ทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย เตรียมลงสนามรอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึก เอเชี่ยนคัพ ดวลทัพ “มังกร” ทีมชาติจีน ที่สนาม ฮัสซา บิน ซายิด สเตเดี้ยม ในวันที่ 20 มกราคม 2562 เวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 HD
โดย “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กุนซือ พร้อมด้วย ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กองกลางของทีม ร่วมกันแถลงข่าวความพร้อม ภายในสนาม ฮัซซา บิน ซายิด สเตเดี้ยม เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่ง “โค้ชโต่ย” กล่าวว่า เวลานี้ความสมบูรณ์ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจของนักเตะทีมชาติไทยทุกคน พร้อมแล้วที่จะลงทำการแข่งขัน
“ประสบการณ์ในรอบแบ่งกลุ่มที่ผ่านมา เราได้เห็นจุดบกพร่องหลายอย่าง ที่เราได้นำมาแก้ไขและปรับปรุง ให้เกมมันดี และทำให้ทีมพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ผมรู้จักทีมชาติจีนมานานพอสมควร เพราะติดตามผลงานอยู่ตลอด ทั้งการพัฒนาทีม การพัฒนาลีกในประเทศ ซึ่งเราเองก็เตรียมวิธีการรับมือไว้แล้ว นักเตะของเราทุกคนมีความสามารถอยู่แล้ว และตอนนี้ ทุกคนมีความสุขกับการเล่น และสามารถดึงความสามารถตัวเองออกมาใช้ก็อยากให้แฟนบอลให้กำลังใจกันมากๆ ครับ”
จากนั้นในช่วงเย็น กุนซือวัย 49 ปี ได้นำลูกทีมลงฝึกซ้อม ซึ่งนอกจากเน้นไปที่เรื่องของสภาพร่างกาย และแท็กติก เป็นหลักแล้ว ยังมีการซ้อม ในเรื่องของการยิงจุดโทษไว้เช่นกัน ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที จึงแล้วเสร็จ ท่ามกลางบรรยากาศที่มุ่งมั่น
สำหรับเกมนี้ สภาพทีมของทัพ “ช้างศึก” จะขาด สุพรรณ ทองสงค์ และ อดิศร พรหมรักษ์ ปราการหลังคนสำคัญที่ติดโทษแบน แต่จะได้ พรรษา เหมวิบูลย์ กลับมาช่วยทีมอีกครั้ง ส่วนแดนกลางจะไร้ สรรวัชญ์ เดชมิตร ที่เจ็บเช่นกัน โดยช้างศึก จะมาในระบบ 3-5-2 ผู้รักษาประตูจะใช้ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ยืนเฝ้าเสา แนวรับ พรรษา เหมวิบูลย์ จะเล่นร่วมกับ มิก้า ชูนวลศรี และ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว ลงสนาม โดยมี ทริสตองโด และ ธีราทร บุญมาทัน เป็นวิงแบ๊กขึ้นเกมริมเส้น มาที่แดนกลาง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ จะเป็นห้องเครื่องร่วมกับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ พร้อมให้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นจอมทัพอยู่หลัง 2 คู่หัวหอกอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา และ อดิศักดิ์ ไกรษร ที่มีสถิติที่ดีในการทำประตูเมื่อเจอจีน ลงล่าตาข่าย
ทางฝั่ง ทีมชาติจีน ของ มาร์เซโล่ ลิปปี้ กุนซือชาวอิตาเลียน เกมนี้ปัญหาใหญ่อยู่ที่จะขาด หวู เล่ย ดาวยิงคนสำคัญ ที่ได้รับบาดเจ็บกระดูกบริเวณหัวไหล่หัก ทำให้แนวรุกต้องฝากความหวังเอาไว้ที่ เกา หลิน กองหน้าตัวเก่งจากกว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ รวมไปถึงแข้งตัวหลักอย่าง เจิ้ง จื่อ กองกลางจอมเก๋า และ จาง หลิน เผิง ปราการหลังตัวแกร่ง
สำหรับสถิติที่ดวลกันของทั้งคู่ เจอกันมาทั้งหมด 25 ครั้ง โดยจีนมีสถิติที่เหนือกว่า ชนะได้ถึง 17 ครั้ง ส่วนไทยชนะ 5 ครั้ง และ เสมอกัน 3 ครั้ง โดยเกมล่าสุดที่เจอกันคือแมทช์อุ่นเครื่องที่ไทย ปีที่แล้ว วันที่ 2 มิ.ย. 2561 โดย ไทย แพ้ไป 0-2
อนึ่งคู่นี้หากใครชนะจะผ่านเข้ารอบไปพบกับ ผู้ชนะระหว่าง อิหร่าน หรือ โอมาน ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี