ แต่เกมรุกต้องลุ้นว่า เปโดร จะหายทันหรือไม่จากการเจ็บหลัง ส่วนที่เหลือพร้อมทั้ง เอแด็น อาซาร์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และมาร์กอส อลอนโซ่

ฝั่งเจ้าถิ่นที่กำชัยนัดแรกในนัดก่อน ทะยานหนีบ๊วยได้สำเร็จ รอทดสอบความฟิตของ มาร์โก อาร์เนาโตวิช ที่เจ็บเล็กน้อย คาดว่าจะเข็นลงได้แน่ แต่ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ชิชาริโต้ ยังเป็นไข้หวัด ลงไม่ได้ เช่นเดียวกับ แจ๊ค วิลเชียร์ ที่ต้องผ่าข้อเท้า

อีกคู่ในเวลา 22.00 น.“ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เล่นในบ้านเจอกับ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน โดยที่เจ้าถิ่นนั้นไม่เคยแพ้ให้กับอาคันตุกะจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ มานานถึง 24 นัดติดต่อกัน และกำชัยถึง 20 เกม ซึ่ง เอฟเวอร์ตัน บุกชนะหนสุดท้ายคือมกราคม ปี 1996

“ปืนใหญ่” รอเช็คฟิต ลูคัส ตอร์เรยร่า กองกลางตัวใหม่ที่ยังไม่ฟิตพอ รวมถึง เฮนริค มาคิตาร์ยาน ที่เจ็บข้อเท้าจากบอลยุโรป แต่ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยัง, เมซุต โอซิล พร้อมลุย ส่วนทีมเยือนมีข่าวดีเมื่อ ริชาร์ลิซอน แกนรุกบราซิลพ้นแบนกลับมาเติมความคม รวมถึง เยอร์รี่ มีน่า ปราการหลังโคลอมเบีย ที่ฟิตแล้ว มีสิทธิ์ประเดิมเกมแรกให้กับทีม แต่ อันเดร โกเมส, เซมุส โคลแมน และฟิล ยากิลก้า ยังเดี้ยงทั้งหมด