ศึกชิงเข็มขัดแชมป์โลก “ซูเปอร์แชมป์” รุ่นเวลเตอร์เวท147 ปอนด์  ของสมาคมมวยโลก (WBA) ระหว่าง “แพ็กแมน” แมนนี่ ปาเกียว ยอดนักชกชาวฟิลิปปินส์ วัย 40 ตะบันกำปั้น กับ “วันไทม์” คีธ เธอร์แมนกำปั้นไร้พ่ายชาวอเมริกัน เจ้าของตำแหน่งแชมป์ ณ สังเวียนเอ็มจีเอ็ม แกรนด์ ลาสเวกัส, เนวาดา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21กรกฎาคม ที่ผ่านมา

โดยสถิติของทั้งคู่ ปาเกียว ขึ้นชก 70 ชนะ 61เคโอ 39 แพ้ 7 เสมอ 2 ส่วน เธอร์แมน ชก 30 ชนะ 22 เคโอ 22 ไม่เคยแพ้ และไม่มีการตัดสิน 1 ครั้ง ในการชกกับ ฟรานซิสโก การ์เซีย ปี 2009 ซึ่งการชกครั้งนี้ เธอร์แมน ถูกยกให้เป็นต่อ ด้วยความเป็นมวยที่สดกว่าอายุน้อยกว่า ปาเกียว ถึง 10 ปี

ผลปรากฏว่าเปิดฉากมาเพียงยกแรก ปาเกียว ที่เน้นรับแล้วหาจังหวะตอบโต้ ปลายยก กำปั้นฟิลิปปินส์ ดักปล่อยขวาเข้าปลายคางส่งคู่ชกลงไปนอนให้กรรมการนับถึง 8 ก่อนลุกมาสู้ต่อ จากนั้นตลอดทั้ง 12 ยก ปาเกียว และ เธอร์แมน ต่างแลกหมัดกันอย่างสนุก ก่อนที่กรรมการจะให้ ปาเกียว นั้นเป็นฝ่าย เธอร์แมน ไปด้วยคะแนนไม่เป็นเอกฉันท์ 113-114, 115-112 ,115-112 พร้อมคว้าเข็มขัดแชมป์โลก “ซูเปอร์แชมป์” รุ่นเวลเตอร์เวท147 ปอนด์ ของสมาคมมวยโลก (WBA) ไปครอง ขณะที่ เธอร์แมน นั้นต้องเสียสถิติแพ้เป็นครั้งแรกตลอดการขึ้นชก 30 ครั้ง ซึ่งหลังคว้าเข็มขัดแชมป์มาครอง ปาเกียว ได้เผยว่า

“เธอร์แมน เป็นนักชกที่ดีและแข็งแกร่งมาก ก่อนชกผมโดนหยามเอาไว้ไม่น้อย แต่ผมไม่สนใจ เพราะเชื่อว่านั่นคือการโปรโมท และผมก็ต้องการที่จะทำให้ดีที่สุด ส่วนปีหน้าผมต้องการที่จะขึ้นชกอีกครั้ง ขณะที่หาก เธอร์แมน ต้องการแก้มือผมก็พร้อมเช่นกัน แต่ตอนนี้ผมจะขอกลับไปทำหน้าที่ สว. ที่ ฟิลิปปินส์ บ้านเกิดก่อน”กำปั้นวัย 40 ปีกล่าว

ทั้งนี้มีการเปิดเผยว่า ปาเกียว จะได้ค่าตัวกลับบ้านไปมากกว่า 20 ล้านเหรียญ (ราว 615 ล้าน บาท) ในขณะที่ คีธ เธอร์แมน จะได้ค่าตัวกลับบ้านไป 8 ล้านเหรียญ (ราว 246 ล้านบาท)