โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
“สเปอร์ส เหรอ?!?!?! มันก็เก่งไปงั้นแหล่ะ เดี๋ยวเตะกับแมนยูฯ เมื่อไหร่ มันก็ไปถวายตัว หุงข้าวมันรอกันได้เลย!!!!!!!!”
เสียงเย้ยหยันจากแฟนบอลทั้งขาประจำและขาจรของ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ที่ประชดประชัน แกมผิดหวังทุกครั้งที่ทีมขวัญใจ “ยิด อาร์มี่” จะดวลกับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
“ภาพจำ” ที่ปรากฏก็คือ เกมพรีเมียร์ลีก ที่ไวท์ ฮาร์ท เลน เมื่อฤดูกาล 2001-2002
ก่อนหน้านั้น 2 ซีซั่น สเปอร์ส เฝ้ารังเดอะ เลน ไล่จิกผีสบายๆ 3-1 ทั้งสองนัด และทำท่าจะเป็นแบบนั้นอีก เมื่อขึ้นนำไปก่อนถึง 3-0 ในครึ่งแรก แถมรูปเกมเป็นแบบ “เอาท์คลาส”
กลายเป็นว่า ครึ่งหลัง แมนยูฯ เดินหน้าไล่ยิงคืนถึง 5 ลูก พลิกกลับมาชนะยิ่งกว่าผีหลอก 5-3
บันทึกเอาไว้ว่า 29 กันยายน 2001 คือหนึ่งในวันที่ต้องบันทึกเอาไว้ในบัญชีประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ
น่าสนใจก็คือ ตั้งแต่ตอนนั้นละม้ายคล้ายกับว่า สเปอร์ส เข็ดขี้อ่อนขี้แก่ในการเจอกับ แมนฯยูไนเต็ด ทำให้ 26 นัดต่อมาในทุกรายการ
สเปอร์ส ไม่เคยชนะ แมนฯยูไนเต็ด ได้เลย
กระทั่ง มาปลดแอกได้สำเร็จแบบ “ไม่มีใครคาดคิด”เมื่อ 29 กันยายน 2012 หรืออีก 11 ปีต่อมา ซึ่งนักเตะ“ไก่เดือยทอง” ลบล้างมลทินด้วยการบุกไปกำชัยถึงโอลด์ แทรฟฟอร์ด 3-2
ประตูจาก แยน แฟร์ตองเก้น, แกเร็ธ เบล และคลินท์ เคมป์ซี่ย์ เป็นชัยชนะบนถิ่นผีหนแรกในรอบ 32 ปี
เกมแรกที่เจอกันในซีซั่นนี้ สเปอร์ส บุกชนะถึง 3-0
ปัจจุบันมีนักเตะหลงเหลือมา 3 คน ก็คือ แฟร์ตองเก้น, มุสซ่า เดมเบเล่ และอูโก้ ญอริส
เรื่องของ “hoodoo” เริ่มหมดไป ตั้งแต่นั้นมา สเปอร์ส เริ่มที่จะร้อนแรงมากยิ่งขึ้นในการดวลกับ ยูไนเต็ด
3 เกมหลังในถิ่นตัวเอง สเปอร์ส ชนะทั้งหมด และกำลังจะลุ้นชนะในลีก “ที่ไหนก็ได้” 3 นัดติดกันที่มีเหนือผี หากทำได้จะเป็นหนแรกในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ
แต่มันจะง่ายขนาดนั้นเลยล่ะหรือที่ต้องเจอกับ แมนฯยูไนเต็ด ที่กำลังเหมือนตื่นจากภวังค์ในยุคของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
คนที่อยู่ในชุดบอลมหัศจรรย์ 5-3 วันนั้นที่ไวท์ ฮาร์ท เลน!!!
ชัยชนะติดต่อกันในลีก 4 เกม และกำชัยในบอลเอฟเอ คัพ อีก 1 เกม ทำให้การออกสตาร์ทการทำงานของ โซลชา คือชนะรวด 100 เปอร์เซ็นต์ ทาบรัศมีการทำงานในยุคออกสตาร์ทของ เซอร์แม็ตต์ บัสบี้ แต่ไม่วายกับคำถามที่ว่า ที่ผ่านมา
ยังไม่เจอกับของจริง
คาร์ดิฟฟ์, ฮัดเดอร์สฟิลด์, บอร์นมัธ, นิวคาสเซิ่ล และเรดดิ้ง มันยังเบาไปเมื่อเทียบกับศักยภาพของฟุตบอลในปัจจุบัน
แต่ทั้งหมดทั้งมวลคือ เรียกความมั่นใจกลับคืนมาได้เกินร้อยเปอร์เซ็นต์
มหัศจรรย์ลูกหนังปี 2001 ผีตามหลัง 0-3 พลิกชนะไก่ 5-3 ซึ่ง โซลชา อยู่ในทีมชุดนั้น
สไตล์การเล่นของแมนฯยูไนเต็ดในช่วงที่ผ่านมา เหมือนกับอยู่ภายใต้ “กฎและกรอบ” ของ โชเซ่ มูรินโญ่ บอลไปทางไหนก็ไม่ไป โดยเฉพาะเวลาที่จะต้องบุก ก็เหมือนกับไม่เต็มตัว ทุกอย่างเหมือนกับทำงานไม่เต็มที่
กระทั่ง โซลชา เข้ามาทำงานแทนที่ โชเซ่ มูรินโญ่ เหมือนกับได้ “แมนยูฯที่รู้จัก” กลับคืนมา
เล่นเป็นธรรมชาติ, บุกก่อนรับทีหลัง, จังหวะการเล่นหวือหวา, ตัวสำรองพลิกเกมได้ และที่สำคัญก็คือ จังหวะโอกาสและเวลา รวมถึง “ลูกโชค” กลับมามีบทบาทกับทีม
บทพิสูจน์ก็คือ 3 นัดแรกยิงเยอะแต่มีเสียประตู จากนั้นยิงน้อยลงแต่ไม่เสียประตูใน 2 เกมหลัง การมาเยือนนิว เวมบลีย์ จะออกมาแบบไหน
แนวรับจะได้พิสูจน์ตัวเอง ซึ่งตามแผนบนกระดาน ฟิล โจนส์ กับ วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ จะต้องเล่นในตำแหน่งคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เนื่องจาก คริส สมอลลิ่ง เจ็บเท้าต้องพักต่อไปเป็นเกมที่ 7, มาร์กอส โรโฮ ยังอยู่ที่อาร์เจนตินา ในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ และเอริค ไบญี่ ติดโทษแบน
โจนส์ กับ ลินเดเลิฟ ต้องรับมือกับสไตล์การเล่น “กองหน้าคู่” ที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือไก่เลือกใช้งานในซีซั่นนี้
ในตอนแรกคือ แฮร์รี่ เคน กับ ลูคัส มูร่า ส่วนนาทีนี้คือ เคน กับ ซน ฮึง มิน
เหมือนกับแผนนี้ โปเช็ตติโน่ ปรับมาใช้ด้วยการมีนักเตะที่ปราดเปรียวอยู่ในทีม มูร่า ได้เล่นก่อน เพราะช่วงต้นซีซั่น “ตี๋ซน” มาเล่นเอเชี่ยนเกมส์ แถมยืนเหมือนกับหน้าเป้า โดยให้ อิสระการเคลื่อนที่กับ เคน
แผนนี้มาลงตัว และแผลงฤทธิ์อย่างเป็นทางการที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งเกมนั้น สเปอร์ส บุกชนะถึง 3-0 แต่แฟนบอลกลับชื่นชมการทำงานของ มูรินโญ่
แยน แฟร์ตองเก้น 1 ใน 3 นักเตะสเปอร์ส ชุดปัจจุบัน ที่หลงเหลือจากชุดลบล้างคำสาป ปี 2012
“ถ้าคิดจะบุกก็ทำได้ ถึงแพ้แต่ได้ใจไม่มีปัญหา” นี่คือเสียงสรุปจากแฟนบอลผีส่วนใหญ่ แต่......
แต่สำหรับการทำงาน ผู้บริหารส่วนใหญ่จะดูปลายยอด ถ้าเล่นดีแต่แพ้ไปเรื่อยๆ มันก็ไม่ไหว บวกกับการที่ มูรินโญ่ เหมือนกับต้องการจะ “พิสูจน์อะไรบางอย่าง” ทำให้สุดท้ายมันย้อนแย้ง
มาเกมนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปหมด และเชื่อว่าแฟนบอลจะได้ดูเกมสนุก
สเปอร์ส บุกในสไตล์ของพวกเขา คริสเตียน เอริคเซ่น ออกบอล โดยมีเป้าคือ เคน กับ ซน ที่จะเล่นเกมสุดท้ายก่อนไปเอเช่ียนคัพ
อีกคนที่น่าสนใจก็คือ เดเล่ อัลลี
การเคลื่อนตัวของ อัลลี มีประโยชน์มากๆ และปีนี้มิติของเขาที่เพิ่มขึ้นก็คือ การได้รับอิสระในการเล่นเกมรุก สังเกตว่า เขามักจะหลุดไปอยู่ในมุมที่ไร้คนประกบบ่อยมากๆ และมีโอกาสสับไกในทุกๆ เกม
ให้จับตาดูในเสาสองให้ดีๆ
แผงรุกของ สเปอร์ส คือบทพิสูจน์สำคัญ และอาจจะพูดได้เลยว่า นี่คือบทพิสูจน์แรกของ โซลชา ว่า คุณมีความเหมาะสมหรือชอบธรรม “จริงหรือไม่” กับการได้ทำงานอันทรงเกียรติที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปแบบถาวรในอนาคต
บทพิสูจน์นี้ไม่ใช่การตัดสิน แต่จะเป็นเครื่องบ่งชี้อนาคตที่น่าสนใจของ แมนฯยูไนเต็ด ที่แทบจะหลับไหลในยุคหลังการวางมือของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
ดังนั้นนี่คือเกมที่ไม่ควรพลาด ไม่ควรพลาดจริงๆ
ไม่ว่าจะคุณจะกด Like หรือเอานิ้วเขี่ยๆ ผ่านหน้าจอไปก็ตาม!!!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี